Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ซีอีโอ "กิตติ บุญประคอง" วัสดุทดแทน คอนวูด รุก-รบครบวงจร |
|
สัมภาษณ์
เทรนด์รักษ์โลกในยุคปัจจุบันทำให้ตลาดวัสดุทดแทนไม้ธรรมชาติมาแรงอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในแบรนด์หลัก "คอนวูด" ในเครือปูนซีเมนต์นครหลวง หรือปูนอินทรี ครองตำแหน่งเบอร์ 3 เหนียวแน่น "กิตติ บุญประคอง" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้บริหารลูกหม้อ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางธุรกิจและแผนบุกตลาดปีหน้า
- พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้
เทรนด์การตกแต่งบ้าน โดยทั่วไปลูกค้าคนไทยยังชอบไม้อยู่ แต่บางช่วงเวลาธีมการแต่งบ้านนิยมสไตล์ลอฟต์ ซึ่งเป็นปูนเปลือย หรือนิยมใช้กระจก ก็มีผลต่อตลาดไม้เทียมเหมือนกัน
ด้านยอดขาย ปีนี้ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาท โตจากปีก่อน 1-2% ผลงาน 10 เดือนตัวเลขยังไปได้ตามเป้า ถ้า 2 เดือนสุดท้ายทรงตัวก็น่าจะไม่ผิดพลาด เรามีมาร์เก็ตแชร์ 14% เป็นอันดับ 3 ของตลาด รองจากเอสซีจีกับเฌอร่า ปี′60 คาดว่ายังโต 1-2% เช่นเดิม
- กลยุทธ์การแข่งขัน
คอนวูดมีผลิตภัณฑ์ 200 ชนิด กลุ่มหลักเป็นไม้ฝาและไม้พื้น แต่ชัดเจนว่าต่อจากนี้เราเน้นสินค้ามูลค่าเพิ่มเรียกว่าไม้เพื่อการตกแต่งหรือ Decorative เพื่อกระตุ้นให้สินค้าเข้าไปอยู่ในห้องทุกห้องของบ้านได้มากขึ้น เชื่อว่าเป็นจุดแข็งที่เหนือกว่าเจ้าอื่น เนื่องจากเป็นนวัตกรรมไฟเบอร์ซีเมนต์แบบใหม่ที่เรียกว่า "โฟร์ออน" ทำออกมาเหมือนไม้จริงมาก สามารถนำไปเซาะร่องได้ มีเสี้ยนไม้เหมือนไม้จริง เจ้าอื่นเลียนแบบได้ยาก
ปีนี้เพิ่มบริการ i-Service ลูกค้ามาที่คอนวูดเรามีทีมช่างรับออกแบบ คำนวณราคา ติดตั้งให้ครบวงจร ขณะนี้เปิด 4-5 สาขาในกรุงเทพฯ เชียงใหม่1 สาขา ปีหน้ามีแผนขยายในกรุงเทพฯอีกเท่าตัว ต่างจังหวัดเตรียมเปิดเพิ่มใน จ.ภูเก็ต ขอนแก่น
อีกกลยุทธ์ที่เน้นคือตลาดส่งออก มีสัดส่วน 5-7% จากยอดขายรวม 1,500 ล้านบาท ต้องการผลักดันให้ถึง 10% ปัจจุบันส่งออกกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และเรามีโรงงานกำลังผลิต 5.6 หมื่นตัน/ปีในอินโดนีเซียที่เริ่มเดินเครื่องปีก่อน เพิ่งใช้กำลังผลิต 60-70%
ยอดขายที่ดีที่สุดคือเวียดนามกับลาว เพราะวัฒนธรรมชอบใช้ไม้แต่งบ้านเหมือนคนไทย ส่วนอินโดนีเซียก็เป็นตลาดที่คาดหวังในอนาคตเพราะใช้ไม้แต่งบ้านเช่นกัน แต่ไม้จริงของที่นั่นยังหาได้ง่ายอยู่ ตลาดใหม่ ๆที่กำลังบุกปีนี้เริ่มที่ฟิลิปปินส์ ดูไบ
- ช่องทางขายมาแรง
ปกติคอนวูดทำ B2B ขายเข้าโครงการจัดสรร 60% อีก 40% ขายผ่านร้านค้าวัสดุ โดยแบ่ง 25% ในโมเดิร์นเทรดวัสดุ 15% ในร้านค้าแบบดั้งเดิม ที่ผ่านมากลุ่มโมเดิร์นเทรดเปิดสาขามากขึ้น ทำให้การขายผ่านช่องทางนี้โตตามด้วย 10% บริษัทมีงบฯการตลาดเข้าไปจัดดิสเพลย์จุดละ 3 แสนบาท ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะในโมเดิร์นเทรด ถ้าร้านค้าวัสดุดั้งเดิมมีการปรับพื้นที่ให้ทันสมัยบริษัทก็เข้าไปจัดม็อกอัพด้วย
- สถานการณ์ตลาดปี′59-60
ตลาดวัสดุทดแทนไม้ปี′58 มีมูลค่า 6-7 พันล้านบาท ไม่รวมสมาร์ทบอร์ด ปีก่อนค่อนข้างซบเซาโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง′58 ตลาดดิ่งลงชนิดเบรกไม่อยู่ ปีนี้ค่อนข้างดีขึ้นแล้ว แต่ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังค่อนข้างอืด ส่งผลกระทบถึงกลุ่มวัสดุด้วย
สำหรับปี′60 น่าจะมีโอกาสสำหรับวัสดุทดแทนมากขึ้น คาดกันว่าบ้านแนวราบมาแรงหลังจากปีนี้ดีเวลอปเปอร์แต่ละรายเปิดตัวคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนาน โอนปี′61 แปลว่าปีหน้าบริษัทอสังหาฯต้องพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นเพื่อถมช่องว่างรับรู้รายได้ปี′60 แต่แนวโน้มก็ไม่ได้เติบโตมากในระดับที่ทำให้ตลาดวัสดุทดแทนบูมมากมาย เพียงแต่จะทรงตัวได้ดีเพราะปัจจุบันมีผู้เล่นหลายรายทำให้แข่งขันสูง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-11-2559
|
|
|
|
|