|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ภาคใต้ลุ้นปลดบ่วงอสังหาฯขาลง จับตาทำเลใหม่ "รอบสนามบิน" โตเงียบ |
|
จากปัจจัยราคายางพาราตกต่ำ จากโลละร้อยกลายเป็น "3 โลร้อย" ฉุดกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ภาคใต้ร่วงตาม ตลาดที่น่ากังวลหนีไม่พ้นคอนโดมิเนียมยังเหลือค้างสต๊อกจำนวนมาก ล่าสุดเริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพบแนวโน้มว่ามีอัตราการขายที่ดีขึ้น
อสังหาฯใต้ขาลง 15 ปีรวด
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเวทีสัมมนา "สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้" จัดโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC "สุรีรัตน์ ลัคนานิตย์" ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เปิดประเด็นว่า เศรษฐกิจภาคใต้ 27% พึ่งพิงการเกษตรและประมง เมื่อราคายางตกต่ำ การประมงมีปัญหา ทำให้เศรษฐกิจภาคใต้รับผลกระทบสูง สะท้อนมาถึงภาคอสังหาฯ
"ผลสำรวจ 15 ปีที่ผ่านมา อสังหาฯภาคใต้เป็นขาลงชัดเจน การเปิดตัวโครงการใหม่โดยเฉพาะคอนโดฯชะลอตัวลง การขอใบอนุญาตก่อสร้างลดลง การปล่อยกู้พรีไฟแนนซ์ก็ลดลง ส่วนโพสต์ไฟแนนซ์มีช่วงหนึ่งที่พุ่งขึ้นเพราะคอนโดฯบูมในปี′56 แต่หลังปี′57 กลับมาลดลง"
แนวโน้มการเปิดตัวใหม่ปีนี้ใน 3 จังหวัดสำคัญ มองว่า จ.ภูเก็ต โครงการแนวราบเปิดใหม่ทรงตัวเท่ากับปี 2558 ส่วนคอนโดฯเพิ่ม 1,000 หน่วย, จ.สงขลา คาดมีแนวราบเพิ่ม 200 หน่วย ไม่มีอาคารชุดเปิดใหม่ เช่นเดียวกับ จ.สุราษฎร์ธานี ไม่มีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ ขณะที่แนวราบเพิ่ม 30%
ภูเก็ตระบายสต๊อกดีขึ้น
"สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการ REIC บอกว่า ผลสำรวจอสังหาฯภาคใต้ ณ สิ้นไตรมาส 3/58 อัตราการขาย 3 จังหวัดหลักเทียบปี′57 กับปี′58 พบว่า 2 จังหวัดมีอัตราขายดีขึ้น โดย จ.ภูเก็ต ประเภทบ้านจัดสรรเพิ่มจาก 5.7% เป็น 6.3%, อาคารชุดเพิ่มจาก 4.9% เป็น 9.8%, จ.เพชรบุรี บ้านจัดสรรเพิ่มจาก 2.7% เป็น 3.8% อาคารชุดเพิ่มจาก 5.1% เป็น 7.6% ยกเว้น จ.สงขลาที่การขายลดลง
"ผอ.สัมมา" ฝากถึงผู้ประกอบการด้วยว่า ควรระมัดระวังสถิตินี้ให้ดี เพราะบางทำเล เช่น ภูเก็ต มีอาคารชุดสร้างเสร็จอยู่ระหว่างขายถึง 57% สะท้อนว่ายอดขายที่เกิดขึ้นมาจากการระบายสต๊อก ขณะนี้ยังเหลือสต๊อกห้องชุดอีก 4,300 ยูนิต จึงไม่ใช่จังหวะที่ดีเปิดตัวโครงการ
หัวหิน-ชะอำรอรัฐลงทุน
ทำเลที่น่าจับตา "เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์" มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ชะอำ-หัวหิน พบว่า ยอดขายอาคารชุดสม่ำเสมอ ยกเว้นบางโครงการมีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้การระบายสต๊อกค่อนข้างลำบาก
"หัวหิน-ชะอำเป็นตลาดอสังหาฯที่ดีที่สุดแล้วในภาคใต้ อนาคตมีโครงข่ายคมนาคมทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้น เช่น รถไฟความเร็วสูง ทางคู่ มอเตอร์เวย์ ทางฝั่งเอกชนก็มีแผนพัฒนาจำนวนมาก เช่น เอเชียทีค หัวหิน, ทิวทะเล, บลูพอร์ต ที่คาดว่าจะเปิดปลายปีนี้" สัมมากล่าว
จับตาทำเลแนวรอบสนามบิน
ด้าน "อิสระ บุญยัง" กรรมการผู้จัดการ กานดากรุ๊ป ให้มุมมองตลาดภูเก็ตที่เห็นว่าซบเซานั้น จริง ๆ แล้วเชื่อว่ายังมีศักยภาพอยู่ เพราะเศรษฐกิจหลักของภูเก็ตขึ้นกับการท่องเที่ยว และปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่ภูเก็ตมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ แผนลงทุนภาครัฐและเอกชนยังมีต่อเนื่อง ทั้งการขยายสนามบินภูเก็ต โมโนเรลเชื่อมต่อสนามบิน-ห้าแยกฉลอง การสร้างอุโมงค์ลอดแยกดาราสมุทรกับแยกเทพกระษัตรี ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ยังมีโครงการเดอะ เทอร์มินอล ของกลุ่มทุนจีน, ดิวตี้ฟรี 3 แห่งจากกลุ่มคิง พาวเวอร์, เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเจมส์ดิวตี้ฟรี ปีนี้เริ่มดำเนินการแล้วทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีทำเลเกิดใหม่ที่น่าสนใจ อยู่บริเวณถนนจากสนามบินสู่กลางเมือง เนื่องจากสายการบินโลว์คอสต์มีมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเติบโตบริเวณสนามบิน ความต้องการแหล่งพักอาศัยตามมา เห็นได้ชัดทั้งสนามบินภูเก็ต สุราษฎร์ฯ และ อ.หาดใหญ่ มีโครงการบ้านจัดสรร ออฟฟิศ รีเทล เกิดขึ้นหนาตา กับ อ.สะเดา ซึ่งเป็นที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ แนวโน้มเป็นแหล่งงานและแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญ
"ด่านสะเดาเป็นด่านศุลกากรที่มีการค้าขายสูงสุดของประเทศตอนนี้กำลังขยายถนน มีอาคารพาณิชย์เยอะมาก โรงแรมมีการก่อสร้างแล้ว 30 แห่ง มีสถานบันเทิง มองว่าต่อไปจะพัฒนาคล้าย ๆ หาดใหญ่"
รับสร้างบ้านฟื้นตัว
สุดท้าย "สิทธิพร สุวรรณสุต" ซีอีโอกลุ่มพีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น แฟรนไชส์ธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ปี′57 เป็นต้นมา ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยยอดสร้างบ้านค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ภาคใต้ฝั่งอันดามันลดลงมาก จากสภาพเศรษฐกิจและมีคู่แข่งธุรกิจรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงไตรมาส 4/58 เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในภาคใต้ และไตรมาส 1/59 ยอดขายในภาคใต้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากภาคอีสาน จากปกติอยู่ที่อันดับ 3 หรือ 4
"กำลังซื้อชะลอตัวไปก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าลูกค้าไม่มีเงินใช้จ่าย เพียงแค่ตกใจที่ราคายางลดลงมาก ทำให้หยุดการใช้จ่ายเพราะต้องบริหารการใช้เงินใหม่หมด ปกติถ้าราคายางดีสิ่งที่ชาวใต้จะซื้อคือ ที่ดิน บ้าน รถ ซึ่งตอนนี้ลูกค้าเริ่มกลับมาใช้เงินมากขึ้นแล้ว น่าจะเพราะบ้านเป็นปัจจัยสี่ เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของชีวิต" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-05-2559
|
|
|
|
|
