Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"เจเอสพี"ปรับลุคแตกบริษัท-บุกตลาดเจนวาย |
|
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า เจ.เอส.พี.ได้ปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ ปรับกลยุทธ์และภาพลักษณ์องค์กรทั้งหมด โดยจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บจ. เจ.เอส.พี.แอสพลัส เพื่อดูแลการพัฒนาโครงการเพื่อขาย
และภายในบริษัทจะแบ่งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ครอบคลุมโครงการที่ เจ.เอส.พี.มีอยู่เดิม เช่น โครงการมิกซ์ยูสสำเพ็ง 2, ทิวลิปสแควร์, เจ.เอส.พี. ซิตี้ รังสิต-คลอง 1 ส่วนกลุ่ม 2 ครอบคลุมโครงการใหม่ ได้แก่ ไมอามี่ บางปู, เจ.เอส.พี. ซิตี้ บางปะกง-บ้านโพธิ์, เจ.เอส.พี. ซิตี้ สุขุมวิท-แพรกษา และโครงการใหม่จะพัฒนาในอนาคต
ซึ่งโครงการใหม่ได้ปรับโฉมภาพลักษณ์องค์กรใหม่ทั้งหมด มีทั้งปรับโลโก้ ชื่อแบรนด์เปลี่ยนเป็น "เจ ซีรีส์" ทั้งหมด จากเดิมที่ไม่มีการกำหนดแบรนด์ชัดเจน พร้อมทั้งเปลี่ยนบุคลิกเซลส์ขายโครงการและห้องตัวอย่างให้เทียบเท่าบิ๊กแบรนด์ในตลาด
"เราพยายามปรับความรู้สึกลูกค้าที่มองว่าเราดูโอลด์แฟชั่น (Old-Fashioned) จึงต้องปรับการรับรู้แบรนด์ สิ่งที่เป็นเจทัชพอยต์ (J Touch Point) ซุ้ม ป้อม ป้าย ถูกปรับหมดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา คือคนเจนวาย วัย 20-30 ปี และกลุ่มเจนเอ็กซ์บางส่วน วัย 30-45 ปี จะต้องเป็นที่อยู่อาศัยสไตล์โมเดิร์น" นายไพโรจน์กล่าวและว่า
การพัฒนาสินค้าจากนี้จะครอบคลุมทั้งแนวราบแนวสูงตลาดกลาง-ล่าง ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวราคา 3-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทจะพัฒนา, ทาวน์เฮาส์ราคา 1.5-5 ล้านบาท, อาคารพาณิชย์ราคา 3-10 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมราคา 1-7 ล้านบาท หรือ ตร.ม.ละ 3 หมื่น-1 แสนบาท แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ที่ดินทำเลดี ติดถนนใหญ่ หรือการเดินทางสะดวก ด้วยจุดแข็งในการจัดหาที่ดินที่ดีราคาถูก หลังจากนี้สัดส่วนพอร์ตโครงการเป็นอสังหาฯเพื่อขาย 80% และเพื่อเช่า 20%
ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ปีนี้ โดยมีโครงการแบบใหม่เปิดตัวครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูสอาคารพาณิชย์-บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ บางบัวทอง 80 ไร่ มูลค่า 2,500 ล้านบาท 2.เจ ซิตี้ และเจ วิลล่า ติวานนท์-บางกะดี ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่า 600 ล้านบาท 3.เจ คอนโด พระราม 2 คอนโดฯโลว์ไรส์ พื้นที่ 2 ไร่ เฟสแรก 156 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท และอีก 3 โครงการเป็นการขยายเฟสใหม่ของโครงการทาวน์เฮาส์ที่แพรกษา, บางปะกง และรังสิต แต่ปรับแบรนด์และดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
สำหรับเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้ตั้งเป้า 5,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนมียอดขายและรับรู้รายได้ 3,200 ล้านบาท และมีแบ็กล็อกทั้งหมด 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ 5,000 ล้านบาท
อนึ่ง นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม เดิมดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บจ.เดอะ คอนฟิเดนซ์ ในเครือ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ถูกดึงตัวมาอยู่ที่ บจ.เจ.เอส.พี.แอสพลัส เมื่อสิ้น พ.ค. 2559 |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-06-2559
|
|
|
|
|