Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ชี้ช่องลงทุน "กัมพูชา" รับเหมา-อสังหา-โลจิสติกส์มาแรง |
|
ตลาดการค้าการลงทุนวันนี้ไม่ใช่แค่ภายในประเทศ แต่มองไกลไปได้ถึงระดับภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม) ล่าสุดคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งออกและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ (D4) จับมือเอสซีจีจัดงานเสวนา "Grow Together with our Best Neighbor, Cambodia" : เสริมความรู้คู่การลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน "กัมพูชา" ช่วยชี้ช่องธุรกิจมาแรง หนึ่งในนั้นมีการรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อเช่า-เพื่อขายติดโผ
เปิดประเด็นโดย "อารีย์ ชวลิตชีวินกุล" Vice President เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า ตลาดกัมพูชาเป็นที่เฝ้าจับตาของนักลงทุนทั่วโลกในฐานะ "ดาร์ลิ่ง ออฟ อาเซียน" เนื่องจากมีความพร้อมหลายด้าน แนวโน้มอัตราเติบโตจีดีพีเฉลี่ย 7% ต่อเนื่อง ที่สำคัญมีพรมแดนติดกับประเทศไทย
สินค้าไทยแชร์ 40%
"ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร" เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กล่าวว่า การนำเข้าของกัมพูชา สินค้าไทยถือเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่านำเข้า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี มีมาร์เก็ตแชร์ 40% เป็นสินค้าพรีเมี่ยมในสายตาลูกค้าชาวกัมพูชา โดยมีทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทยมากกว่าสินค้าจีนหรือเวียดนาม ปัจจัยเด่นที่มีผลต่อธุรกิจ คือ 1.ประชากรกัมพูชาเกิดใหม่จำนวนมาก โดย 15 ล้านคนมีอายุเฉลี่ย 24 ปี สัดส่วน 70% ของประชากรทั้งประเทศมีอายุต่ำกว่า 35 ปี นั่นหมายความว่าพฤติกรรมผู้บริโภคต้องการสินค้าวัยรุ่น เช่น ขนมขบเคี้ยว 2.ยานยนต์ ซึ่งลูกค้ากัมพูชานิยมใช้รถมือสองนำเข้าจากสหรัฐ ทำให้ธุรกิจซ่อมรถยนต์น่าสนใจมาก
3.อุตสาหกรรมเด่น คือ การท่องเที่ยว เนื่องจากกัมพูชามีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกทั้งนครวัด-นครธม ดึงดูดชาวต่างชาติโดยเฉพาะเวียดนาม เกาหลี จีน ทำให้กิจการโรงแรม ร้านอาหาร บริษัททัวร์ การขนส่งมีความต้องการสูง
อีกส่วนที่กำลังเติบโตเป็นเรื่องอินฟราสตรักเจอร์กับภาคอสังหาริมทรัพย์ ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯกัมพูชาโต 33% เนื่องจากเปิดช่องให้ชาวต่างชาติถือครองห้องชุดได้ตั้งแต่ชั้นที่ไม่ติดพื้นดินขึ้นไป จึงมีลูกค้าจากทั่วโลก อาทิ จีน สิงคโปร์ เกาหลีเข้าไปลงทุน ในขณะที่อุปสรรคด้านภายในหนีไม่พ้นโครงสร้างพื้นฐาน ถนนส่วนใหญ่ในกัมพูชายังไม่ราดยาง ทำให้รัฐบาลกัมพูชาต้องเร่งลงทุนพัฒนาประเทศ จึงเป็นโอกาสของบริษัทรับเหมา
แนะศึกษาตลาดท้องถิ่น
"ชนิตร ชาญชัยณรงค์" ประธานสภาธุรกิจไทย-กัมพูชากล่าวต่อว่า การสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาลกัมพูชาเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่นอน ปัจจุบันมีแผนส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศแล้วตั้งแต่ปี 2558 ทางกัมพูชาต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างมากโดยเฉพาะไฟฟ้า ส่วนกลุ่มอุตฯเป้าหมายสำคัญมีกลุ่มยานยนต์กับอิเล็กทรอนิกส์
"มีนักธุรกิจเยอะมากที่ต้องการเข้าไปลงทุนในกัมพูชาแต่ยังไม่ทราบจะลงทุนอะไรขอให้ลองนั่งรถบัสหรือขับรถจากไทยข้ามแดนไปถึงพนมเปญออกไปถึงโฮจิมินห์(เวียดนาม)และลองใช้ชีวิตกับคนท้องถิ่นให้เห็นสภาพบ้านเมืองชัดขึ้นจะทำให้ตีโจทย์แตก"
ดาวรุ่ง"อสังหา-โรงแรม"
ด้าน "จีรนันท์ วงษ์มงคล" อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ ประเทศกัมพูชากล่าวว่า การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภคเป็นธุรกิจดาวรุ่ง ประชากรคนรุ่นใหม่มีมาก อนาคตอันใกล้มีการแยกครอบครัวและต้องการที่อยู่อาศัยใหม่แน่นอน รวมถึงสินค้าไอทีทั้งหมด โอกาสนักลงทุนไทยสามารถเข้าไปลงทุนหรือรับบริหารโรงแรม-อพาร์ตเมนต์ได้ สอดรับกับการท่องเที่ยวที่กำลังสดใส
สำหรับกฎหมายการลงทุนค่อนข้างเสรี สามารถจดทะเบียนบริษัทโดยต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น 100% ได้ แต่ถ้าหากต้องการซื้อที่ดินต้องร่วมลงทุนกับคนกัมพูชา สัดส่วนกัมพูชา : ต่างชาติเท่ากับร้อยละ 51 : 49 |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-10-2559
|
|
|
|
|