|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| หมดยุคแข่งราคา"พฤกษา"รีโมเดลทาวน์เฮาส์ ชูคอนเซ็ปต์HVAรีดีไซน์-เซอร์วิสล่าเป้าขาย-โอน2.4หมื่นล้าน |
|
เจ้าพ่อทาวน์เฮาส์ "พฤกษา เรียลเอสเตท" ปรับกลยุทธ์พัฒนาสินค้าใหม่ เผยหมดยุคราคาต่ำล้าน ไม่เน้นแข่งสงครามราคา รีโมเดลธุรกิจรอบใหม่ ชูคอนเซ็ปต์ "HVA-คุ้มค่ากว่าในราคาเดียวกัน" ให้จุใจ 4 ฟังก์ชั่นครบทั้งโปรดักต์-เซอร์วิส ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ เดินหน้าอย่างมั่นใจหลังพัฒนาครบ 100 โครงการ ปีนี้ขอโตต่อเนื่อง 2.4 หมื่นล้าน รักษาแชมป์ตลาด 2-5 ล้าน/ยูนิต
นายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้จัดการ สายงานทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลงานด้านยอดขายและรายได้กลุ่มทาวน์เฮาส์ปี 2558 ทำได้ 2.3 หมื่นล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยสามารถรักษามาร์เก็ตแชร์สูงสุดในตลาด คิดเป็น 32% ของตลาดรวม
เป้าขาย-โอน 2.4 หมื่นล้าน
แผนลงทุนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายและรายได้อย่างละ 2.4 หมื่นล้านบาท แบ่งพอร์ตรายได้กลุ่มราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท 10%, ราคา 1.5-2 ล้านบาท 25%, ราคา 2-3 ล้านบาท 36%, ราคา 3-5 ล้านบาท 16% และราคา 5-7 ล้านบาท อีก 5% โดยตลาดที่เติบโตสูง คือ กลุ่มราคา 2-5 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2558 มียอดขาย 354,799 ล้านบาท เติบโต 21% ในขณะที่ตลาดทาวน์เฮาส์ มูลค่า 7.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 28% สูงกว่าตลาดรวม เนื่องจากที่ดินราคาแพงขึ้น ทำให้การพัฒนาและการขายเปลี่ยนจากบ้านเดี่ยวเป็นทาวน์เฮาส์มากขึ้น
สำหรับแนวโน้มตลาดปีนี้ คาดว่าโครงการทาวน์เฮาส์เติบโต 10% สาเหตุที่อัตราเติบโตชะลอลง เนื่องจากปีก่อนมีซัพพลายเข้าตลาดจำนวนมาก ขณะที่มีปัจจัยบวกคือรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มอีก ยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ปัจจัยค่าก่อสร้างที่ถูกลงเล็กน้อยช่วยลดผลกระทบจากที่ดินราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาบ้านจึงยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากนักในปีนี้
เรื่องใหม่คอนเซ็ปต์ HVA
สำหรับเรื่องใหม่ ๆ ในปีนี้ นายปิยะกล่าวว่า พฤกษาฯรีโมเดลธุรกิจโดยจัดทำมาสเตอร์แพลนพัฒนาโครงการ ภายใต้แนวคิด "HVA-High Value Added" เพิ่มฟังก์ชั่นตัวสินค้ามากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีภาวะการแข่งขันรุนแรง ในขณะที่ต้นทุนราคาที่ดินปรับเพิ่มทุกปี ทำให้การพัฒนาทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่ายูนิตละ 1 ล้านบาท เป็นไปได้ยาก
"เราไม่เน้นการทำไพรซิ่งอีกต่อไปแล้ว แต่หันมาเน้นสินค้าที่เป็น HVA เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า นำเสนอให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง เมื่อเปรียบเทียบแบรนด์ชนแบรนด์ สินค้าในราคาเท่ากัน แต่พฤกษาฯให้ฟังก์ชั่นมากกว่า และเป็นสิ่งที่ให้โดยไม่เพิ่มราคากับลูกค้ามากนัก เพราะยังต้องทำราคาแข่งขันในตลาดอยู่" นายปิยะกล่าวและว่า
รายละเอียด HVA 1.บ้านสุขภาพ (Healthy Home) ระบบฝ้าระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ ระบบกำจัดปลวก ใช้สีโน้ตแอนด์คลีน งดใช้วัสดุที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน สวนส่วนกลางมีจ็อกกิ้งแทรก 2.บ้านรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Home) มีระบบสวนแนวตั้ง ระบบดวงโคม LED ประหยัดพลังงาน หลังคาสกายไลต์ให้แสงธรรมชาติผ่านสู่ตัวบ้าน ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ในสำนักงานนิติบุคคล
3.บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ติดตั้งสัญญาณกันขโมย ระบบโฮมออโตเมชั่น การก่อสร้างบ้านแบบน็อกดาวน์ 4.บ้านปลอดภัย (Safety Home) ระบบกราวนด์บีม (Ground Beam) เว้นช่องว่างระหว่างพื้นบ้านกับดิน 50 ซม. เพื่อลดปัญหาปลวกและช่วยระบายอากาศ ตอกเสาเข็มส่วนซักล้างหลังบ้านยาว 18 เมตร สร้างรั้วหลังบ้านสูงขึ้นสำหรับต่อเติมครัว
รีดีไซน์เป็นที่ 1 ในใจลูกค้า
"ทั้งหมดนี้แต่ละเซ็กเมนต์ของทาวน์เฮาส์พฤกษาจะทยอยปรับใช้กับสินค้า แต่จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ปีนี้ โดยฟังก์ชั่นที่คาดว่าจะใช้กับทุกแบรนด์ ทุกโครงการของบริษัท อาทิ ฝ้าระบายอากาศ ตอกเสาเข็มส่วนซักล้างหลังบ้าน ใช้ดวงโคม LED นอกจากนี้จะเพิ่มความสูงพื้นถึงฝ้าจากเดิม 2.6 เมตร เป็น 3 เมตร สำหรับทาวน์เฮาส์กลุ่มราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป"
นายปิยะกล่าวด้วยว่า การปรับตัวด้านตลาดทาวน์เฮาส์ของพฤกษาเริ่มตั้งแต่ปีก่อน มีการปรับกลุ่มลูกค้าใหม่ จากเดิมเน้นพนักงานโรงงาน (Blue Collar) และ SMEs มาเป็นกลุ่มพนักงานบริษัท ขณะนี้คิดเป็น 80% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด และปรับระดับราคาเป็น 1.5-5 ล้านบาท จากเดิมเน้นครองตลาดทาวน์เฮาส์บีโอไอ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท เพราะปัญหาที่ดินราคาสูง ทำให้ทำเลเปลี่ยนเหมาะกับการพัฒนาอาคารชุดมากกว่า อีกทั้งใช้กลยุทธ์ขายทาวน์เฮาส์พร้อมอยู่ 90% ของโครงการ และสร้างกระบวนการพรีแอปพรูฟแก้ปัญหาอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มสูง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-03-2559
|
|
|
|
|
