|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อสังหาฯหลังประชามติ (3) คอนโดฯแพงกำลังซื้อไม่ตก |
|
เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง บรรยากาศการทำธุรกิจดูเหมือนจะมีตัวช่วยจากผลโหวตประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญด้วย 61% ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนและกำลังซื้อเข้าสู่สัญญาณแดนบวก แม้จะมีเหตุลอบวางระเบิดเข้ามาคั่นจังหวะไปบ้าง ดีเวลอปเปอร์ที่ถนัดทำตลาดพรีเมี่ยมอย่าง "ดร.บี-สุริยา พูลวรลักษณ์" เอ็มดีค่ายเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์มองว่า การเมืองหลังประชามติมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากมีความชัดเจนในการเลือกตั้ง
"ผลประชามติทำให้ทุกอย่างเดินไปทิศทางที่ควรจะเป็น ตามโรดแมปที่รัฐบาล คสช.วางไว้ หมายถึงเมื่อผลประชาชาติมติผ่านแล้วก็จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ถ้ามีการเลือกตั้งก็น่าจะได้มีการยอมรับจากต่างประเทศ สำหรับในประเทศปัญหา (การเมือง) ที่เคยมีมาก่อนทุกวันนี้ลดลงไปเยอะแล้ว และเชื่อว่าไม่น่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก"
มุมมองเชิงวิเคราะห์มีอยู่ว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างชะลอตัวตั้งแต่ปลายปี′58 ถึงต้นปี′59 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเมือง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ทรง ๆ ตัวด้วย ล่าสุดตอนนี้ดีมานด์เริ่มกลับมาแล้ว สังเกตจากผู้ประกอบการหลายรายเริ่มเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ส่วนยูนิตเหลือขายมีการแข่งขันจัดแคมเปญโปรโมชั่นแรง ๆ
"เชื่อว่าตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าจะมีโครงการใหม่ทยอยเปิดตัวเรื่อย ๆ อาจเป็นเพราะมองเห็นคล้ายกันว่า ตลาดอสังหาฯยังมีดีมานด์อยู่"
ส่วนเหตุลอบวางเพลิง-ระเบิด 7 จังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจในภาคใต้นั้น..."ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้แย่มากนัก หากเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต เมื่อเจอหลาย ๆ จุดแบบนี้คงมีเป๋กันไปบ้างละ ครั้งนี้ถือว่ารัฐบาล คสช.มีการควบคุมสถานการณ์ได้ดี บริหารจัดการไม่ให้คนแตกตื่น จับผู้ต้องสงสัยได้บางคน กำลังจะสอบสวนกันอยู่ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้"
นำไปสู่การฟันธงว่า เสียงระเบิดส่งผลต่อมู้ดหรืออารมณ์ซื้อของผู้บริโภคไปบ้าง แต่มั่นใจว่าคงเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น
"เมเจอร์ฯมีโรงแรมอยู่ที่หัวหิน ยอมรับว่าได้รับผลกระทบบ้างเป็นบางส่วน มีลูกค้าชาวต่างชาติเลื่อนการจองห้องพักออกไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไฮซีซั่นจะสามารถกลับมาคึกคักเหมือนเดิมได้ โดยหัวหินเป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย แตกต่างจากภูเก็ตที่ 80% เป็นลูกค้าต่างชาติ การเติบโตของหัวหินยังไปได้ดี สังเกตจากทุกวันนี้มีการก่อสร้างโรงแรมค่อนข้างเยอะ"
แต่ถ้าพูดถึงเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เป็นตลาดพรีเมี่ยมกำลังซื้อยังดีอยู่แม้จะมีเหตุระเบิดก็ไม่น่ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะปกติของตลาดพรีเมี่ยม คนที่จะซื้อก็ต้องมีเงินเย็นไว้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีผลกระทบ รายได้ที่เคยได้อยู่ก็ไม่ได้หายไปไหน
โดยเมเจอร์ฯเพิ่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่หมาด "มิวนิค สุขุมวิท 23" ทั้งโครงการ 201 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท เฉลี่ยราคาขายตารางเมตรละ 2.2 แสน ตั้งเป้าปิดการขายได้ไม่ต่ำกว่า 60% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นเป้าการขายเชิงรุกก็ว่าได้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 24-08-2559
|
|
|
|
|
