โนเบิล BE19 (โนเบิล บีไนน์ทีน) เป็นคอนโดมิเนียมแห่งล่าสุดของบมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ในทำเลคุ้นหูคุ้นตา ซอยสุขุมวิท 19 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก 500 เมตร ตามคอนเซปต์ดีเวลอปเปอร์เจ้านี้ที่เน้นพัฒนาโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้า
ดูเรื่องทำเลกันก่อน ย่านอโศกนั้นชัดเจนว่าใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก
โดย ธีรพล วรนิธิพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ค่ายโนเบิล อธิบายว่าย่านนี้ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าบนดินใต้ดิน
ห้างสรรพสินค้ามีเทอร์มินอล 21 ในละแวกใกล้เคียงมีร้านอาหารและร้านกาแฟหลายร้านตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง
ส่วนสวนสาธารณะแนะนำที่สวนเบญจกิตติ ที่สถานีศูนย์ฯสิริกิติ์ห่างไป 1 สถานี
ระยะเดิน 500
เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสู่โครงการ ถือว่ายังเดินถึงได้ แต่ถ้าหากต้องการความสะดวกสบาย
ก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์
ต่อกันที่โมเดลอาคาร บนพื้นที่ 3 ไร่กว่าๆ
อยู่ทางฝั่งซ้ายของซอยสุขุมวิท 19 ออกแบบเป็น 2 อาคาร ตึกเอสูง 48 ชั้น และ ตึกบีสูง 27 ชั้น รวมมี 586
ยูนิต ตัวตึกบีมีการเล่นระดับลดหลั่นกันสวยงาม ดีไซน์เป็นสไตล์โมเดิร์นคงเอกลักษณ์ของโนเบิล โดยโนเบิล
BE19 ใช้สีน้ำตาลแชมเปญเป็นสีหลักภายนอกอาคาร
การเข้าออกทำได้ 2 ทาง คือซอยสุขุมวิท19
เป็นทางเข้าออกหลัก จากถนนซอยถึงตึกเอ ระยะทาง 76 เมตร และอีกทางหนึ่งเข้าออกทางซอยสุขุมวิท 15
บริเวณนี้มีตึกสูงจำนวนมาก ซื้อห้องชุดทั้งทีต้องพิจารณาวิว สอบถามเซลส์โครงการได้ความว่า
ฝั่งด้านหน้าโครงการหรือทิศใต้ มีคอนโดฯโนเบิล รีโคล สูง 28 ชั้นกำลังก่อสร้างอยู่ จะเหลื่อมกันเล็กน้อย
ถ้าจะให้แน่นอนก็ต้องเลือกห้องสูงกว่าชั้น 28 หมุนมาทางซ้ายเป็นทิศตะวันตก ฝั่งนี้มีคอนโดฯสูง 23
ชั้นบังวิวอีกเช่นกัน ทางด้านหลังที่ออกซอยสุขุมวิท 15 เป็นทิศเหนือ มีโรงแรมโมเวนพิกสูง 7 ชั้น
และทิศตะวันออก ทางขวาของโครงการมีโบสถ์คริสตจักรสูง 6 ชั้น
เป็นทิศที่เซลส์แนะนำว่าดีที่สุดเรื่องวิว
ไทป์ห้องมีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33-50
ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 51-73 ตร.ม. และเพ้นท์เฮาส์ 2-3 ห้องนอน ขนาด 86-146 ตร.ม.
"มิสเตอร์โฮม"
ขอโฟกัสไปที่ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอนขนาด 34 ตร.ม. แปลนห้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใช้โทนสีขาวครีม-น้ำตาล
ผลักประตูเข้าไปขวามือจะเป็นครัวฝรั่ง ตู้บิลท์อินไม้สีขาวแบรนด์สตาร์มาร์ก พร้อมซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า
เครื่องดูดควัน เตาอบ เจาะช่องไว้ให้ติดตั้งเครื่องซักผ้ากับตู้เย็น
ตรงเข้าไปเป็นโต๊ะกินข้าว
ทดลองจัดโต๊ะกลมนั่งได้ 4 ท่าน และปลายสุดห้องเป็นโซนนั่งเล่น วางโซฟาห่างจากโทรทัศน์ได้พอสมควร
ไม่ใกล้จนอึดอัด
เลี้ยวทางขวาเป็นห้องนอน วางเตียง 5 ฟุตได้ ใหญ่กว่านี้จะเหลื่อมกับประตู
อีกมุมหนึ่งเป็นจุดบิลท์อินตู้เสื้อผ้า ถัดจากนั้นเป็นห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง ปูกระเบื้องเซรามิก
หน้าท็อปอ่างล่างหน้าเป็นหินอ่อนอัด ให้กระจกแต่งหน้าแบบสูงจากหน้าท็อปจดเพดาน
เพดานถึงฝ้าสูง
2.75 เมตร โดยผนังทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นกระจกบานเลื่อนสูงพื้นถึงเพดานประมาณ 3 เมตร
ทำให้ซ่อนราวม่านไว้หลังฝ้าไม่ให้เกะกะสายตา และมีแสงเข้ามาก
สร้างความโปร่งสบายให้ห้องชุด
เมื่อเปิดกระจกบานเลื่อนออกไปทั้งฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
จะมีระเบียงกว้าง 55 ซม. พอให้ออกไปยืนรับลมชมวิวได้ แอบแวะดูแบบ 2 ห้องนอน
ขอบอกว่าในห้องน้ำก็มีระเบียงด้วย
สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง มีที่จอดรถ 67% เป็นที่จอดรถใต้ดิน 6
ชั้น สวนส่วนกลาง สระว่ายน้ำทั้ง 2 ตึก จากุสซี เลาจน์ ฟิตเนส
ซึ่งแต่ละตึกมีเป็นของตัวเองแต่สามารถข้ามมาใช้ของอีกตึกได้
ว่ากันที่ราคา คุณธีรพล
ประกาศเคาะเริ่มต้นที่ 6.2 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.8 แสนบาท/ตร.ม.ในวันเปิดตัว
ถ้าหลังจากนั้นคาดจะขึ้นไปยืนราคาเฉลี่ย 2 แสนบาท/ตร.ม. ขายแบบฟูลลี่ฟิตเต็ดให้ชุดครัวกับสุขภัณฑ์
ส่วนใครสนใจเพ้นท์เฮาส์ มี 16 ยูนิตเท่านั้น ราคาประมาณ 40-50
ล้านบาท
สนใจลงทะเบียนรับสิทธิ์จองที่เซลส์แกลลอรี่โครงการได้ตั้งแต่วันที่ 4-17 มี.ค.59
และพรีเซลวันแรก 20 มี.ค.59 ที่โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ