|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ศก.ฝืด เช็กเรตติ้งอสังหาต่างจังหวัด (4) แสนสิริ บุกด้วย "แบรนด์-บริการหลังการขาย" |
|
ตลาดต่างจังหวัดมีแต่คนบอกว่าเป็นทำเลปราบเซียน หนึ่งในกลยุทธ์ที่บิ๊กแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ใช้เป็นหัวหอกบุกจนประสบความสำเร็จมาแล้ว คือ บุกด้วย "แบรนด์" โดยมีตัวอย่างชัดเจนของ "แสนสิริ" ซึ่งลงทุนสร้างแบรนด์มานับ 10 ปี เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม
ปัจจุบันแสนสิริมีการลงทุนนอกกรุงเทพฯ 12 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ประจวบฯ-เพชรบุรี เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี ขอนแก่น โคราช ชลบุรี ระยอง ทำเลที่นับว่าเป็นเจ้าตลาด คือ หัวหิน-ชะอำ มีถึง 22 โครงการ 5,345 ยูนิต มูลค่ารวม 19,380 ล้านบาท
"ประชาชาติธุรกิจ" คุยกับ "พี่ช้าง-อุทัย อุทัยแสงสุข" รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า ซิกเนเจอร์หรือสิ่งที่เป็นจุดขายของแสนสิริ คือ "สินค้า+บริการหลังการขาย" เป็นตัวบุกในการพัฒนาอสังหาฯทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ในแง่สินค้าการออกแบบเน้นเอาใจใส่พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นหลัก พัฒนาจนกระทั่งมีความเข้าใจผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่ต้องการบ้านพักตากอากาศ ดังนั้น คอนเซ็ปต์ดีไซน์คอนโดฯจะมีลักษณะเหมือนรีสอร์ตทุกแห่ง เพื่อให้บรรยากาศของการพักผ่อนมีดีไซน์สวยงาม รูปแบบมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน
ก่อนหน้านี้ "อภิชาติ จูตระกูล" ประธานอำนวยการค่ายแสนสิริ เคยกล่าวถึงคอนโดฯโครงการแรกในหัวหินเมื่อปี 2535 แบรนด์ "บ้านไข่มุก" เป็นอาคาร 12 ชั้นสีเหลืองมัสตาร์ดริมทะเล ใช้กระเบื้องโมเสกในการก่อสร้าง ถือเป็นอาคารที่ออกแบบนำสมัยในยุคนั้น และพิสูจน์ตัวเองในเชิงมูลค่า นั่นคือห้องชุดบ้านไข่มุกราคา 7 ล้านบาทเมื่อ 24 ปีก่อน วันนี้เพิ่มมูลค่าขึ้นเป็น 80 ล้านบาท และยังซื้อขายเปลี่ยนมือได้อยู่
เหลียวกลับมาดูปัจจุบัน "อุทัย" ระบุว่า คอนโดฯแสนสิริที่หัวหินมีครบทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ 1-40 ล้านบาท ทำให้การดีไซน์ฟังก์ชั่นต่างกันไป เช่น ระดับกลาง-ล่าง เน้นไซซ์ 26 ตร.ม. ทำเลไม่จำเป็นต้องติดทะเล แต่ต้องมีสระว่ายน้ำที่ดี เป็นต้น
เรื่องที่สอง "บริการหลังการขาย" แสนสิริมีบริษัทลูก "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" เป็นผู้รับดูแลอาคาร อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเสมือนเข้าพักโรงแรม มีบริการดูแลทำความสะอาด บริหารปล่อยเช่า ทำให้ดึงดูดลูกค้าปล่อยเช่าเพราะมีบริการครบวงจร
"การบริการเป็นจุดแข็งของเรา จะบริการอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้พักผ่อนจริง ๆ ไม่ใช่ไปแล้วเสียเวลา 1 วันเพื่อทำความสะอาดห้อง จึงเกิดเป็นพลัสฯขึ้นมา"
ด้านสถานการณ์ตลาด จากการสำรวจของพลัสฯเมื่อเดือน ก.ย. 58 ที่อยู่อาศัยในหัวหิน-ชะอำที่อยู่ระหว่างขายมี 100 โครงการ 20,536 ยูนิต ลดลง 3% จากปี 2557 เพราะมีซัพพลายเปิดใหม่ลดลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดขาย ณ เดือน ก.ย. 58 มี 16,721 ยูนิต เพิ่มขึ้น 3% จากปี"57 จึงมีซัพพลายเหลือขาย 3,815 ยูนิต หรือคิดเป็น 17% แนวโน้มปี 2559 ซัพพลายใหม่จะมีไม่มาก
"ขณะนี้แสนสิริมีคอนโดฯเหลือขายในหัวหิน 2 โครงการ คือ เรน ชะอำ-หัวหิน ยอดขาย 65% กับบ้านเคียงฟ้า ยอดขาย 80% จะปิดการขายไม่เกิน เม.ย. 2560 เรากำลังหาซื้อที่ดินพัฒนาโครงการในหัวหินต่อเนื่อง"
แต่เนื่องจากที่ดินติดหาดในหัวหินมีจำกัด หากพัฒนาโครงการจะทำให้ราคาขายสูงถึง 2 แสนบาท/ตร.ม. จากปัจจุบันสูงสุดที่มีในทำเล คือ 1.5 แสนบาท/ตร.ม.
ดังนั้น การพัฒนาโครงการราคาสูงแตะ 2 แสนบาท/ตร.ม. อาจจะยังไม่เหมาะสม ณ เวลานี้ แต่ถ้าลูกค้ามีดีมานด์เมื่อไหร่ แสนสิริก็พร้อมบุกทุกเมื่อ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-05-2559
|
|
|
|
|
