Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"วินด์เซอร์"ขยายฐานดีลเลอร์ประตู-หน้าต่าง |
|
วินด์เซอร์รุกหนักตลาดหน้าต่าง-ประตู ลุยขยายดีลเลอร์ 10 สาขา ปักหมุดปีนี้ 5 สาขา เพิ่มรายได้ 240 ล้าน เผยครึ่งแรกยอดขายยังไปไม่ถึงครึ่งทาง
นายสัมพันธ์ ลู่วีระพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บจ.นวพลาสติกอุตสาหกรรม ผู้ผลิตประตูหน้าต่างไวนิล ภายใต้แบรนด์ วินด์เซอร์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการ 6 เดือนแรกมีรายได้ 700 ล้านบาท จากเป้าทั้งปีตั้งไว้ 1,800 ล้านบาท จะไม่เติบโตจากปี 2558 เนื่องจากครึ่งปีแรกการเปิดตัวโครงการใหม่หดตัวลง เช่น บ้านเดี่ยวจากเดิมสร้างใหม่ 30,000 หลัง เหลือ 20,000 หลัง แต่ช่วงครึ่งปีหลังจะทำรายได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ได้ เพราะดีมานด์จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ดูจากการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการที่ลงทุนเพิ่ม
นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายดีลเลอร์ของบริษัทเพิ่มอีก10รายจากปัจจุบัน 30 รายทั่วประเทศ แยกเป็นในปีนี้ 5 ราย และปี 2560 อีก 5 ราย จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 240 ล้านบาทภายในสิ้นปี โดยการพิจารณาดีลเลอร์ต้องมีความพร้อมทางด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และจำนวนทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่ละสาขาครอบคลุมพื้นที่ 50-100 กม. ก่อสร้างได้ 30 หลัง/เดือน
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นสมาร์ท ซีรีส์ โดยหันมาเจาะกลุ่มตลาดกลาง ราคาประมาณ 3,000 บาท/ตร.ม. จากเดิมเจาะกลุ่มตลาดบนราคา 4,000-5,000 บาท/ตร.ม. ตั้งเป้าใน 2 ปี สัดส่วนของตลาดกลางจะเพิ่มขึ้นจาก 5-10% เป็น 30-40% ซึ่งลูกค้ากลุ่มระดับบนเป็นบ้านราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนตลาดกลางระดับราคาอยู่ที่ 5-8 ล้านบาท
"เรายังจะรุกตลาดบ้านเก่าเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากการสำรวจมีปริมาณ 20 ล้านกว่าหลังคา ซึ่งปกติการเปลี่ยนแปลงจะทุบบ้านทั้งหลัง แต่ของเรามีนวัตกรรมที่นำหน้าต่างไปเปลี่ยนครอบเลย โดยไม่ต้องทุบ การติดตั้งจะใช้เวลา 10 บาน/วัน ขณะนี้มีสัดส่วนรายได้บ้านเก่าประมาณ 10% อีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 20-30%"
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้มีการศึกษารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ จากเดิมที่รูปแบบของผลิตภัณฑ์จะเป็นสีขาว จะเพิ่มความหลากหลายของสีสันมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมหน้าต่างที่ใช้สำหรับอาคารสูง เพราะตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ช่วงกลางปี 2560
"ภาพรวมตลาดมีมูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนไวนิล 7% ยังเติบโตสูง เพราะเป็นตัวทดแทนผลิตภัณฑ์ไม้ที่ลดลง" นายสัมพันธ์กล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-09-2559
|
|
|
|
|