|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| 2 ปีโปรเจ็กต์ร่วมทุน แสนสิริ-บีทีเอส ปูพรม "เดอะไลน์" แสนล้าน |
|
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้การขายคอนโดมิเนียมยากกว่าที่เคย จากเดิมที่คอนโดฯหลายโครงการพาเหรด "ขายเกลี้ยง" ในเวลาไม่นานเพราะมีกลุ่มนักเก็งกำไร บัดนี้ทั้งดีเวลอปเปอร์ และโบรกเกอร์ยอมรับ นักเก็งกำไรลดจำนวนลงมาก กลายเป็นนักลงทุนระยะยาวกระเป๋าหนักที่พร้อมรับโอนเท่านั้นจึงกล้าลงทุนห้องชุด ส่งผลให้คอนโดฯขายช้า ปรากฏการณ์ถูกจองซื้อหมดโครงการเริ่มหาได้ยาก
แต่ทำไมคอนโดฯแบรนด์ใหม่จากดีเวลอปเปอร์หน้าเก่า "เดอะ ไลน์" โปรเจ็กต์ร่วมทุนของ "บมจ.แสนสิริ" และ "บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์" ถึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
จากสถิติที่เริ่มเปิดตัวโครงการแรกเมื่อปี 2558 จนถึงขณะนี้เปิดตัวแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 13,500 ล้านบาท ทุกโครงการล้วนขายเกลี้ยงทุกยูนิตภายในวันพรีเซล
ไม่ว่าเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต มูลค่า 5,700 ล้านบาท จำนวน 841 ยูนิต, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 มูลค่า 2,000 ล้านบาท จำนวน 291 ยูนิต, เดอะ ไลน์ ราชเทวี มูลค่า 2,900 ล้านบาท จำนวน 231 ยูนิต ล่าสุด เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา โครงการที่ 4 ที่เปิดตัวในเดือน มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา มูลค่า 2,900 ล้านบาท จำนวน 473 ยูนิต ปรากฏว่าปิดการขายได้รวดเร็วเช่นกัน
ว่ากันว่า การที่คอนโดฯ "ตระกูลเดอะ ไลน์" ทำสถิติปิดการขายได้เร็ว นอกจากเรื่องทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้ารัศมี 500 เมตร ยังเป็นเพราะ "แสนสิริ-บีทีเอส" ใช้หลักการทำตลาดด้วยการเน้นฐานลูกค้าใหม่ จาก "แสนสิริ" ใช้กลเม็ดแบ่งยูนิตบางส่วนขายลูกค้าต่างประเทศก่อนลูกค้าไทย
ใช้ความมีชื่อเสียงและจุดแข็งของ "คีรี กาญจนพาสน์" เจ้าพ่อบีทีเอส เป็นที่คุ้นเคยกับกลุ่มนักธุรกิจจีน เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นฐานสำคัญ ทั้ง "ฮ่องกง-สิงคโปร์-ไต้หวัน-จีน"
ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ พบว่าทั้ง 4 โครงการ มีลูกค้าต่างประเทศมาซื้อคิดเป็นมูลค่ารวม 3,870 ล้านบาท หรือ 29% ของยอดขายโครงการเดอะ ไลน์ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของกลยุทธ์ดึงลูกค้าต่างชาติทดแทนกำลังซื้อชาวไทย
แต่ยังเป็นที่กังขา เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ ยอดโอนจะทำได้เท่ากับยอดจองหรือไม่ ซึ่ง "เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71" ที่มีกำหนดโอนช่วงปลายปีนี้ จะเป็นโครงการแรกที่เป็นบทพิสูจน์
อย่างไรก็ตาม "แสนสิริ-บีทีเอส" มีแผนเปิดขาย "เดอะ ไลน์" อีก 2 โครงการ เป็นโปรเจ็กต์ที่ 5 และ 6 เริ่มเห็นมีการโฆษณาแล้ว "เดอะ ไลน์ พหล-ประดิพัทธ์" ปักหมุดบน ถ.ประดิพัทธ์ ช่วงซอยประดิพัทธ์ 21 ห่างจากสถานีบีทีเอสสะพานควาย 700 เมตร ที่ดินขนาด 5 ไร่ ออกแบบเป็น 2 อาคาร สูง 46 ชั้น และสูง 2 ชั้น จำนวนรวม 982 ยูนิต แผนเริ่มก่อสร้างเดือน ม.ค. 2560 เสร็จพร้อมโอน พ.ย. 2562
และ "เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101" บน ถ.สุขุมวิท ห่างจากสถานีบีทีเอสปุณณวิถี ประมาณ 300 เมตร ที่ดินขนาด 4 ไร่ ออกแบบ 1 อาคาร สูง 37 ชั้น จำนวน 779 ยูนิต แผนเริ่มก่อสร้างเดือน ก.พ. 2560 สร้างเสร็จเดือน ม.ค. 2563
ยังไม่รวมอีก 2 โครงการที่มีที่ดินแล้ว รอเปิดตัวในปีต่อ ๆ ไป คือ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง ที่เริ่มก่อสร้างแล้วบริเวณสถานีวงศ์สว่างของรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) และที่ดินอีกผืนหนึ่งบริเวณโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธิน ของเครือบีทีเอส จะเปิดเป็นโครงการเดอะ ไลน์ พหลโยธินพาร์ค
ทุกโครงการเป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ "แสนสิริ-บีทีเอส" ประกาศแผนร่วมกันไว้ ใน 5 ปีจะลงทุนคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 25 โครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-08-2559
|
|
|
|
|
