|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อลหม่านโค้งสุดท้าย"มาตรการรัฐ" หวั่นสินเชื่อค้างท่อเพียบเว้นโอน-จำนอง 28เม.ย.นี้ |
|
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มกานดา พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มาตรการรัฐเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดค่าโอน 2% ค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% หรือจากล้านละ 3 หมื่นเหลือล้านละ 300 บาท กำลังจะหมดอายุ 28 เม.ย.นี้ มีข้อกังวลว่าในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีผู้ซื้อบางจำนวนเสียโอกาสในการรับสิทธิประโยชน์ เนื่องจากกระบวนการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินต้องใช้เวลานานขึ้น 2-3 สัปดาห์
ในส่วนของบริษัทได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด มีการปรับตัวรองรับไว้ล่วงหน้า โดยให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านจริงยื่นขอสินเชื่อไว้เลยสำหรับบ้านที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุแปลง เมื่อได้รับอนุมัติจากแบงก์ก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้เลย ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาใกล้เคียงกัน ในทางปฏิบัติ บางทีบ้านแปลงเดียวกันอาจยื่นกู้ 2-3 ราย ถ้าใครได้รับอนุมัติก่อนก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ก่อน
"ลูกค้ากังวลเพราะเพิ่งตัดสินใจใกล้หมดมาตรการแต่อาจจะลืมนึกไปว่าติดเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาว รวมทั้งแต่ละแบงก์มีปริมาณสินเชื่อรอพิจารณาเยอะอยู่แล้ว ปกติขั้นตอนจะนานตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ถึง 1 เดือนก็มี ขึ้นกับหลักฐานของผู้กู้เป็นหลัก ที่ผ่านมาเริ่มมีความล่าช้าจากขั้นตอนการออกใบรับรองของบริษัทเอกชนด้วย ผมมองว่าหากแบงก์จะมีมาตรการเร่งรัดพิจารณาสินเชื่อก่อนหมดมาตรการก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่ได้จองซื้อที่อยู่อาศัยไว้แล้ว"
กรณีสินเชื่ออนุมัติหลังหมดมาตรการนายอิสระกล่าวว่า ในมุมผู้ประกอบการก็คงจะต้องจัดแคมเปญออกมาเร่งการโอนอยู่ดี ในส่วนกานดาฯอาจจะจัดแคมเปญรับภาระคนละครึ่ง โดยรับภาระค่าโอน 1% แทนผู้ซื้อ โดยค่าจดจำนองให้เป็นส่วนของผู้ซื้อรับไป
นายอุเทน คงสุนทรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่อาจมีผลกระทบบ้าง บริษัทต้องระมัดระวังในการทำความเข้าใจลูกค้าก่อนจองซื้อ ถ้าหากสินเชื่อไม่สามารถอนุมัติได้ทันก่อนหมดมาตรการรัฐ ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าโอนและจดจำนองเองยกเว้นบางโครงการที่ปริญสิริเคยจัดโปรฯฟรีค่าโอนตั้งแต่ก่อนบังคับใช้มาตรการรัฐคือ กลุ่มคอนโดฯ ราคา 1.6-1.7 ล้านบาท เช่น เซลล์ รัตนาธิเบศร์ ส่วนทาวน์เฮาส์ 3 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 6-7 ล้านบาท ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามปกติ มีค่าโอน 1% ค่าจดจำนอง 1%
ส่วนความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อว่ายังเป็นไปตามปกติ หากลูกค้ามีความพร้อมด้านเอกสาร พนักงานมีรายได้ประจำใช้เวลา 3-4 วัน ธุรกิจส่วนตัวใช้เวลา 15 วัน
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การพิจารณาสินเชื่อตามปกติ พนักงานรายได้ประจำใช้เวลา 7 วัน ธุรกิจเอสเอ็มอี 2-3 สัปดาห์ หากเกินกว่านี้มักจะถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยลูกค้าที่มีความต้องการซื้อจริงน่าจะจองซื้อตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะผู้ซื้อทราบดีว่าการขออนุมัติสินเชื่อบ้านต้องใช้เวลา" นายกิตติพลกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-04-2559
|
|
|
|
|
