Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ฮิตาชิ"เปิดตัวลิฟต์ประหยัดพลังงานเจาะห้องชุดตลาดกลาง-บน |
|
"ฮิตาชิ" เปิดตัวลิฟต์รุ่นใหม่ เจาะฐานคอนโดมิเนียมตลาดกลาง-บน ทุ่มงบฯ 300 ล้าน ขยายกำลังผลิตเพิ่มปี′63 รุกส่งออกเอเชีย-ยุโรป-ตะวันออก
นายธเนศ ยงรัตนมงคล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บจ. สยามฮิตาชิเอลลิเวเตอร์ ผู้ผลิตจำหน่ายติดตั้งและบริการบำรุงรักษาลิฟต์ แบรนด์ "ฮิตาชิ" เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวทำให้ตลาดลิฟต์ในประเทศชะลอการสั่งซื้อไปด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐบาลจะเข้ามาช่วย ทำให้เกิดการก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าตลาดลิฟต์ในปีนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 5%
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท เติบโต 3-4% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2,900 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 60% และส่งออก 40% ทั้งนี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้การเซ็นสัญญาสั่งซื้อลิฟต์ของบริษัทชะลอการเซ็นสัญญากว่า 30-40% โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม
ส่วนแผนดำเนินธุรกิจปีนี้ได้มีการเปิดตัวลิฟต์รุ่นใหม่ AUG-SN1 จุดเด่นเน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยเจาะกลุ่มตลาดคอนโดฯระดับกลาง-ล่าง กลุ่มราคาประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม. ถือเป็นครั้งแรกในการเจาะตลาดกลุ่มนี้ จากเดิมที่เน้นเจาะกลุ่มตลาดบนราคาประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 900-1,000 ตัว หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท
รวมถึงจะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี และอุดรธานี งบลงทุน 3-4 ล้านบาท/สาขา จากเดิมมีอยู่ 13 สาขา ด้านแผนระยะยาวเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2563 จากปัจจุบัน 3,200 ตัว/ปี เป็น 5,000 ตัว/ปี งบลงทุน 200-300 ล้านบาท ส่งผลให้การส่งออกจะเพิ่มมากขึ้นในประเทศแถบเอเชีย ยกเว้นประเทศจีนและญี่ปุ่น ที่มีฐานการผลิตเดิมของบริษัทอยู่แล้ว รวมถึงยุโรป และแถบตะวันออก ทำให้อนาคตสัดส่วนรายได้ในประเทศจะอยู่ที่ 20% และส่งออก 80%
นอกจากนี้ได้มีการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะนี้ได้มีการลงทุนในประเทศเมียนมา และกัมพูชา ในรูปแบบการร่วมทุน ซึ่งธุรกิจที่ทำ เช่น คอนโดฯ ห้างสรรพสินค้า โดยมีรายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท ในปีหน้าจะเข้ารุกตลาดประเทศลาว ในรูปแบบการขยายสาขา ทั้งนี้มองว่าตลาดในอาเซียนยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีขนาดที่เล็กอยู่ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-10-2559
|
|
|
|
|