|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "ออลล์อินสไปร์"ยึดหัวหาดสถานีคูคต คอนโดต่ำล้าน"ดิเอ็กเซล" |
|
"ออลล์ อิน สไปร์" อสังหาฯนอกตลาด แตกทำเลใหม่ เกาะรถไฟฟ้าสายสีเขียวคูคต ผุดคอนโดฯแบรนด์ "ดิเอ็กเซล" เจาะตลาดต่ำล้าน ทำเลคูคต ลำลูกกา คลอง 2 ดีเดย์ 17 ก.ย.นี้เปิดพรีเซล เคาะราคา 3.8 หมื่นบาท/ตร.ม. ปีนี้ทุ่มงบฯซื้อที่ดินเพิ่ม 300% ตุนรอขึ้นโครงการใหม่
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อิน สไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ ดิเอ็กเซล คูคต ลำลูกกา คลอง 2 อยู่ห่างจากสถานีคูคต ประมาณ 1 กิโลเมตร นับเป็นโครงการแรกที่มาเปิดตัวบนทำเลนี้ จากปกติบริษัทจะพัฒนาโครงการทำเลซอยลาซาลเป็นหลัก
รายละเอียดโครงการ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 3 ตึก 581 ยูนิต รูปแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 25-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 950,000 บาท หรือประมาณ 38,000 บาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 1/60 แล้วเสร็จไตรมาส 1/61 ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เตรียมจะเปิดพรีเซลในวันที่ 17 ก.ย.นี้
"เราเน้นเจาะกลุ่มตลาดไม่เกิน 2.5 ล้านบาท แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทมากจนเกินไป ซึ่งจะมองที่การดีไซน์ รวมถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก ไม่ได้ยึดติดในเรื่องของแบรนด์มากนัก ส่วนคู่แข่งทำเลเดียวกันมีไม่มาก โดยมีแค่ 1 โครงการ ประมาณ 800 ยูนิต และได้ทำการขายหมดเรียบร้อย จึงเป็นโอกาสในการแข่งขันของเรา เมื่อมองเห็นตลาดและเดินหน้าพัฒนาก่อนย่อมมีความได้เปรียบ"
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวเพิ่มอีกประมาณ2-3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท เนื้อที่ 10 ไร่ จำนวน 99 หลัง หน้ากว้าง 3.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ราคาประมาณ 3.1 ล้านบาท ทำเล ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม เปิดขายประมาณไตรมาส 4/59
และ 2.โครงการ ดิเอ็กเซล อุดมสุข สูง 8 ชั้น จำนวน 228 ยูนิต มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท นอกจากนี้ได้วางแผนเปิดตัวคอนโดฯแบรนด์ใหม่ทำเล ถ.พระราม 9 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ รูปแบบเป็นโลว์ไรส์ ประมาณ 4 อาคาร ราคาขายเฉลี่ย 6-8 หมื่นบาท/ตร.ม. หากการออกแบบเสร็จก็จะเปิดตัวภายในปีนี้ หรือต้นปี 2560
ขณะที่งบประมาณในการซื้อที่ดินในปีนี้ตั้งไว้ประมาณ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ตั้งไว้ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 300% เพราะมองว่าบริษัทเจอกลุ่มตลาดที่เหมาะสมแล้ว การพัฒนาโครงการต่อจากนี้ไปจะเดินหน้าต่อไปได้เรื่อย ๆ จึงมีการเพิ่มงบฯในการซื้อที่ดินมากขึ้นด้วย
สำหรับภาพรวมของยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (รีเจ็กต์เรต) มองว่า ตลาดทุกเซ็กเมนต์ประสบปัญหาเหมือนกันหมด ยกเว้นตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่ เนื่องจากกลุ่มนี้มีกำลังซื้อในมืออยู่แล้ว รวมถึงกลุ่มตลาด 1.2-2.5 ล้านบาท เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ มีเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน ทำให้มีวินัยในการชำระหนี้ การปล่อยกู้ของกลุ่มนี้จึงมีความเป็นไปได้สูง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-09-2559
|
|
|
|
|
