เอพีเปิดตัวโครงการแฟลกชิปใหม่ "บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา" ลูกผสมบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮมระดับบน บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่พร้อมสวนบนชั้น 3 เริ่ม 25 ล้านบาท เผยยอดขายแนวราบเป็นไปตามเป้า เชื่อตลาดตอบรับดี 4 เดือนสุดท้ายลุยเปิดอีก 6 โครงการแนวราบ มูลค่า 6,400 ล้านบาท

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ
สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า
บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา
ในเดือนพ.ย.นี้ ทำเลตั้งอยู่ในซ.สุคนธสวัสดิ์ 19 เชื่อมต่อได้ทั้งถ.เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา
และถ.เกษตรนวมินทร์ ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 2,560
ล้านบาท



ซึ่งเป็นการจับกลุ่มนิชมาร์เก็ตของตลาดบ้านเดี่ยว
เนื่องจากการศึกษาพบว่าบ้านเดี่ยวในโซนเอกมัย-รามอินทรา มีบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 15 ล้านบาท ทั้งหมด
24,332 ยูนิต คิดเป็น 93%, ราคา 15-20 ล้านบาท 129 ยูนิต คิดเป็น 1% และราคามากกว่า 20 ล้านบาท 1,504
ยูนิต หรือ 6% ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียง 3 โครงการ 50 ยูนิตที่ตั้งอยู่ในรัศมี 10
กม.จากสถานีรถไฟฟ้าจตุจักร
ทำให้เอพีเล็งเห็นช่องว่างตลาดบ้านระดับบนใกล้เมือง

โดยโครงการบ้านกลางเมือง คลาสเซ่
เอกมัย-รามอินทรา มีพื้นที่โครงการ 32 ไร่ จะแบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส คือเฟสแรก บ้านเดี่ยว 3 ชั้น 56
ยูนิต บนพื้นที่ 15 ไร่ ขนาดที่ดิน 52-61 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 346-454 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน
6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 3 คัน ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะมีการพัฒนาเฟสสองอีกประมาณ 100 ยูนิต
คาดว่าอาจออกแบบเป็นทาวน์โฮม

สำหรับดีไซน์ของบ้านเดี่ยวบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ฯ
ต่อยอดมาจากบ้านเดี่ยวแบรนด์ โซล ของเอพี โดยดีไซน์พื้นที่อยู่อาศัยให้เชื่อมต่อกันทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง
ภายใต้นวัตกรรม Multiverse Layouts ประกอบด้วย 5 แนวคิดหลัก ดังนี้ 1.Multi-Dimension Space
"เชื่อมต่อทุกมิติชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียว" เช่น ห้องนั่งเล่นชั้น 1 (Veranda Atrium) เพดานสูง 5.5 เมตร
เชื่อมต่อกับชั้น 2, ดีไซน์ทางเข้าบ้าน 3 ทางเข้า สามารถบายพาสขึ้นสู่ห้องนั่งเล่นชั้น 2
ได้โดยตรง



2.Perceptual Space "ขยายขอบเขตของบ้านให้ใหญ่ขึ้น"
การออกแบบบ้านโดยไม่มีการทิ้งพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์
เชื่อมพื้นที่หน้าบ้านและสวนมาเป็นส่วนหนึ่งของห้องภายใน 3.Outside-In Space
"พื้นที่สวนเดียวหลายมุมมอง" ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน มีสวนขนาดเล็กที่มองเห็นจากทุกชั้นของบ้าน
และเป็นช่องแสง ระบายอากาศได้ในตัว

4.Three Generational Space
“พื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย” มี Patio Family Living ห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่ชั้น
2 ของบ้าน โดยเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการเชื่อมบันไดหน้าบ้านตรงสู่ห้องนั่งเล่น, มีห้อง Sanctuary Unit
เป็นห้องนอนผู้สูงอายุชั้น 1 พร้อมพื้นลดแรงกระแทก (absorption floor)
และราวจับในห้องน้ำ

5.Convertible Space
“การออกแบบพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย” เช่น พื้นที่เตรียมอาหารขนาดใหญ่ (Dining
Terrain) ที่เห็นได้จากที่จอดรถ
สามารถเชื่อมต่อกันเป็นลานเอนกประสงค์สำหรับจัดงานสังสรรค์

นอกจากนี้ภายในโครงการมีจุดเด่นเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง
ด้วยสวนสีเขียว 1 ไร่และนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด
โครงการจะเปิดพรีเซลและชมบ้านตัวอย่างได้ในเดือนพ.ย.นี้



นายภมรกล่าวว่า
สำหรับยอดขายและรายได้โครงการแนวราบของเอพี ยอดขายตั้งเป้าหมายทั้งปี 2559 ที่ 1.45 หมื่นล้านบาท ณ
วันที่ 15 ก.ย.59 มียอดขายแล้ว 9,745 ล้านบาท คิดเป็น 68% และจะมีโครงการเปิดตัวอีก 6 โครงการ มูลค่า
6,400 ล้านบาท ใน 4 เดือนสุดท้ายของปี ได้แก่ 1.เดอะ ซิตี้ ปิ่นเกล้า-สาย 4 2.เซนโทร ปิ่นเกล้า-วงแหวนฯ
3.เซนโทร รังสิต 4.เดอะ ซิตี้ ประชาอุทิศ 60 5.เดอะ ซิตี้ บางใหญ่ และสุดท้าย 6.บ้านกลางเมือง คลาสเซ่
เอกมัย-รามอินทรา

ส่วนการรับรู้รายได้แนวราบ เป้าหมายปีนี้ 1.38 หมื่นล้านบาท
ครึ่งปีแรกมียอดโอนแล้ว 6,148 ล้านบาท และปัจจุบันมีแบ็กล็อก 5,685 ล้านบาท
ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ทั้งหมด

"สถานการณ์ตลาดแนวราบมียอดขายสม่ำเสมอมาตลอด
ปีนี้เอพีมีการเปิดตัวทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม กลุ่มราคา 2 ล้านปลายจนถึง 9 ล้านบาท
มียอดขายเป็นไปตามเป้า แม้จะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศซบเซา
แต่ลูกค้ามีทั้งกลุ่มที่อ่อนไหวและไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งยอดขายและการเยี่ยมชมโครงการแนวราบเอพียังปกติ"
นายภมรกล่าว