|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| Mission Possible "พฤกษา" ทะลุแสนล้าน |
|
สัมภาษณ์
ปฏิบัติการผ่าตัดโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของค่ายพฤกษาฯ สู่การเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปะนี ทำให้สปอตไลต์ฉายส่องมาที่เป้าหมายท้าทาย ในการประกาศตัวเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายปีละ 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2562
"ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "ปิยะ ประยงค์" กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบสร้างรายได้ปีนี้ 95% ของพอร์ตรายได้รวมบริษัท โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 5.2 หมื่นล้านบาท ล่าสุดมีแนวโน้มว่าจะปรับเป้าขึ้นอีกเป็นรอบที่ 2 หลังประสบความสำเร็จมากในครึ่งปีแรก
อัพเดตผลประกอบการ
ช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 21,635 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 19,123 ล้านบาท มียอดโอน (รับรู้รายได้) 23,888 ล้านบาท จากเป้าโอน 21,086 ล้านบาท มาร์เก็ตแชร์ขยับสูงขึ้นเป็น 11% เทียบกับไตรมาส 2/59 ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 10%
เป้าหมายระยะยาว ต้องการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในทุกโปรดักต์ เริ่มจากทาวน์เฮาส์ ปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 28% ต้องการเพิ่มเป็น 30% บ้านเดี่ยวมี 8% เพิ่มเป็น 9% และคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 6% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% เร็ว ๆ นี้อาจมีการทบทวนแผนธุรกิจอีกรอบ (ยิ้ม)
เป้าหมายกลุ่มธุรกิจแวลู
เป้าหมายใหญ่อีก 4 ปี เราจะมียอดขาย 1 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้มาจากพอร์ตรายได้ของกลุ่มธุรกิจแวลู 8.4 หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้น เราต้องบุกหนักทุกสินค้า โดยนิยามโปรดักต์กลุ่มแวลูแบ่งเป็น บ้านเดี่ยวต่ำ 10 ล้าน, ทาวน์เฮาส์ ราคาต่ำ 7 ล้าน และคอนโดฯราคาต่ำ 5 ล้าน ถ้าเกินจากนี้เป็นตลาดของกลุ่มธุรกิจพรีเมี่ยมไป
ในแต่ละโปรดักต์ เราจะ Benchmark (เทียบเคียง) กับคู่แข่งผู้นำตลาด อย่างทาวน์เฮาส์เดิมเราเป็นเจ้าตลาดราคาต่ำกว่า 5 ล้าน พักหลังเราเข้าใกล้ตลาดของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) โดยเราประสบความสำเร็จในการขายทาวน์เฮาส์แบรนด์พาทิโอ ราคา 5-7 ล้าน เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เจาะทำเลในเมือง ผู้ซื้อมีรายได้ 4-8 หมื่นขึ้นไป ซึ่งตลาดนี้มีแบรนด์ที่มาแรงอีกบริษัทคือ โกลเด้นแลนด์ แต่โมเดลธุรกิจยังเป็นการจองกระดาษ ต้องใช้เวลาสร้างและผ่อนเงินดาวน์ ทำให้ลูกค้ามีจุดอ่อนเรื่องหนี้ครัวเรือน
ถัดมาโปรดักต์บ้านเดี่ยว เซ็กเมนต์นี้จะเปลี่ยนไป ตอนนี้เรามีมาร์เก็ตแชร์ในด้านมูลค่าการขาย (มูลค่าโครงการ) อันดับ 2 อยู่ที่ 9% คิดว่าครึ่งปีหลังจะขึ้นเบอร์ 1 เพราะมีแผนเปิดตัวใหม่เยอะถึง 31 โครงการ ภายในไตรมาส 3/59 โดยบ้านเดี่ยวเราเป็นผู้นำในกลุ่มราคา 3-5 ล้าน แต่ยังแพ้ผู้นำตลาดคือบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในกลุ่มราคา 5-7 ล้าน ซึ่งจริง ๆ เราทำราคา 3-15 ล้าน แต่รายได้หลักมาจาก 3-7 ล้านเยอะที่สุด สัดส่วน 40% กำลังขยายกลุ่มราคา 7-10 ล้านมากขึ้น
และโปรดักต์คอนโดฯ ณ วันนี้ กลุ่มราคาต่ำล้านเราชนะคู่แข่ง คือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) ในด้านยอดขาย ในขณะที่ตลาดแมสราคา 2-3 ล้าน มีค่ายเอพีฯเป็นเจ้าตลาดกลุ่มนี้ คาดว่าครึ่งปีหลังจะได้ตัวเลขมากขึ้น จากการเตรียมเปิดตัวใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท กับจะเปิดตัวใหม่กลุ่มราคา 3-5 ล้าน อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้าน
กลยุทธ์การแข่งขัน
ตลาดคอนโดฯราคาต่ำล้าน คิดว่าแนวโน้มไม่ค่อยดี ตลาดที่เวิร์กอยู่ราคา 1-5 ล้าน ภาพรวมยังดี ซึ่งจะเห็นว่าตลาดล่างเราชนะ LPN แล้ว แต่ยังสู้ไม่ได้เรื่องเซอร์วิส เพราะฉะนั้น นโยบายภาพใหญ่จึงจะปรับปรุงเซอร์วิสในทุกโปรดักต์ เรื่องนี้ให้ความสำคัญ ต้องทำจริงจังเพราะฐานลูกค้าเราขยายใหญ่มาก เราส่งมอบเฉลี่ยปีละ 1 หมื่นยูนิต การดูแลบริการหลังการขายต้องเป็นหนึ่งในใจลูกค้าให้ได้
สิ่งที่ทำคือเราเพิ่มแวลูทั้งด้านโปรดักต์ เซอร์วิส และแบรนด์ งานอาฟเตอร์เซลเซอร์วิส 2 ทิศทาง มีเชิงรับกับเชิงรุก งานเชิงรับวันนี้เราทำได้ 100% กรณีข้อร้องเรียนของลูกบ้านเกี่ยวกับงานบกพร่องของการก่อสร้าง หรือ Defect per Unit เมเจอร์เฟ็กต์ลดลงต่อเนื่อง บริษัทกำลังจะทำงานเชิงรุก หลังหมดระยะเวลารับประกัน แต่ลูกบ้านยังมีความต้องการซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม ฯลฯ เราจะมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นช่าง มีการันตีช่าง มีราคามาตรฐานให้ หรือแม้แต่อยากขายบ้าน เราก็มีบริการตรงนี้ให้ได้ทำครบวงจร
เรื่องเซอร์วิสเราทำร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาคือ เบเคอร์ แอนด์ แมกเค็นซี ทำครบวงจร คล้ายกับรถยนต์โตโยต้าที่มีบริการโตโยต้าชัวร์ เป้าภายในปีนี้เราจะมีบริการพฤกษาชัวร์ ทำอาฟเตอร์เซลเซอร์วิสให้กับลูกค้าได้ครบวงจรมากขึ้น
โจทย์อะไรยากที่สุด
กลุ่มธุรกิจแวลูรับเป้ามา8.4หมื่นล้านจะเดินไปด้วยผมคนเดียวไม่ได้หรอก แต่จะต้องไปด้วยซีจี (ธรรมาภิบาล) และความเร็วหรือสปีด ภารกิจหลังจากปรับโครงสร้างใหม่ ผมต้องออกไปบอกกับลูกน้องให้มากขึ้นในเรื่องซีจีและความเร็ว
เรื่องหลัก ๆ ที่ทำก็มีเรื่องการจัดซื้อที่ดิน เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหม่เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มาเป็นรูปแบบคณะกรรมการโดยมีผมเป็นประธาน ปัจจุบันผมซื้อที่ดินเยอะที่สุดในประเทศ สิ่งที่ปรับปรุงคือนำระบบซีจี มีความโปร่งใสในดีลซื้อที่ดินกับนายหน้า บอกเขาไปเลยได้หรือไม่ได้ กับปรับปรุงเพิ่มผลประโยชน์ให้กับนายหน้า ทุกอย่างมีขั้นตอนที่มา
แลนด์แบงก์สำหรับพัฒนาโครงการปีนี้ได้ครบหมดแล้ว เป้าซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการปีหน้า เราต้องการ 80 แปลง ซื้อแล้ว 64 แปลง หรือ 80% เหลือ 16 แปลง ทุกอย่างทำงานภายใต้นโยบายงบฯซื้อที่ดินปีละ 1 หมื่นล้าน กับควบคุม IRR (ผลตอบแทนการลงทุน) 10% ขึ้นไป |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-07-2559
|
|
|
|
|
