|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| LPNไม่ฝืนความจริง-ลดเป้ารายได้2ปีซ้อน หนี้ครัวเรือนทุบตลาดล่างเดี้ยงยาวปี′59-60ขอรายได้เท่าปี′58 |
|
เจ้าพ่อคอนโดฯตลาดกลาง-ล่างค่าย LPN ส่งสัญญาณเศรษฐกิจซึมยาว รีวิวแผนธุรกิจปรับเป้ารายได้ใหม่ 2 ปีซ้อน (2559-2560) ไม่หวังอัตราเติบโต กลับไปตั้งตัวเลขทรงตัวใช้ฐานปี′58 อยู่ที่ 15,500 ล้าน ปรับกลยุทธ์ผุดห้องชุด ตร.ม.เฉลี่ย 1.2 แสนทำเลเพชรบุรี-มักกะสันเติมพอร์ตรายได้ "เสนา ดีเวลลอปเม้นท์" ชะลอเปิดตัวใหม่ 2 โครงการในครึ่งปีหลัง ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นครัวเรือนบ่งชี้คนกังวลปัญหาหนี้สินเพิ่ม-ตกงาน
แม้เพิ่งมีข่าวดีผลโหวตประชามติออกมาในทิศทางเป็นปัจจัยบวก มีผลทำให้การเมืองภายในนิ่งมากขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มกำลังซื้อตลาดกลาง-ล่างยังคงมีสารพัดอุปสรรครุมเร้า ทั้งหนี้ครัวเรือนในอัตราสูง สถาบันการเงินคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีบิ๊กแบรนด์อสังหาริมทรัพย์บางรายต้องทบทวนแผนลงทุนพัฒนาโครงการ
เป้าใหม่รายได้ทรงตัว 2 ปี
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากดำเนินธุรกิจ 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 59) ทางคณะกรรมการเพิ่งมีมติทบทวนแผนธุรกิจปีนี้ใหม่ จากเดิมตั้งเป้ามีอัตราเติบโตของรายได้ 10% อยู่ที่ 17,600 ล้านบาท ล่าสุด แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ตลาดกลาง-ล่างประสบปัญหากำลังซื้อตกต่ำ จึงมีมติให้ปรับเป้ารายได้เหลือ 15,500 ล้านบาทเท่ากับปี 2558 รวมทั้งประเมินแนวโน้มปี 2560 ยังไม่น่าไว้วางใจ จึงให้วางแผนธุรกิจแบบประคองตัวหรือเพลย์เซฟ ตั้งเป้ารายได้ทรงตัวใช้ฐานรายได้ของปี 2558 เป็นเกณฑ์ เท่ากับ LPN ทบทวนเป้ารายได้ในปี 2559-2560 อยู่ที่ 15,500 ล้านบาท ติดต่อกัน 2 ปี
"เรามีการประชุมรอบ Analist Meeting และได้แจ้งไปแล้วว่าปีนี้ลดเป้าแน่นอน เหตุผลเพราะสถานการณ์บริษัทเจอ 2 เรื่อง เริ่มจากมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งจบไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาไม่ส่งผลกับตลาดหลักของ LPN อีกเรื่องมาจากโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ไม่เป็นไปตามเป้า มีปัญหาการขาย การโอน กระทบกับความตั้งใจที่อยากทำให้ครบ 4 มุมเมืองต้องหยุดไว้ก่อน และทำให้ปีนี้ต้องทบทวนแผนลงทุน"
ทำของแพงเติมพอร์ตรายได้
ผลประกอบการครึ่งปีแรก นายโอภาสกล่าวว่า มีรายได้ 8,856 ล้านบาท ครึ่งปีหลังต้องสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,600 ล้านบาท ยังมั่นใจว่าสามารถทำได้ โดย 3,500 ล้านบาทมาจากแบ็กล็อกหรือยอดขายรอโอนในปีนี้ 3,100-3,200 ล้านบาท มาจากซัพพลายสะสมอยู่ระหว่างขาย 10 โครงการ อาทิ สุขุมวิท เพชรเกษม นวมินทร์-ศรีบูรพา ร่มเกล้า รังสิต ชะอำ อุดรธานี ฯลฯ กับรายได้จากห้องชุดที่เปิดขายใหม่จะสร้างและโอนให้จบในปีนี้ 300 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน แม้ตลาดกลาง-ล่างกำลังซื้อชะลอตัว ยังมีลูกค้ากลุ่มตลาดบนที่กำลังซื้อสูง LPN ประสบความสำเร็จจากเดอะ ลุมพินี สุขุมวิท 24 ตอนเริ่มต้นมีราคาขาย ตร.ม.ละ 1.3 แสนบาท ปัจจุบันขยับเป็น ตร.ม.ละ 2 แสนบาทแล้ว ล่าสุดเตรียมเปิดตัวคอนโดฯลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน ทำเลอยู่ใกล้สี่แยก ถ.เพชรบุรีตัดซอยนานา เนื้อที่ 4 ไร่ ราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 1.2 แสนบาท คอนเซ็ปต์เป็น Affordable City Condo เทียบกับราคาตลาดที่เปิดขายกัน ตร.ม.ละ 1.5-2 แสนบาท
"ตลาดกลาง-ล่างยังเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัท แต่กำลังซื้อไปไม่ได้จริง ๆ ปีนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เราไม่ฝืนความจริง อย่างทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ที่ผลตอบรับไม่ตรงเป้าก็ไม่เป็นไร ต้องเรียนรู้ เราคิดว่าแบรนด์เราแข็งนะ ลุมพินีดูแลตลอดชีวิต แต่ผู้บริโภคยังไม่รู้จักเรา"
เสนาฯชะลอเปิดใหม่ 2 โครงการ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า บริษัทรีวิวแผนลงทุนโดยลดเป้าเปิดตัวใหม่ จาก 9 โครงการเหลือ 7 โครงการ ได้แก่ เสนา พาร์ค ทาวน์ รามอินทรา-วงแหวน เพราะต้องการปรับโปรดักต์จากทาวน์เฮาส์เป็นคอนโดฯ 6 ชั้นแทน ให้สอดรับกับต้นทุนที่ดินราคาสูง ตั้งเป้าขาย ตร.ม.ละ 1 แสนบาท กับบ้านเดี่ยว พัทยา-บ่อวิน เลื่อนเปิดตัวเป็นต้นปีหน้าเพื่อปรับดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง
มีผลทำให้ครึ่งปีหลังรอเปิดตัวเหลือ 5 คอนโดฯ มูลค่ารวม 2,690 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ ประกอบด้วยแบรนด์เดอะ คิทท์ 2 ทำเลที่สุขุมวิท 113 กับบางกะดี มูลค่ารวม 860 ล้านบาท กับแบรนด์เดอะ นิช 3 ทำเลที่สุขุมวิท 50, พระราม 2 และบางนา เฟส 3 มูลค่ารวม 1,840 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกมียอดพรีเซล 2,900-3,100 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 4,500 ล้านบาท บริษัทมั่นใจยอดรับรู้รายได้จะทำได้ตามเป้า 3,500 ล้านบาท โดยมีแบ็กล็อกหรือยอดขายรอโอน 2,400 ล้านบาท แบ่งรับรู้ปีนี้ 1,000 ล้านบาท
ครัวเรือนห่วงหนี้สิน-ตกงาน
นายโอภาสกล่าวว่ามาตรการรัฐที่ผ่านมา ไม่มีผลต่อตลาดราคาต่ำล้านเพราะได้ส่วนลดแค่ 1 หมื่นกว่าบาท แตกต่างจากตลาดบนได้รับอานิสงส์โดยตรง บริษัทโอนห้องชุดราคา ตร.ม.ละ 1.5-2 แสนบาทภายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมากว่า 1,700-1,800 ล้านบาท จึงสรุปว่ามาตรการรัฐมีผลตอบรับดีเฉพาะตลาดกลาง-บน ขณะที่ตลาดล่างเจอผลกระทบปัญหาหนี้ครัวเรือนและสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ
ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย นำเสนอรายงานดัชนีความเชื่อมั่นครัวเรือน (KR-ECI) ประจำเดือน ก.ค. 2559 (สำรวจก่อนลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 7 ส.ค. 59) พบว่า ปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 42.3 จากระดับ 42.5 ในเดือน มิ.ย. 2559 สะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนยังคงมีความกังวลต่อภาวะการครองชีพในปัจจุบัน
สิ่งที่กังวลแตกต่างจากเดือนก่อน คือ กังวลด้านสถานการณ์ราคาสินค้าน้อยลง แต่กังวลด้านภาวะการมีงานทำและภาระหนี้สินมากขึ้น ขณะที่ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์อีก 3 เดือนข้างหน้า ทรงตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 43.3 สะท้อนครัวเรือนยังไม่คลายความกังวลต่อภาวะการครองชีพในอนาคต แต่ลดความกังวลราคาสินค้า ขณะที่มีความกังวลต่อภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-08-2559
|
|
|
|
|
