การตกแต่งผนัง
การตกแต่งผนังแบบปูนฉาบหยาบ โดยอาศัยบางครั้งผนังที่ฉาบปูนไม่เรียบ โดยฉาบเหมือนไม่ตั้งใจฉาบ จะมี พื้นผิว (Texture) เกิดขึ้น และมีเงาเมื่อมีแสงมากระทบ การฉาบปูนลักษณะเช่นนี้แตกต่างกับการฉาบปูนที่เรียกว่าสลัดหยาบ เพราะการฉาบปูนดังกล่าวนี้จะไม่ค่อยแสดงถึงความตั้งใจ ซึ่งบางครั้งอาจดูเหมือนงานไม่เรียบร้อย ถึงยังไง ๆ ก็ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศแบบง่าย ๆ ที่ไม่เป็นพิธีการมากเกินควร แลดูเป็นธรรมชาติ แต่จะเห็นได้ว่าลักษณะการแต่งผิวปูนผนังเช่นนี้ ไม่เป็นที่นิยมกันในบ้านพักแบบถาวรนักเท่าไหร่ จะมีก็เป็นบ้านพักตากอากาศเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เป็นอาคารร้านอาหารที่ต้องการสร้างบรรยากาศธรรมชาติ
การประดับตกแต่งผนังด้วยวัสดุธรรมชาติ สำหรับการประดับตกแต่งผนัง เป็นทางเลือกของการตกแต่งผนังอีกอย่าง ซึ่งมีทั้งวัสดุที่เป็นหิน ไม้ และอิฐ การประดับผนังชนิดนี้อาจใช้ราคาสูงกว่าแบบฉาบปูน เป็นการแต่งผนังด้วยการติดตั้งวัสดุที่เป็นธรรมชาติลงไปพื้นผิวปูน ที่ฉาบเตรียมไว้
อย่างไรก็ตาม เทคนิคการตกแต่งผนังห้องเพื่อให้ดูน่าสนใจ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการแต่งผนังทุกด้าน เพราะจะทำให้ดูน่าเบื่อ พยายามให้ความสำคัญกับผนังห้องไม่เกินสองด้าน และควรเลือกแต่งผนังอาคารให้มีความกลมกลืนต่อเนื่องกัน ส่วนผนังที่เหลือปล่อยให้เป็นความเรียบง่ายบ้างก็ได้ จะทำให้ผนังที่แต่งไว้ดูเด่นขึ้นมาทันทีครับ
การประดับผนังด้วยแผ่นไม้ ไม้จะเป็นวัสดุที่ค่อนข้างความรู้สึกที่นิ่มนวลกว่าหิน และอิฐ และแลดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่น้อยเลยทีเดียว มีหลายครั้งที่วัสดุที่เป็นไม้ที่สวยงามถูกนำมาติดตั้งประดับผนังทั้งผืน แต่กลับออกมาไม่สวยงามเพราะฝีมือในการย้อมสี ย้อม Lacquer หรือ Urethane ของช่างตกแต่งที่กลบลวดลายของธรรมชาติๆไปหมดสิ้น
การประดับผนังด้วยไม้ จำเป็นต้องเลือกประเภทของไม้ด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งลายไม้และสีของไม้บางประเภททำให้ห้องดูมืดทึบอึดอัด และน่ากลัว จะเห็นได้ว่า Particle Board ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปในปัจจุบันมีผู้นิยมใช้สี Bleach หรือสีเนื้อไม้อ่อน ๆ มากกว่าสีอื่น เพราะทำให้ห้องดูสว่างและมีโอกาสเข้ากับเครื่องเรือนประเภทอื่น สีอื่นได้อีก
การประดับผนังด้วยหิน มักนิยมทำกันในบ้านพักตากอากาศ หินทะเลกับหินภูเขานั้นแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้ถูกกับทำเลที่ตั้งที่เป็นธรรมชาติอยู่นอกอาคาร ปัญหาอย่างหนึ่งของการตกแต่งผนังด้วยหินคือ ฝีมือช่างเรียงหิน จะสวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝีมือบุคคลผู้นี้เป็นอย่างมาก ช่างที่มีฝีมือ เขาจะรู้ว่าควรจัดเรียง pattern ของหินอย่างไร และควรจะวางเรียงห่างกันเท่าไหร่ ผนังจึงจะดูไม่เป็นผนังฟันหลอ
การประดับผนังด้วยอิฐ นั้นมีสองวิธี วิธีแรกคือใช้อิฐทนไฟมาเป็นตัวก่อผนังเลยแบบเดียวกับบ้าน ทางตะวันตก (ในต่างประเทศ อาชีพช่างเรียงอิฐ หรือที่เรียกว่า Bricklayer เป็นอาชีพที่มีราคาค่าตัวแพงไม่น้อย เพราะต้องอาศัยทักษะสูง เป็นการเรียงอิฐโชว์แนว แต่แตกต่างไปจากช่างเรียงอิฐมอฐบ้านเราแน่ ๆ ครับ) บ้านในต่างประเทศนิยมก่อสร้างด้วยอิฐ โชว์แนวอิฐดูสวยงาม ที่ดูสวยงามก็เพราะการเรียงอิฐของเขาส่วนใหญ่เรียงอยู่บนโครงสร้าง อาคารที่เป็นแบบผนังรับน้ำหนัก (bearing wall)เป็นส่วนมาก สำหรับบ้านเราไม่นิยมสร้างบ้านสองชั้นโดยอาศัยผนังรับน้ำหนักโดยเฉพาะกรุงเทพ ฯ เพราะกรุงเทพ ฯ เป็นดินอ่อน จึงต้องสร้างอาคารเป็นแบบที่เรียกว่า Skeleton โดยมีเข็มเป็นตัวช่วยรับน้ำหนัก ถึงอย่างไร ในประเทศไทยเราตามต่างจังหวัดที่ๆ มีภูเขาเยอะ ๆ ก็สามารถสร้างบ้านแบบผนังรับน้ำหนักได้เช่นกัน
มาในช่วงหลัง มีการผลิตแผ่นอิฐบาง ๆ มาใช้เพื่อประดับผนังทับผนังปูนออกมาจำหน่าย ซึ่งมีอยู่หลายยี่ห้อ หลายโรงงาน บางโรงงานก็ดูสวยงามเป็นธรรมชาติดีทั้งสีสรร และขนาด บางโรงงานทำออกมาแล้ว ปล่อยให้เป็นผนังฉาบเรียบยังสวยกว่า แผ่นอิฐนี้ดูคล้ายกับแผ่นกระเบื้องเซรามิค ผิดกันตรงที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่า แผ่นอิฐนี้ทำจากดินแล้วนำมาเผาในเวลาที่น้อยกว่า มีสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
เงื่อนไขของการติดผนังด้วยแผ่นอิฐนี้มีสิ่งที่ต้องระวังอยู่บางประการ คืออย่าให้ช่างตกแต่งใช้ปูนธรรมดามาเป็นกาวติดแผ่นอิฐนี้กับผนังโครงสร้างโดยเด็ดขาด เพราะไม่นานแผ่นอิฐนี้จะค่อย ๆ ร่อนออกทีละอันสองอัน การแก้ไขปิดกลับที่เก่าอาจไม่เหมือนเดิม ควรใช้ปูนชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติสำหรับการติดแผ่นอิฐนี้โดยเฉพาะ
อีกประการหนึ่งคือการเว้นร่องระหว่างแผ่นอิฐ ต้องตัดสินใจว่าจะยาแนว หรือปล่อยเว้นว่าง ถ้ายาแนวหนาเกินไป ผนังอิฐของท่านจะดูกระด้างขึ้นมาทันที ถ้าหากจะเว้นไม่ยาแนว ควรพิจารณาว่าจะเว้นห่างไว้สักกี่มิลลิเมตรถึงจะเพียงพอทำให้ดูสวยงาม (แผ่นอิฐพวกนี้ มักจะไม่ค่อยเรียบ ดูเหมือนรูปร่างจะบิดตัวเล็กน้อย หากวางเรียงกันแล้ว เมื่อมีแสงไปมากระทบเข้า จะเห็นเป็นเงาพื้นผิว (texture) ทันที โดยเฉพาะแบบประเภทที่ไม่ต้องยาแนว)
17/7/2002
สไตล์การตกแต่งภายในบ้าน