| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 76 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 28-08-2559    อ่าน 1148
 อสังหาฯหลังประชามติ (4) ลูกค้ายังติดล็อก "กู้ไม่ง่าย-กู้ไม่ผ่าน"

บรรยากาศการทำธุรกิจหลังจากโหวตประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 61% แม้มีเหตุลอบวางเพลิง-ระเบิดขึ้นประปราย แต่ในเมื่อรัฐบาล คสช.ควบคุมสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ สำหรับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินทิศทางและแนวโน้มครึ่งปีหลังไปในทางบวก รวมทั้ง "พี่หมี-อนงค์ลักษณ์ แพทยานันท์" กรรมการผู้จัดการค่ายเจ้าพระยามหานคร หรือ CMC Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าสู่สังเวียน 22 ปีเต็ม

สำหรับ CMC เฉลี่ยการลงทุนต่อปีอยู่ที่ "...เราพยายามผลักดัน 3-4 โครงการเปิดใหม่ ให้รับรู้รายได้ต่อเนื่อง"

ปัจจุบันมีแบรนด์คอนโดมิเนียม 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย "ชาโตว์ อิน ทาวน์" เริ่ม 1.9 ล้านบาทขึ้นไป, "บางกอก ฮอไรซอน" เริ่ม 2 ล้านต้น ๆ ใกล้เคียงกับชาโตว์ฯ แตกต่างตรงที่ชาโตว์ อิน ทาวน์เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น ส่วนฮอไรซอนออกแบบเป็นตึกสูงหรือไฮไรส์ ล้อไปตามแบรนด์, แบงค็อก เฟลิช ราคาเริ่ม 2.7-2.9 ล้านบาท

อย่างที่รู้กันอยู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องมาหลายปี ถามว่าทำธุรกิจพัฒนาที่ดินเหนื่อยบ้างหรือเปล่ายุคนี้ "เหนื่อยตั้งแต่ปีที่แล้วเพราะการแข่งขันสูงขึ้นในย่านเดียวกัน ทำเลเดียวกัน"

ประเด็นของ CMC เป็นบริษัทอสังหาฯขนาดกลาง และให้นิยามว่าบริษัทมีความเชี่ยวชาญคอนโดฯเกาะแนวรถไฟฟ้า น่าสนใจว่าสูตรที่จะมาแข่งขันแนวรถไฟฟ้า เพราะยิ่งนานก็ยิ่งแพง แต่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเกาะกลุ่มราคาเริ่มต้น 1.9-2.9 ล้านบาทเท่านั้น คำเฉลยก็คือ ในกรุงเทพฯยังมีสถานีเปิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"สายสีม่วง หรือสีอื่น ๆ แค่มีข่าวก็ขาย (อสังหาฯ) ได้แล้ว ครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 4 โครงการ ที่รามคำแหง จรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้า บางนา"

ที่แน่ ๆ ตลาดที่ไม่ไปลงทุนคือทำเลต่างจังหวัด มองว่าบริษัทไม่มีความชำนาญ แม้กระทั่งในเขตกรุงเทพฯเองก็ออกไปชานเมืองไม่เยอะมากนัก

"พี่หมี-อนงค์ลักษณ์" มองแนวโน้มหลังการลงประชามติว่าครึ่งปีหลังที่เหลือบรรยากาศน่าจะดีขึ้น เพราะ (การเมืองภายใน) มีความเสถียร นโยบายรัฐบาลก็มีทิศทางแน่นอน หลังประชามติแล้วยิ่งมีความชัดเจน ไม่ว่าการลงทุนภาครัฐก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลได้ประกาศออกมา รวมทั้งการจะเดินต่อไปข้างหน้า เมื่อการเมืองนิ่งแล้ว ความรู้สึก บรรยากาศ ความเชื่อมั่นภาคเอกชนและประชาชนก็ดีขึ้นไปด้วย ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย

แต่ถึงแม้จะมองว่าดีขึ้นยังไงก็ตาม บริษัทก็ยังต้องใช้กลยุทธ์เน้นระบายสต๊อกในมือออกไปก่อน มีทั้งหมด 800 ยูนิตส่วนใหญ่ยังต้องมานั่งแก้ปัญหาห้องชุดรีเซลเพราะลูกค้าเจออยู่ 2 เรื่อง คือ "กู้ไม่ง่าย-กู้ไม่ผ่าน"

โดยฝากคำแนะนำถึงผู้บริโภคอสังหาฯต้องสำรวจความต้องการแท้จริงก่อน เพราะการซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือซื้อเพื่อลงทุนตอนนี้ลดลงไปเยอะ จึงเหลือผู้ซื้อที่เป็นตัวจริง หรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง

สิ่งสำคัญที่สุด การซื้ออสังหาฯเป็นของชิ้นใหญ่ ต้องมีการเตรียมตัว ผู้บริโภคต้องรู้จักออม เช่น ถ้ามองหาห้องชุดราคา 1.9 ล้านบาท ต้องมีการออม 30% ของเงินเดือน จะเป็นปัจจัยที่ทำให้สามารถขอสินเชื่อได้รับการอนุมัติสูงขึ้น
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 28-08-2559 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.