Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กลุ่มทุนจีน "บาโอจิ" แตกไลน์ขึ้นคอนโดฯศาลายา ดึงต่างชาติลงทุนปล่อยเช่า |
|
ทุนจีนผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์ "บาโอจิ" แตกไลน์พัฒนาอสังหาฯ เปิดคอนโดฯแรกที่ศาลายาปะทะเพอร์เฟค มองจุดแข็งเข้าถึงลูกค้าชาวจีน หวังดึงนักลงทุนปล่อยเช่านักศึกษาม.มหิดล ตั้งเป้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปีละ 1-2 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท
นายชาลี ลิม รองประธานกรรมการ บริษัท อีลิท พลัส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายคอนโดฯ "อีลิท ศาลายา" ในซ.ตั้งสิน ศาลายา จ.นครปฐม ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มูลค่า 700 ล้านบาท โดยเป็นครั้งแรกที่บริษัทมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลังก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้าแบรนด์บาโอจิ (Baoji) มากว่า 18 ปี
นายชาลีกล่าวว่า มีความสนใจธุรกิจอสังหาฯ เนื่องจากเห็นว่าชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ทั้งเพื่อท่องเที่ยว ทำธุรกิจ และเพื่อเข้าศึกษามหาวิทยาลัย และมีแนวโน้มที่ชาวจีนจะเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นปีละ 20-30% จึงเป็นโอกาสที่จะลงทุนอสังหาฯ ให้ชาวจีนได้ลงทุนหรือซื้อเพื่อพักอาศัย
ดังนั้นบริษัทจึงสนใจพัฒนาคอนโดฯเป็นหลัก เพราะชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ 49% ของคอนโดฯ แต่ไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบได้ ซึ่งการดึงดูดลูกค้าต่างชาติ เช่น จีน ฮ่องกง ถือเป็นจุดแข็งของบริษัท เนื่องจากนายชาลีเป็นนักธุรกิจจีน สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้
โดยโครงการแรก คอนโดฯ อีลิท ศาลายา เป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์ 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 375 ยูนิต อยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ ในซ.ตั้งสิน (ทำเลตรงข้ามไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส ของบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งเปิดตัวก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์)
อีลิท ศาลายา เปิดขายห้องชุดแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 24-49 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สวนสีเขียว สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ราคาเฉลี่ย 6 หมื่นบาทต่อตร.ม. ราคา 1.35-3 ล้านบาทต่อยูนิต ขายแบบฟูลลี่เฟอร์นิช คาดสร้างเสร็จ ไตรมาส 2 ปี 2560 และจะเปิดขายรอบวีไอพี วันที่ 4-5 มิ.ย.นี้ ที่โครงการ
มองว่าจะมีลูกค้าชาวจีนสนใจลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 30% นอกจากนั้นเป็นนักลงทุนชาวไทย และกลุ่มนักศึกษาทั้งจีน-ไทยซื้อเพื่อพักอาศัยเอง
"ค่าเช่าหอพักทำเลใกล้ม.มหิดล ศาลายาถือว่าสูงมากประมาณ 8,000 บาท/เดือน ซึ่งโครงการของเราเมื่อสร้างเสร็จน่าจะได้รับค่าเช่าอัตราใกล้เคียงกัน คำนวณเป็นผลตอบแทน (Yield) 5% ต่อปี มากกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ของคนจีน และราคาอสังหาฯไทยก็ถูก ดังนั้นคนจีนน่าจะสนใจลงทุนกันมาก" นายชาลีกล่าว
และว่า
หลังจากนี้จะลงทุนอสังหาฯระยะยาว ตั้งเป้าเปิดโครงการปีละ 1-2 แห่ง มูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทมีรายได้จากอสังหาฯ คิดเป็น 30% ของทั้งหมด จากปัจจุบันมีรายได้หลักจาก 2 บริษัท คือ บจ.หลงไทย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ที่ผลิตรองเท้าบาโอจิ และบจ.ซี.ที.ที.โลจิสติกส์ ซึ่งทำธุรกิจรับจัดส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-06-2559
|
|
|
|
|