|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| THBA จี้แก้น้ำท่วมอย่าให้ซ้ำรอยปี′54 เผย 9 เดือนแรกรับสร้างบ้านยอดร่วง กทม.-ต่างจังหวัดติดลบถ้วนหน้า |
|
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association-THBA) เผยว่า ปริมาณและมูลค่าบ้านสร้างเองในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาไม่ฟื้นตัวดังที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยหลักเป็นเพราะ 1.ฤดูฝนที่ไม่เอื้อต่อการตัดสินใจสร้างบ้านในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา 2.ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการลงทุนสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยมากขึ้น และ 3.ความไม่มั่นใจของผู้บริโภคต่อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมตลาดบ้านสร้างเองจะไม่ฟื้นตัว แต่สำหรับกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านถือว่ายังน่าพอใจเมื่อพิจารณาจากตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเดียวกัน
THBA เคยคาดการณ์ปริมาณและมูลค่าตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศปีนี้ 8 หมื่นล้านบาทเศษ โดยกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่ให้บริการแบบครบวงจรครองส่วนแบ่งตลาด 1.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ช่วง 9 เดือนเศษที่ผ่านมา พบว่า กำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านคึกคักเฉพาะช่วงไตรมาสแรก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2-3 กำลังซื้อกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง
นอกจากนี้ขนาดบ้านและมูลค่าต่อหน่วยก็ลดลง จึงคาดว่ามูลค่ารวมตลาดปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง 4-5% คิดเป็นมูลค่า 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท หากมีปัจจัยลบใดที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนมากระทบ เช่น ปัญหาน้ำท่วม โอกาสที่มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านปรับลดลงแตะตัวเลข 2 หลักหรือลด 10% เป็นอย่างน้อยก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน
"ปัจจัยที่น่ากังวลที่ควรต้องเฝ้าระวังคือภัยธรรมชาติหรือน้ำท่วม โดยขณะนี้หลายๆ จังหวัดเริ่มประสบปัญหาน้ำท่วมขังแล้ว ฉะนั้นหากรัฐบาลบริหารจัดการน้ำไม่ดี อาจไม่ใช่เพียงแค่ฉุดกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง แต่ยังจะสร้างความเสียหายกับงานระหว่างก่อสร้างของผู้ประกอบการ รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ เหมือนเช่นเมื่อปี′54"
สำหรับ ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 4/59 แนวโน้มมีโอกาสขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ประเมินจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศ ชที่ปรับตัวดีขึ้นจากการลงทุนโครงการภาครัฐ รวมถึงการรุกตลาดของผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ โดยผู้นำตลาดกลุ่ม Top 5 ยังคงจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้วยความได้เปรียบที่มีสายป่านยาวและผู้บริโภคให้ความเชื่อถือมากกว่า โดยเฉพาะรายที่มีแบรนด์เข้มแข็ง และยังสามารถให้บริการสร้างบ้านได้ครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้านสรุปภาพรวมตลาดบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย. 2559) พบว่า สัญญาณฟื้นตัวยังไม่ดีนัก ปัจจัยหลักมาจากในช่วงไตรมาส 3/59 มีฝนตกชุก กำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคส่วนหนึ่งชะลอการตัดสินใจ ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจสร้างบ้านมีการแข่งขันกันรุนแรง โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัด ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านและผู้รับเหมาสร้างบ้านรายย่อยทั่วไป
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างก็มีการแข่งขันรุนแรงทั้งกลุ่มวัสดุโครงสร้างและวัสดุตกแต่งบ้าน อาทิ คอนกรีตสำเร็จรูป เหล็ก อิฐมวลเบา กระเบื้องหลังคา ประตู-หน้าต่าง วัสดุปูพื้น-ผนัง สีทาบ้าน ฯลฯ ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับลดลง ส่งผลดีไปถึงผู้บริโภคเมื่อผู้ประกอบการสร้างบ้านต้นทุนต่ำลงก็นำมาลดราคาค่าก่อสร้างบ้านให้ลูกค้าที่ตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากบรรยากาศเศรษฐกิจไม่คึกคักเท่าที่ควร ผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลางต่างชะลอการใช้งบการตลาดและกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพราะประเมินว่ากำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านยังไม่ฟื้นตัว โดยผู้ประกอบการกลุ่มนี้สายป่านไม่ยาว ดังนั้นจึงหันมาประคองตัวเพื่อรอดูสถานการณ และรอการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค ในขณะที่กลุ่มผู้นำตลาดกลับมีการลงทุนสวนทาง อาทิ บางรายขยายสาขาในทำเลใหม่ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทำเลเปิดสาขายังจำกัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก โซนได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ถนนรามอินทรา ถนนพระรามสอง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรับสร้างบ้านภูธรก็มุ่งขยายสาขาใหม่ในต่างจังหวัดเป็นหลัก ทำเลยอดนิยม ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา ฯลฯ
นายสิทธิพรประเมินตลาดบ้านสร้างเองไตรมาสสุดท้ายปีนี้ด้วยว่า แนวโน้มกำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผ่านช่วงฤดูฝนและเข้าสู่ช่วงที่ประชาชนนิยมสร้างบ้านหลังใหม่ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวและฤดูร้อนซึ่งมีช่วงเวลานาน 6-7 เดือน เหมาะแก่การเตรียมตัวและปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ ในด้านภาพรวมเศรษฐกิจประเทศที่แม้จะฟื้นตัวไม่ชัดเจน แต่ก็ถือว่าค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น ดูจากจีดีพีไตรมาส 1/59-2/59 เติบโตเฉลี่ย 3.2% ใกล้เคียงกับธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ไว้ รวมทั้งจีดีพีไตรมาส 3/59 มีแนวโน้มยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ส่งผลด้านจิตวิทยาและความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น แต่ผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังสูง โดยความต้องการสร้างบ้านกลุ่มระดับราคา 1-3 ล้านบาท และ 4-5 ล้านบาทยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุด
+++ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-10-2559
|
|
|
|
|
