"ที่จอดรถ" หนึ่งในปัญหาคาใจสำหรับผู้อยู่อาศัยบ้านทาวน์เฮาส์ ที่ละเอียดอ่อนถึงขั้นทำเพื่อนบ้านมีปากเสียงกันได้ หรือใครที่คิดจะขยับขยายจากรถคันแรกไปสู่คันที่สอง-ที่สาม ที่จอดรถก็น่าจะเป็นโจทย์ที่ทำให้คิดหนักพอสมควร เอาล่ะ ... เสพคอนโดหรูระฟ้า ชมบ้านหลักร้อยล้านคุณภาพชีวิตฟูลคอร์สมาแล้ว "น้องหนวด" ขอเปลี่ยนบรรยากาศ พาไปดูวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ เรียบง่ายที่ชูคอนเซ็ปสุดเจ๋ง "ห้ามจอดรถหน้าบ้าน" โครงการแรกในประเทศไทย

สถานที่ที่เราพูดถึง "ลุมพินี
ทาวน์เพลส" สุขุมวิท 62 แบรนด์ลูกหม้อจาก LPN พิกัดตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิท 62 แยก 12
เขตพระโขนง เดินทางติดทางด่วน 200-500 เมตร ส่วนใครที่ถนัดรถไฟฟ้าบีทีเอส ตัวโครงการใกล้กับสถานีบางจาก
1.2 กิโลเมตร

 

ทันทีที่นั่งรถเข้ามา
ด่านแรกพบกับพี่ๆ รปภ. ทักทายอย่างเป็นกันเอง ภายในบรรยากาศร่มรื่น เลย์เอาท์โครงการดูเป็นสัดส่วน
จนเหลือพื้นที่ใช้สอยเยอะ แต่ก่อนจะไปสำรวจ ลองดูสเป็กข้อมูลคร่าวๆ กันก่อน



"ลุมพินี ทาวน์เพลส" มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 8 ไร่ จำนวนบ้าน 73 หลัง
ตัวบ้านหลักๆ แบ่งออกเป็น 3 Type

Type A : ทาวน์เฮาส์ 3
ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ราคา 6 ล้าน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 170 ตารางเมตร

Type B : ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ราคา 8 ล้าน
พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตร

Type C : ทาวน์เฮาส์ 3
ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ราคา 10 ล้าน+ พื้นที่ใช้สอย 245 ตารางเมตร เป็นส่วนตัว หน้าบ้านไม่ติดกับใคร
เข้าออกได้สะดวก



ระบบรักษาความปลอดภัยกล้อง CCTV 16 ตัวทั่วโครงการ
มีป้อมยามคอยสกรีนคนเข้าออกตลอดทั้งวัน รปภ. 2 คนกลางคืน หนึ่งคนช่วงกลางวัน
มีบริการเรียกแท็กซี่มารับที่ตัวโครงการ เวลา 4 ทุ่มจะทำการปิดประตู และภายในโครงการจำกัดความเร็วที่ 30
กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย

โครงสร้าง ลุมพินี ทาวน์ เพลส ชูจุดเด่นที่กฎระเบียบ "ห้ามจอดรถหน้าบ้าน" เป็นโครงการแรกในประเทศไทย โดยแต่ละหลังจะมีที่จอดรองรับ 2
คันในตัวบ้าน แต่ในกรณีที่มีเพื่อนมาหา ทางโครงการจะมีที่จอดรถฟรีชั่วคราว รองรับ 18 คัน
หรือบ้านไหนมีรถคันที่ 3 สามารถนำมาจอดได้ประจำ โดยเสียค่าจอดเดือนละ 1 พันบาท


ที่จอดรถส่วนกลาง จอดในเส้นที่โครงการเตรียมไว้



นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมุ้งมิ้ง ฟุ้งฟริ้ง ในพาร์ทของการใช้ชีวิต
ที่ให้ลูกบ้านมาร่วมปลูกต้นไม้บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากจะทำให้โครงการร่มรื่นแล้ว
ยังมีนัยสำคัญให้เพื่อนบ้านมาทำความรู้จัก ละลายพฤติกรรมซึ่งกันและกัน รวมถึงนิมนต์พระมาตักบาตรช่วงเช้า
ถือเป็นกิจกรรมน่ารักๆ ที่กระชับความสัมพันธ์ให้แก่ลูกบ้านเป็นอย่างดี



อีกหนึ่งปัญหาหนึ่งที่น่าจะรวบกวนคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยทั่วไป เคยมั้ย? กำลังเฝ้าพระอินทร์ฝันหวานเป็นเรื่องเป็นราว แต่อยู่ๆ
ก็มีเสียงทุบผนัง เจาะสว่านจากบ้านใกล้เคียง มารังควานเวลาพักผ่อนของเรา ทั้งๆ
ที่มันเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์!

ทางโครงการมีมาตรการห้ามปรับเปลี่ยนภูมิสถาปัตกรรมด้านนอก
แต่หากต่อเติม ต้องยื่นแบบและขออนุญาตก่อน โดยมีกฎเหล็กว่า สถาปนิกสามารถเข้ามาทำงานได้ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 8 โมงเช้า - 5 โมงเย็น ยกเว้นวันอาทิตย์
ที่เป็นวันพักผ่อนของคนทั่วไป รวมถึงห้ามเปลี่ยนบ้านเป็นโฮมออฟฟิศ สถาบันกวดวิชา
ซึ่งจะส่งผลต่อปัญหาพื้นที่จอดรถโดยตรง



ขณะที่มลภาวะ "ทางเสียง"
อย่างการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ ต้องขออนุญาตและแจ้งกับเพื่อนบ้าน หรือทางนิติบุคคลก่อน
ส่วนนี้ไม่มีการวางกฎเอาไว้ แต่เป็นการขอร่วมมือ และใช้เสียงดังได้ไม่เกิน 4 ทุ่ม สำหรับสิงห์รมควัน
จะไปห้ามไม่ให้สูบคงทำไม่ได้
ระเบียบของที่นี่จึงเป็นการห้ามสูบนอกพื้นที่บ้านของตัวเอง

สำรวจภาพรวมพบว่า อันที่จริง "กฎเหล็ก" ที่ถูกกำหนดไว้ไม่ได้เข้มงวดถึงขนาดนั้น เพราะที่นี่ใช้ระบบ
"ขอความกรุณา"
กับบรรดาลูกบ้านที่ก็อยู่ที่น้ำจิตน้ำใจจะให้ความร่วมมือ...



แต่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญ ที่หยิบเอายุคสมัยโซเชียล มีเดีย
การมีสมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 มาใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อทางนิติบุคคลได้จัดตั้งกรุ๊ปไลน์ ให้ลูกบ้านติดต่อสอบถาม ร้องเรียนปัญหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไปจนถึงให้ลูกบ้านช่วยสอดส่องเวลามีคนฝ่าฝืนกฎระเบียบ คอยตักเตือนเวลามีคนจอดรถหน้าบ้าน
เพื่อที่จะแจ้งสายตรวจได้ทันที ถึง "กรุ๊ปไลน์"
จะไม่ใช่วิธีที่ใหม่อะไรนัก เพราะคอนโดทั่วไปสมัยนี้ก็ใช้กัน
แต่กับโครงการทาวน์เฮาส์ที่มีจำนวนหลังไม่เยอะ น่าจะช่วยให้การรับฟัง
การแก้ปัญหาทำได้ทั่วถึงมากขึ้น





หลังรู้จักกฎระเบียบการสร้างชุมชนน่าอยู่ไปแล้ว "น้องหนวด"
ได้เดินสำรวจรอบๆ โครงการ พบว่า ผลจากการ "ไม่จอดรถหน้าบ้าน"
ทำให้ทัศนียภาพบริเวณถนนหน้าบ้านดูเคลียร์สุดๆ น่าอยู่ขึ้นหลายเท่าตัว