|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ชุมชนน่าอยู่เพื่อคนทุกวัยต่อยอดความสำเร็จบ้าน-คอนโด LPN |
|
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคไทยแลนด์ 4.0 ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวสุดล้ำไปมากแค่ไหน หากแต่วงการที่อยู่อาศัยซึ่งเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์ จิ๊กซอว์สำคัญและกลายเป็นตัวช่วยหนุนหลังยอดขายโครงการในยุคนี้หลีกเลี่ยงไม่พ้นการเอาใจใส่ในด้านบริการหลังการขาย(AfterSaleServices)โดยเฉพาะบริการในด้านนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร-นิติบุคคลอาคารชุด
อาจกล่าวได้ว่ามีน้อยรายมากที่จะทำอย่างจริงจังในเรื่องนี้และอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงรายเดียวที่เซตอัพให้เป็นโมเดลธุรกิจตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งองค์กรเมื่อ26ปีที่แล้วเรากำลังพูดถึง"LPN-บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์จำกัด(มหาชน)" ค่ายอสังหาฯที่ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อคอนโดมิเนียมตลาดกลาง-ล่าง เนื่องจากห้องชุดมีราคาหลัก ๆ อยู่ระหว่าง 1-3 ล้านบาท
26 ปีโมเดลชุมชนน่าอยู่
อยากรู้ว่า LPN ให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายบ้านและคอนโดฯ ในเครือแบรนด์ลุมพินีอย่างไร สามารถตรวจสอบได้จากการวางโครงสร้างองค์กร โดยบริษัทมีตำแหน่ง "กรรมการผู้จัดการ" 5 ตำแหน่ง ในจำนวนนี้เป็นเอ็มดีถึง 2 ตำแหน่งที่รับผิดชอบนิติบุคคลโครงการ
ประกอบด้วย "สมศรี เตชะไกรศรี" บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด รับผิดชอบนิติบุคคลในเครือ และ "สุรัสวดี ซื่อวาจา" บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด รับผิดชอบธุรกิจแม่บ้านในรูปแบบโซเชียลเอ็นเตอร์ไพรส์ บางทีก็เรียกว่าบริการแจ๋วคอนโดนั่นเอง
โดยเอ็มดีอีก 3 ตำแหน่ง แบ่งรับผิดชอบดังนี้ "โอภาส ศรีพยัคฆ์" เอ็มดี LPN, "ปราโมทย์ ชัยพูล" บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด รับผิดชอบด้านการก่อสร้าง, "จรัญ เกษร" บริษัท พรสันติ จำกัด รับผิดชอบแบรนด์บ้านลุมพินีที่เป็นโครงการแนวราบ
จุดเน้นบริการหลังการขายค่ายนี้ ดำเนินการผ่านแนวคิด "ชุมชนน่าอยู่" (Vibrant Communication) รูปแบบคือ เมื่อก่อสร้างบ้าน-คอนโดฯขาย โอนกรรมสิทธิ์แล้ว บริษัทตามมาดูแลนิติบุคคลให้ด้วย
ประชุมกรรมการ 100 ชุมชน
ล่าสุด สถิติมี 122 ชุมชน (โครงการ) ห้องชุดไม่ต่ำกว่า 112,000 ยูนิต บริหารจัดการครบถ้วนทั้งการบริหารทรัพย์สินส่วนกลาง สิ่งแวดล้อม งบประมาณการเงิน ความปลอดภัย คุณภาพชีวิตในชุมชนเดียวกัน
จุดน่าสนใจคือ LPN ไม่ได้หยุดนิ่งเพียงแค่การรับบริหารนิติบุคคลให้เท่านั้น ทุก ๆ ปีจะมีการต่อยอดให้มีพัฒนาการขึ้นไปเรื่อย ๆ สะท้อนออกมาเป็นนโยบายการจัดประชุม "กรรมการนิติบุคคล" ปีละครั้ง ล่าสุดปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว
"พิเชษฐ์ ศุภกิจจานุสันติ์" กรรมการบริหาร และ 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งบริษัท พูดเสมอ ๆ ว่า การบริหารนิติบุคคลเป็นเรื่องยาก แต่การนำคณะกรรมการของแต่ละโครงการให้โคจรมาเจอกัน มีโอกาสที่จะรวมตัวกันเพื่อสร้างแรงอำนาจต่อรองกับบริษัท ในขณะที่บริษัทกลับมองต่างมุมว่าเป็นความท้าทายมากกว่า
สำหรับธีมปีนี้ นำเสนอในหัวข้อ "ชุมชนน่าอยู่ สำหรับคนทุกวัย" โดยให้นิยามว่า "...ผู้อยู่อาศัยทุกวัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีองค์ประกอบที่เหมาะสม มีคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสังคมที่ดี รวมทั้งจิตสำนึกของการร่วมใจ ห่วงใย และแบ่งปันซึ่งกันและกัน"
ต่อยอดดูแลเด็ก-ผู้สูงวัย
ในฐานะผู้นำด้านพร็อพเพอร์ตี้แมเนจเมนต์ LPN ต่อยอดชุมชนน่าอยู่ให้เข้มข้นขึ้นไปอีก โดยกลับมาสแกนช่วงอายุของ "เจ้าของร่วม" หรือเจ้าของห้องชุดในเครือ พบว่าสถิติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเริ่มเห็นนัยสำคัญ นั่นคือ ปี 2558 ผู้พักอาศัยกลุ่มหลักเป็นวัยทำงาน 89% วัยรุ่น 7% เด็ก 2% ผู้สูงอายุ 2%
ในขณะที่ปี 2559 สัดส่วนผู้พักอาศัยขยับเล็กน้อยเป็นกลุ่มวัยทำงานเหลือ 85% วัยรุ่นเพิ่มเป็น 10% เด็กเพิ่มเป็น 3% ผู้สูงวัยเท่าเดิมที่ 2%
ข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมาคือผู้พักอาศัยเริ่มอายุน้อยลง กับสิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องอิงกับกระแสสังคมประชากรผู้สูงวัยของประเทศไทย นำไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในโครงการเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ ประกอบด้วย เพิ่มห้องกิจกรรมผู้สูงวัย ห้องปฐมพยาบาล มุมพยาบาล ปุ่มฉุกเฉินภายในห้องชุด (ติดตั้งเพิ่มถ้าต้องการ) ราวจับบริเวณสระว่ายน้ำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ "ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข" ซีอีโอ LPN อธิบายเคล็ดลับเพียงสั้น ๆ ว่า การจัดประชุมที่ผ่านมาถือเป็นข้อสรุปและเป็นคำตอบที่สำคัญว่า ได้นำหลักการชุมชนน่าอยู่ที่จับต้องไม่ได้ มาปฏิบัติให้จับต้องได้
ผลลัพธ์ของชุมชนน่าอยู่สะท้อนออกมาเป็นยอดขายแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) สัดส่วน 30-40% ในปัจจุบัน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-11-2559
|
|
|
|
|
