| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 85 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 30-07-2559    อ่าน 1151
 โฉมใหม่ "ทางเลียบเจ้าพระยา" ผุด 2 สะพานเชื่อมท่องเที่ยว 2 ฝั่งแม่น้ำ

ร่วม 4 เดือนที่
"สจล.-สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง" และ "มหาวิทยาลัยขอนแก่น"
ได้ออกแบบพัฒนาโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ตามคำบัญชาของ "กทม.-กรุงเทพมหานคร"
ภายใต้โมเดลใหม่ที่ไขข้อกังขาของทุกฝ่าย

ตามกำหนดผลการศึกษาโครงการจะแล้วเสร็จเดือน ก.ย.นี้
ขณะที่ความคืบหน้า "รศ.ดร.สกุล ห่อวโนทยานกุล" ผู้จัดการโครงการ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ทั้ง 33
ชุมชนแล้ว 4 ครั้ง เพื่อนำข้อมูลจัดทำผังแม่บทในพื้นที่นำร่องเฟสแรก ระยะทาง 14 กม. (รวม 2 ฝั่งแม่น้ำ)
ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขณะนี้ได้รูปแบบเบื้องต้นและแผนงานทั้งสิ้น 12
แผนงาน



ประกอบด้วย
1.พัฒนาพื้นที่ชุมชน จะฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรม รวมถึงสืบสานวิถีชีวิตของชุมชน
ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยว 2.พัฒนาจุดหมายตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่
พิพิธภัณฑ์กรุงเทพมหานคร, สวนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 7, พิพิธภัณฑ์มรดกเจ้าพระยา,
ศูนย์ศิลปะการแสดงแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์โรงเรือพระราชพิธี
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม
และเขตพระราชฐาน

3.พัฒนาท่าเรือ
ให้เป็นจุดเชื่อมต่อการสัญจรทางน้ำที่ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย
และปรับปรุงรูปแบบสถาปัตยกรรมให้มีความสอดคล้อง เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่
4.พัฒนาเส้นทางให้เข้าถึงพื้นที่ เช่น ปรับปรุงตรอกซอกซอย
และเข้าถึงพื้นที่ริมแม่น้ำ



5.พัฒนาทางเดินริมแม่น้ำ

เชื่อมต่อพื้นที่มรดกวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน มีทางเดินเลียบแม่น้ำและทางเดินบนดิน เช่น
จากสะพานพระราม 8 ถึงวัดบวรมงคล และบางอ้อ ถึงวัดวิมุตยาราม จะประกอบด้วย ทางเท้า ทางจักรยาน
จุดชมทัศนียภาพ สะพานข้ามคลอง
ฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนริมน้ำ

6.ปรับปรุงภูมิทัศน์เขื่อนให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม

ซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุด ก่อสร้างส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ 7.พัฒนาศาลาริมน้ำ
ให้เป็นจุดพักผ่อน ศาลาคอย 8.การพัฒนาพื้นที่บริการสาธารณะ เช่น ศูนย์บริการความช่วยเหลือ
ข้อมูลท่องเที่ยว จุดบริการจักรยาน

9.พัฒนาพื้นที่ศาสนสถาน

การออกแบบพัฒนาภูมิทัศน์ให้คำนึงถึงคุณค่าและเคารพต่อศาสนา 10.พื้นที่แนวคูคลองประวัติศาสตร์
จะปรับปรุงภูมิทัศน์ริมฝั่งคลอง รวมถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ริมคลอง ด้านการสัญจรและการท่องเที่ยว
11.พัฒนาพื้นที่นันทนาการและสวนสาธารณะริมน้ำ โดยใช้พื้นที่ว่างและสาธารณะด้านหลังเขื่อน
รองรับกิจกรรมนันทนาการ ลานกีฬาและสวนสาธารณะ
รวมถึงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและเน่าเสียหลังเขื่อน

และ 12.สร้างสะพานคนเดิมข้ามใหม่ 2 จุด
คือ จากชุมชนสะพานพิบูลฝั่งซ้าย ข้ามไปยังท่าเรือวัดฉัตรแก้วจงกลณี ฝั่งธนบุรี และจากห้างแม็คโคร
สามเสน ข้ามไปยังท่าทราย ซอยจรัญสนิทวงศ์ 84 โดยแนวจะสร้างร่วมกับถนนเดิมที่มีอยู่
ให้เป็นรูปแบบสะพานที่คนสามารถเดินข้ามได้



ส่วนรูปแบบของทางเดินและทางจักรยานจะมีขนาด 7-10 เมตร
แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่ รวมถึงสร้างต่ำกว่าแนวเขื่อนเดิมประมาณ 1.2-1.3 เมตร
โดยความสูงของเขื่อนจะสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
เสาที่ปักลงแม่น้ำมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร ถือว่ามีขนาดเล็กไม่รบกวนการไหลของน้ำ
ซึ่งการออกแบบจะเริ่มทยอยเสร็จในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้

สำหรับพื้นที่พิเศษ 5 แห่ง คือ รัฐสภา
วังเทวะเวสม์ ท่าวาสุกรี วังศุโขทัย และธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากเป็นพื้นที่อ่อนไหว
ขณะนี้ได้ส่งรูปแบบการพัฒนาให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาแล้ว

ทั้งนี้จะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่3ในช่วงต้นเดือนก.ย.เพิ่มจากทีโออาร์ที่กำหนดให้จัดขึ้น
2 ครั้ง โดยจะนำข้อเสนอในครั้งนั้นมาพิจารณาปรับปรุงเป็นครั้งสุดท้าย และส่งมอบงานทั้งหมดให้ กทม.
ปลายเดือน ก.ย.

"ก.ย.นี้จะสรุปเงินลงทุนโครงการด้วย
ยังไม่สรุปชัดเจนจะเพิ่มขึ้นหรือน้อยกว่าเดิมที่ กทม.กำหนดไว้เบื้องต้นที่ 1.4
หมื่นล้านบาท"

เมื่อถามถึงความจำเป็นของโครงการ "รศ.ดร.สกุล" ย้ำว่า
ไม่สามารถให้คำตอบแทนรัฐบาลได้ เนื่องจากเป็นนโยบาย แต่สิ่งที่สำคัญคือ
ประชาชนสามารถเข้าถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

เป็นความคืบหน้าล่าสุด หลัง
"รัฐบาล คสช." วาดฝันจะตอกเข็มตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่ก็เลื่อนมาเป็นระลอก
ส่วนโปรเจ็กต์จะไปได้ไกลจนปักตอม่อในปีหน้า หรือสุดท้ายจะเป็นได้แค่ผลศึกษา
กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 30-07-2559 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.