Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ชัชชาติ"ฟันธง"ทำเลทอง"อสังหาฯน่าลงทุน รถไฟฟ้า-ด่วนใหม่บูมราชพฤกษ์-ดอนเมืองฮอต-พระราม2แผ่ว |
|
บิ๊กคิวเฮ้าส์ปักหมุดทำเลทองอสังหาฯ เผย "ราชพฤกษ์-ดอนเมือง-รังสิต" โดดเด่น หลังรถไฟฟ้า "สีม่วง-แดง" และทางด่วนใหม่ "ศรีรัช-วงแหวนฯ" เปิดบริการ ชี้ "พระราม 2" ไม่เปรี้ยง ! ขาดโครงข่ายคมนาคมใหม่ รอสีม่วงใต้ "เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ" ช่วยบูต โซนสีชมพู-เหลืองแค่ฟีดเดอร์คน จับตาคอนโดฯแนวสีม่วงล้น ปีหน้าแข่งเดือด เร่งระบายสต๊อก คาด 2 ปีกว่าจะฟื้น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือคิวเฮ้าส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ระยะทาง 23 กม. และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก เปิดให้บริการแล้ว ประเมินว่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลชานเมืองมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการพัฒนาอสังหาฯในปัจจุบันจะเน้นทำเลที่มีโครงข่ายคมนาคมขนส่งเข้าถึงสะดวก
รถไฟฟ้าบูตธุรกิจอสังหาฯ
"อสังหาฯคือโลเกชั่นโลเกชั่นสิ่งที่จะบูตทำเลได้ดีคือรถไฟฟ้า ทำให้ทุกวันนี้ หากพูดถึงอสังหาฯ ก็คือทรานสปอร์เตชั่น"
โดย "ชัชชาติ" วิเคราะห์ว่า ทำเลอสังหาฯที่โดดเด่น จริง ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับโครงข่ายคมนาคมและแหล่งงาน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ชุมชน หากมองตอนนี้โซนราชพฤกษ์และวงแหวนรอบนอกตะวันตกน่าจะดีขึ้น หลังเปิดทางด่วน และสายสีม่วง ทำให้เปิดพื้นที่การพัฒนาฝั่งธนบุรีได้อีกมาก เมื่อมีโครงข่ายคมนาคมใหม่เปิดใช้ เพราะที่ผ่านมาฝั่งธนบุรี จะมีปัญหารถติดช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
หวั่นคอนโดฯสีม่วงล้น
"ทำเลสายสีม่วงจะมีปัญหาคอนโดมิเนียมอาจจะเกิดโอเวอร์ซัพพลายที่ผ่านมามีดึงคนเข้ามาลงทุนเยอะแต่การขายค่อนข้างช้าปีหน้าการแข่งขันจะสูง เพื่อระบายสต๊อก อีก 2 ปีกว่าจะหมด ของคิวเฮ้าส์มี 1 โครงการตรงสถานีบางใหญ่ ตอนนี้ขายได้ 70% รอโอนปีหน้า อีกโครงการย่านงามวงศ์วาน ก็สโลว์นิดนึง ขายได้ 60% ส่วนทางด่วนเราจะมีโครงการย่านราชพฤกษ์ร่วม 20 โครงการ เกือบ 2 หมื่นล้านบาท จะได้รับอานิสงส์ อาจจะไม่ค่อยหวือหวา แต่ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้น"
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ส่วนทำเลในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี 34.5 กม. กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง 30.4 กม. โดยรวมแล้วยังไม่น่าสนใจมากนักเพราะเป็นโมโนเรลที่เป็นระบบฟีดเดอร์ป้อนคนเข้าสู่ระบบสายสีม่วง สีแดง และสีเขียว ซึ่งการเดินทางอาจจะไม่ค่อยสะดวกสบาย และการพัฒนาจะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มากกว่าคอนโดฯ ส่วนสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 21 กม. อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ลงทุน
ดอนเมือง-รังสิตบูมจัด
ขณะที่โซนอื่น "ชัชชาติ" มองว่า เป็นโซนดอนเมืองและรังสิต ตอนนี้กลับมาบูมหลังเปิดสนามบินดอนเมือง เพราะเป็นแหล่งงานหลัก อีกทั้งมีรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) จะเปิดใช้ปี 2563 และทางด่วนขั้น 2 และโทลล์เวย์มาประกบ ทำให้ทำเลนี้โดดเด่นขึ้นมาก
"อีกทำเลที่คึกคักคือบางนา มีทั้งทางด่วนมอเตอร์เวย์ วงแหวนรอบนอกและรถไฟฟ้าบีทีเอสที่มีสถานีจอดตรงแยกบางนา ทำให้การเดินทางไม่ไกลจากในเมืองมากนัก"
สำหรับทำเลที่ถูกกดดันหนักจะเป็นย่านพระราม 2 เพราะยังไม่มีโครงการอินฟราสตรักเจอร์ใหม่ ๆ หากรัฐบาลเร่งผลักดันการลงทุนก่อสร้างสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) โดยเร็ว จะช่วยหนุนทำให้ทำเลโซนพระราม 2 มีความคึกคักมากขึ้น
ตลาดภูธรกำลังซื้อฝืด
เมื่อถามถึงทำเลต่างจังหวัด หลังรัฐบาลมีโครงการรถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูง "ชัชชาติ" ย้ำว่า อสังหาฯต่างจังหวัดปัจจุบันกำลังซื้อฝืด แม้ครึ่งปีแรกภาคเหนือเริ่มกระเตื้องขึ้นที่ จ.เชียงใหม่
ส่วนภาคตะวันออกยังชะลอตัว ทั้ง อ.ศรีราชา ชลบุรี พัทยา และระยอง เป็นเพราะนิคมอุตสาหกรรมเลิกจ้างงาน ต้องรอเศรษฐกิจหรือการลงทุนจากต่างประเทศกลับมาให้มากกว่านี้ หากรัฐเร่งลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออกหรือ EEC ได้เร็วจะเป็นตัวช่วยได้ เพราะหัวใจการลงทุนของประเทศไทยอยู่ที่ภาคตะวันออกผ่านท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะที่ภาคใต้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"ชัชชาติ"มองว่าแม้มีมอเตอร์เวย์บางปะอิน-สระบุรี-โคราชและรถไฟทางคู่ที่รัฐบาลกำลังก่อสร้าง แต่พื้นที่มีโลคอลแบรนด์ ที่เข้มแข็งและมีผู้เล่นในตลาดมาก มองว่ายังไม่ใช่จังหวะเหมาะที่จะลงทุนสอดคล้องกับทิศทางของคิวเฮ้าส์จะมุ่งทำเลถนัดมากกว่า จะเน้นกรุงเทพฯ ปริมณฑล เมืองท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก
"รถไฟทางคู่ไม่ได้บูมอสังหาฯ เพราะเน้นขนสินค้ากับคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเวลา แต่ถ้าปรับจากระบบดีเซลรางเป็นระบบรถไฟฟ้า เหมือนมาเลเซีย วิ่งด้วยความเร็ว 140-160 กม./ชม. อาจจะมีความเป็นไปได้"
เร่งรัฐชัดเจนไฮสปีดเทรน
ชัชชาติ" ยังย้ำว่า รถไฟความเร็วสูงหากรัฐลงทุนจะช่วยให้เกิดอิมแพ็กต์ต่อธุรกิจอสังหาฯในแง่ของที่อยู่อาศัย เพราะจะเกิดการกระจายความหนาแน่นของคนจากกรุงเทพฯไปยังภูมิภาครัศมีไม่เกิน 250-300 กม. โดยอาศัยความเร็วที่วิ่ง200-250 กม./ชม. ขนคนเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ อนาคตจะเกิดการเดินทางรูปแบบไปเช้าเย็นกลับ
"เพราะหัวใจคืออีโคโนมีสปีด ตอนนี้รถไฟความเร็วสูงให้มองเมืองที่มีโลว์คอสต์แอร์ไลน์ไว้ก่อน ตอนนี้คีย์ไดร์เวอร์ (พลังขับเคลื่อน) ของต่างจังหวัดคือแอร์พอร์ต อย่างเช่นพัทยาอะไรเป็นเกมแชนเจอร์ตอนนี้ ก็คืออู่ตะเภา สามารถพานักท่องเที่ยวจากจีนทุกเมืองบินตรงมาเป็น 10 ล้านคนได้เลย แบบนี้ถึงเรียกว่า S-cruve ตัวใหม่ของพัทยา ส่วนรถไฟความเร็วสูงจะทำให้การเดินทางกรุงเทพฯ-ระยองสะดวกขึ้น"
ดังนั้นจังหวัดไหนถ้ายังไม่มีตัวทรานสปอร์เตชั่นที่สะดวกมากแอร์พอร์ตจะเป็นตัวไดร์เวอร์รัฐต้องชัดเจนเรื่องการลงทุนรถไฟความเร็วสูงจะสร้าง4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก กรุงเทพฯ-โคราช กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-ระยอง ใช้เงินลงทุนจากไหน รูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วม และจุดที่ตั้งสถานี ให้นักลงทุนมีความมั่นใจ เตรียมการพัฒนารองรับ เพราะหัวใจของรถไฟความเร็วสูงคือการสร้างมูลค่าเพิ่มของโครงการ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-08-2559
|
|
|
|
|