|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "แสนสิริ"งัดตำราลดค่าใช้จ่าย ตุนที่300ไร่-ขายบ้านพร้อมอยู่ |
|
แสนสิริเดินตามกลยุทธ์ Engineer for Growth ลดค่าใช้จ่ายโครงการแนวราบ ตุนแลนด์แบงก์แก้ปัญหาราคาที่ดินพุ่ง ขายบ้านพร้อมอยู่เพื่อลดงบฯการตลาด ดันกำไรสุทธิเพิ่ม 1-2% ปีนี้ลุยแบรนดิ้งแคมเปญ ตอกย้ำ 5 แบรนด์หลักบ้านเดี่ยวแสนสิริ
นายเมธา อังวัฒนาพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ เปิดเผยว่า จากกลยุทธ์บริษัท Engineer for Growth (EFG) เพื่อลดค่าใช้จ่ายพัฒนาโครงการแนวราบโดยปรับการทำงาน 3 ด้าน คือ
1.การจัดซื้อที่ดิน จากเดิมไม่มีการกักตุนแลนด์แบงก์ หากเป็นบ้านเดี่ยวจะซื้อที่ดิน 60-90 ไร่ต่อโครงการ ปัจจุบันเนื่องจากราคาที่ดินเพิ่ม 5-10% ทุกปี ทำให้ต้องซื้อแลนด์แบงก์ขนาดใหญ่ขึ้นในทำเลเดียวกัน ขนาด 200-300 ไร่ต่อแปลง ใช้วิธีทยอยแบ่งเปิดโครงการ โดยปีนี้มีงบฯซื้อที่ดิน 3,000 ล้านบาท มีแลนด์แบงก์แล้ว 500-600 ไร่
2.รีโมเดลธุรกิจขายบ้านพร้อมอยู่ จากเดิมขายแบบสร้างไปขายไป ปัจจุบันขายบ้านพร้อมอยู่ทั้งหมด ทำให้ลดงบฯการตลาดได้ 10% เพราะเดิมต้องทำ พี.อาร์.ตั้งแต่ช่วงพรีเซลไปจนถึงโอนบ้าน 6-10 เดือน ขณะที่บ้านพร้อมอยู่โฆษณาตอนบ้านสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ 3.ลดงบฯการตลาด ด้วยการจัดระเบียบแบรนด์กลุ่มบ้านเดี่ยวเหลือ 5 แบรนด์หลัก ทำให้เป็นตัวช่วยลดการโฆษณาสร้างแบรนด์ไปในตัว
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การขายบ้านพร้อมอยู่มีความเสี่ยง 2 ข้อ เรื่องแรกด้านเงินทุน ต้องมีความแข็งแกร่งและมีแรงหนุนจากสถาบันการเงิน เพราะโดยทั่วไปธุรกิจอสังหาฯนำเงินดาวน์ 10% ของลูกค้ามาหมุนเวียนใช้ในการก่อสร้าง แต่หากทำบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย บริษัทต้องมีความน่าเชื่อถือเพื่อให้ได้รับพรีไฟแนนซ์จากธนาคาร อีกส่วนคือแบบบ้าน ต้องมั่นใจว่าตรงใจผู้บริโภคเพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
"จากปีก่อนที่เริ่มลดค่าใช้จ่ายตามแผน EFG ปีแรก ตั้งเป้ากำไรสุทธิเพิ่ม 1-2% ปรากฏว่าหลังสามารถเพิ่มกำไรสุทธิได้ 1% ต่อโครงการ แสดงว่าการทำงานได้ผล" นายเมธากล่าวและว่า
ด้านแผนส่งเสริมการขายแนวราบปีนี้ เตรียมใช้งบฯ 60 ล้านบาท เปิดตัวแบรนดิ้ง แคมเปญในสื่อทีวี ออนไลน์ นิตยสาร ฯลฯ ตลอดทั้งปี เพื่อสื่อสารผู้บริโภคถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบ เซ็กเมนต์ของแบรนด์ กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของบ้านเดี่ยวแสนสิริ 5 แบรนด์ คือ นาราสิริ ราคา 20-60 ล้านบาท, เศรษฐสิริ ราคา 8-20 ล้านบาท, บุราสิริ ราคา 7-10 ล้านบาท, สราญสิริ ราคา 5-7 ล้านบาท และคณาสิริ ราคา 3-5 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับการเปิดโครงการแนวราบปีนี้ตั้งเป้า 10 โครงการ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ครบทุกแบรนด์ยกเว้นนาราสิริ โฮมออฟฟิศ 2 โครงการเริ่ม 6-10 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการเริ่ม 3 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-05-2559
|
|
|
|
|
