Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ธุรกิจรับสร้างบ้านตลาดเงียบ มาตรการกระตุ้นอสังหาไร้ผล |
|
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ประเมินตลาดช่วง ม.ค.-ก.พ.ห่วงสถานการณ์ปีนี้ไม่ดี เหตุเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น อานิสงส์มาตรการรัฐยังมาไม่ถึงธุรกิจ เผยช่วยได้แต่บ้านจัดสรร
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้าน 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ. 59) เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว โดยประเมินจากกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านเองมีการจัดกิจกรรมการตลาดมากขึ้น และก็ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคที่อั้นมานาน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่ายังทรงตัวหรืออาจจะชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อใหม่ลดลงด้วย
"สำหรับมาตรการภาครัฐที่ออกมาสนับสนุนเฉพาะบ้านจัดสรรเป็นหลัก ดังนั้นผู้ประกอบการคงต้องปรับตัวเองอย่างมาก เพื่อประคองตัวให้ผ่านพ้นสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปให้ได้ น่าเป็นห่วงสถานการณ์ตลาดในระยะถัดไป เพราะไม่มีปัจจัยบวก มาสนับสนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่ามาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ และปัจจัยทางเศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัวจริง"
นายสิทธิพรกล่าวว่า สำหรับปีนี้ทางสมาคมประเมินว่าปริมาณ "บ้านสร้างเอง" ทั่วประเทศมีจำนวนประมาณ 8 หมื่นหน่วย แบ่งเป็นใช้บริการผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน 18-20% คิดเป็น 1.5-1.6 หมื่นหน่วย ใช้บริการผู้รับเหมาทั่วไปและรายย่อย 80% โดยแบ่งผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่มหลัก
ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บริโภคที่สร้างบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด และส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด กลุ่มนี้บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถให้บริการได้ เพราะมูลค่าต่อหน่วยต่ำและไม่คุ้มค่าดำเนินการ และ 2.ผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเลือกว่าจ้างบริษัทสถาปนิกออกแบบ โดยเมื่อออกแบบเสร็จแล้วผู้รับเหมาก็จะประมูลราคาแข่งขันกัน บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่จะไม่นิยมร่วมประมูลงานลักษณะนี้
นายสิทธิพรกล่าวต่อว่า การพัฒนาขนาดของตลาดรับสร้างบ้านให้โตขึ้น ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ชมรม สมาคม ไม่ควรมองแค่การขยายตัวเฉพาะปริมาณและมูลค่ารวม ควรให้ความสำคัญกับการขยายทำเล ในอดีตผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่แข่งขันกันอยู่ในธุรกิจนี้ อยู่ในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจประเทศชะลอตัว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่แข่งขันอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ ที่กลายเป็นตลาดเรดโอเชี่ยนไปแล้ว จึงประสบปัญหาทางธุรกิจและการเงินค่อนข้างมาก
โดยการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคใช้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน 1.5-1.6 หมื่นหน่วย/ปี ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาด 4,800-5,000 หน่วย/ปี คิดเป็นมูลค่า 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งจากข้อมูลสะท้อนได้ว่าโอกาสทางการตลาดของกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านยังมีอยู่อีกมาก หากว่าสามารถเข้าถึงกำลังซื้อผู้บริโภคในต่างจังหวัด หรือขยายการให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ไม่แข่งขันเฉพาะในเขตกรุงเทพฯเท่านั้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-03-2559
|
|
|
|
|