|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อสังหาฯหลังประชามติ (จบ) ปัจจัยบวกยังไม่มีจนกว่ารัฐเร่งลงทุน |
|
เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วสำหรับซีรีส์อสังหาริมทรัพย์ หลังการโหวตประชามติร่างรัฐธรรมนูญ แขกรับเชิญ "ปรีชา กุลไพศาลธรรม" เอ็มดีค่ายเปี่ยมสุข เรสซิเดนซ์ บริษัทพัฒนาที่ดินขนาดกลาง สั่งสมประสบการณ์ 30 ปี ทำมาแล้ว 50 โครงการกว่า 1 หมื่นยูนิต มูลค่าโครงการสะสม 2-3 หมื่นล้านบาท
ผลโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 61% ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองพลิกกลับเข้ามาอยู่ในแดนบวก น่าสนใจว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตอบรับกับผลโหวตอย่างไรบ้าง
"ในภาพใหญ่ของประเทศผมมองบวกนะ มีทางออกของการเมืองที่เราจะเดินไป อย่างน้อยมีความชัดเจน เราไม่ได้มองว่าการมีประชามติจะดีขึ้นหรือแย่ลง แต่อย่างน้อยมีความชัดเจนว่าประเทศเราจะไปทางไหน นักธุรกิจต้องการความชัดเจนมากกว่า"
หากแต่มุมมองแบบตรงไปตรงมาสำหรับวงการอสังหาฯ น่าสนใจกว่า
"ในฐานะดีเวลอปเปอร์ ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นปัจจัยบวกอะไรมากมายที่จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของกำลังซื้อ แต่มองเรื่องอื่น การนำเข้าส่งออกดีขึ้นไหม การบริโภคภาคเอกชน ถ้าประชามติทำให้คนมั่นใจในการลงทุน ใช้จ่ายมากขึ้น บริโภคมากขึ้น อันนี้จึงจะมีปัจจัยชัดเจน แต่ปัจจุบันยังไม่มี"
"ปรีชา" ขยายความให้ฟังว่า แม้เรื่องการลงทุนภาครัฐซึ่งมีแผนเชิงรุกตั้งแต่ต้นปี แต่การรันงาน (เปิดประมูล) ยังล่าช้าอยู่ ทำให้ปัจจัยบวกจากตรงนี้ก็ยังไม่ชัดเจน ดีกรีความรู้สึกและการประเมินจึงเป็นว่า "...ตอนนี้เพียงแต่เป็นความหวังในอนาคตของพวกเราชาวทำโครงการว่า ถ้าแผนลงทุนภาครัฐเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เกิดขึ้นชัดเจน มีการลงทุนชัดเจน ภาพเศรษฐกิจดีขึ้น ดีมานด์ดีขึ้น เราในส่วนของด้านซัพพลายก็พร้อมจะลงทุน
นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า ผลโหวตประชามติเป็นปัจจัยบวกทำให้การเมืองนิ่ง แต่เป็นปัจจัยบวกที่ยังไม่ส่งผลระยะสั้น แต่ส่งผลบวกระยะยาว ดังนั้น แนวโน้ม 4 เดือนหลังที่เหลือจนสิ้นปีมองว่า ยังไม่มีปัจจัยบวกอะไรที่ทำให้ภาคอสังหาฯดีขึ้นชัดเจนกว่าตอนครึ่งปีแรก
โดยแผนธุรกิจของเปี่ยมสุข บริษัทชะลอเปิดตัวใหม่ 1 โครงการตั้งแต่ครึ่งปีแรก ทำให้ตอนนี้เปิดตัวใหม่ไปแล้ว 3 โครงการในเดือน พ.ย. เตรียมเปิดตัวอีก 1 โครงการ มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท แผนพัฒนาโครงการปีหน้าตั้งเป้าเปิดใหม่ให้มีมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านเท่ากับปีนี้
"...มูลค่าโครงการเปิดตัวเฉลี่ยปีละ 1,200 ล้านในช่วงปีหน้า จริง ๆ แล้วควรมียอดขายมากกว่านี้ แต่ไม่ได้ตามเป้าเพราะเศรษฐกิจแบบนี้ยอดขายชะลอหมด แต่โตได้เพราะเราเปิดโครงการมากกว่าเดิมพอสมควร" คำอธิบายสรุปทิ้งท้าย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-09-2559
|
|
|
|
|
