|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง"บายพาสธุรกิจ ตุนที่-ซื้อโครงการเก่าฟันกำไร |
|
เปิดโมเดลธุรกิจบายพาส "เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง" ซุ่มซื้อ 10 โครงการชูทำเลสวย-ถูก ครึ่งปีหลังทุ่ม 3.7 พันล้าน ลงทุนบ้านเดี่ยว-คอนโดฯ พลิกที่ดิน 300 ไร่ ลำลูกกา บ้านฟ้าปิยรมย์ ผุดมาร์เช่สินค้าออร์แกนิก รับรถไฟฟ้าสายสีเขียว กว้านซื้อที่ 500 ไร่ สร้างเมืองใหม่โซนเหนือ
นายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทหันมาลุยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นต์ (Property Management) ด้วยการเทกโอเวอร์หมู่บ้านจัดสรรเก่าทั้งโครงการ แล้วปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีและเปิดขายใหม่
ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจแบบบายพาสที่บริษัทเชื่อว่าไปได้ดีและถูกทางเพราะการเป็นบริษัทขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯจำเป็นต้องคิดกลยุทธ์สู้กับแบรนด์ใหญ่ๆ
"เราซื้อโครงการเก่ามาพัฒนาใหม่ร่วม10 โครงการ รวมมูลค่า 4,400 ล้านบาท ทำมาพักใหญ่แล้ว และยังคงนโยบายซื้อโครงการเพื่อรีโนเวตต่อเนื่อง"
ขายต่ำกว่าคู่แข่ง
ปัจจุบันการลงทุนในลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้นซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีเพราะหลายโครงการถูกทิ้งร้างอยู่ในทำเลดีอยู่แล้วบางแห่งอยู่ในทำเลที่โครงข่ายคมนาคมใหม่ ๆ จะตัดผ่าน หากคำนวณงบประมาณในการซื้อโครงการและงบประมาณรีโนเวตอาจคุ้มค่ากว่าการซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการขึ้นใหม่
"ที่สำคัญ เราสามารถตั้งราคาขายต่ำกว่าคู่แข่งในทำเลเดียวกันได้ ซึ่งดีกับผู้ซื้อ แม้เราต้องลงทุนค่อนข้างสูงก็ต้องทำ โดยมีสถาบันการเงินเป็นพันธมิตร ทำให้การทำธุรกิจคล่องตัวขึ้น"
"โมเดลนี้พัฒนาไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน ช่วงแรก ๆ อาจยังขายไม่ค่อยได้ แต่ถ้าสตาร์ตติดจะปิดการขายได้เร็ว เพราะราคาถูกกว่าโครงการอื่น"
"ที่พัฒนาไปแล้ว เช่น โครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปากเกร็ด-ราชพฤกษ์ บริษัทซื้อโครงการดิ เอมเมอรัลด์ มาปรับปรุงใหม่ อยู่ใกล้ถนนราชพฤกษ์และถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่ ได้เปิดขายปีที่แล้ว ตั้งราคาขาย 4 ล้านบาทเศษ ปรากฏว่าขายดี ขณะที่คู่แข่งขายอยู่ที่ 6 ล้านบาท ขนาดเดียวกัน" นายรังสรรค์กล่าวและว่า
ตัวอย่างโครงการอื่น ๆ ที่ซื้อมาพัฒนาใหม่ อาทิ เดอะ รอยัล กรีนพาร์ค กาญจนาภิเษก โครงการบ้านเดี่ยว 59 หลัง มูลค่า 649 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม เดอะ โฟกัส จ.ขอนแก่น 278 ยูนิต มูลค่า 146 ล้านบาท, บ้านเดี่ยวบ้านฟ้ากรีนพาร์ค ปิ่นเกล้า 64 หลัง มูลค่า 420 ล้านบาท ฯลฯ
เล็งทุ่ม 100 ล้านดอนเมือง
ในปี 2559 บริษัทเตรียมซื้อจัดสรรอีก 1 แห่ง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เป็นโครงการทาวน์เฮาส์เก่าย่านดอนเมือง ซึ่งบริษัทมองว่าปัจจุบันเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) พาดผ่านหลังหมู่บ้าน ทำให้ทำเลมีความน่าสนใจและมีกำลังซื้อสูง
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง กล่าวว่า ปีนี้มีแผนลงทุนเปิดอีก 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท เปิดตัวแล้ว 1 โครงการ ในไตรมาสแรก คือ บ้านเดี่ยว "ฌาร์ม" ลำลูกกา คลอง 5 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 โครงการเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,600 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท
ตุนที่รับสายสีเขียว
นอกจากนี้ เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งยังมีแผนพัฒนาพื้นที่ด้านหน้าโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ คลอง 6 ที่ยังมีที่ว่างประมาณ 300 ไร่ เตรียมพัฒนาเป็นมาร์เช่ หรือตลาดนัดพรีเมี่ยม รองรับลูกค้าโครงการและลูกค้าทั่วไปในละแวกเดียวกัน
เนื่องจากสภาพพื้นที่ในปัจจุบันได้กลายเป็นชุมชนใหญ่ไปแล้วหลังจากที่บริษัทพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสมีบ้านจัดสรรกว่า4,000 หลัง ห้างเทสโก้ โลตัส, โฮมมาร์ท และธนาคาร ล่าสุดโรงพยาบาลลาดพร้าวจะเปิดสาขาใหม่ที่นี่ด้วย
"บ้านฟ้าปิยรมย์ คลอง 6 มีเนื้อที่กว่า 900 ไร่ พัฒนาไปแล้ว 700 ไร่ ที่นี่เหมือนเป็นเมืองเมืองหนึ่ง จึงคิดทำตลาดนัดหน้าโครงการ เพราะทราฟฟิกดีมาก ไอเดียต่อยอดที่คิดไว้คือลงทุนสร้างชุมชนสินค้าออร์แกนิก ปัจจุบันเราเปิดเป็นตลาดนัดอยู่แล้ว แต่จะพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น ทันสมัยขึ้น เพื่อรับกับเทรนด์ใหม่ ๆ" นายสมนึกกล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ย่านลำลูกกา คลอง 5-6 เพิ่มอีก 500 ไร่ เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) จากหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กำลังก่อสร้างอยู่
พร้อมกับพัฒนาบ้านเดี่ยวในโครงการสนามกอล์ฟธัญธานีของบริษัท บนพื้นที่ 300 ไร่ เนื่องจากในปีหน้ารัฐบาลมีแผนจะลงทุนรถไฟฟ้าต่อจาก "คูคต" ถึง "ลำลูกกา คลอง 4" โดยมีสถานีอยู่หน้าหมู่บ้านวราบดินทร์กับห้างบิ๊กซี ลำลูกกา พอดี
"วันนี้โอกาสมาถึงเราแล้ว เพราะส่วนต่อขยายสายสีเขียววิ่งมาถึงลำลูกกา ซึ่งเราเติบโตมาจากทำเลโซนเหนือและมีแลนด์แบงก์ที่รอพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การสร้างเมืองในทำเลแถบนี้จึงไม่ไกลเกินฝัน" นายสมนึกกล่าวและทิ้งท้ายไว้ว่า
แต่ที่น่าห่วงคือราคาที่ดินถูกกระชากขึ้นเร็วเกินไป ปัจจุบันที่ดินริมถนนลำลูกกาประกาศขายไร่ละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งแพงมาก ถือเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเช่นกัน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-08-2559
|
|
|
|
|
