|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "แสนสิริ"สานกลยุทธ์พยัคฆ์เสียบปีก"บีทีเอส" ลุย11คอนโดเจาะเศรษฐีจีนรุกตลาดอินเตอร์-ย้ำแบรนด์เบอร์1 |
|
"แสนสิริ" ลอยลำตลาดคอนโดฯ เปิดแผนปีวอก ลุย 11 โครงการ มูลค่า 35,100 ล้านบาท สานต่อกลยุทธ์ "พยัคฆ์เสียบปีก" ร่วมทุนบีทีเอส เน้นตลาดอินเตอร์ไฮเอนด์ โฟกัสลูกค้าใหม่ในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เร่งสร้างแบรนด์ยั่งยืน เตรียมเซอร์ไพรส์วงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวแฟล็กชิปโปรเจ็กต์คอนโดฯที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ถนนวิทยุ ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะห้องชุด 28,000 ล้านบาท โตขึ้น 65% เตรียมอัดแคมเปญ "เดอะ กู๊ดไลฟ์" คอนโดฯช่วยชาติ ทำเลอ่อนนุช-พระราม 9 ราคาขาย 1.19 ล้านบาท เปิดขาย 27-28 ก.พ.นี้
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดคอนโดมิเนียมปี 2559 จะครอบคลุมกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น พร้อมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 11 โครงการ มูลค่า 35,100 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวมเฉพาะคอนโดฯในปีนี้ไว้ที่ 28,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว ซึ่งมียอดขาย 17,510 ล้านบาท หรือประมาณ 65% โดยประมาณการรายได้รวมคอนโดมิเนียมไว้ที่ 20,000 ล้านบาท
"ปีที่แล้ว บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมคอนโดฯไว้ 22,000 ล้านบาท แต่รายได้เกินเป้าหมายได้มา 23,000 ล้านบาท นับเป็นรายได้คอนโดมิเนียมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่แสนสิริเคยทำได้"
แบ่งเป็นรายได้จากการขาย รวมกับบริษัทเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการ ภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ซึ่งเป็นปีที่ดีที่สุดของแสนสิริ โดยทยอยการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯที่ทยอยโอนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
รวมถึงยอดขายคอนโดมิเนียม (พรีเซล) 17,510 ล้านบาท จากการร่วมทุนกับบีทีเอส ตามแผน 5 ปีที่ทั้งสองบริษัทมีแผนพัฒนาคอนโดฯในแนวรถไฟฟ้า ภายใต้บริษัทร่วมทุน 25 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้าน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน
"เรายังได้รับการตอบรับดี คือขายหมดในวันเดียว เช่น เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า และโครงการที่ร่วมทุนกับบีทีเอส แบรนด์ "เดอะไลน์" ทั้ง 3 โครงการ ทั้งเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต, เดอะไลน์ สุขุมวิท 71 และเดอะไลน์ ราชเทวี ทำให้รับรู้รายได้ทันทีในปีที่ผ่านมา" นายอุทัยกล่าว
ส่วนแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมปี 2559 บริษัทจะต่อยอดความสำเร็จในเชิงลึก คือ 1.การตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนที่บริษัทมองว่า "ยังมีโอกาส" และสร้างพื้นฐานความน่าเชื่อถือและความเป็นแบรนด์สากลระดับโลกกับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะที่ร่วมทุนกับบีทีเอส จะเปิดตัว 6 โครงการใหม่ต่อเนื่อง มูลค่า 23,000 ล้านบาท
2.จะเปิดตัวคอนโดฯระดับไฮเอนด์ในสัดส่วนที่มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุนหรือซื้อเก็บเป็นสินทรัพย์
โดยปีนี้จะเปิดตัวคอนโดฯระดับ Medium-end และ Hi-end เป็นส่วนใหญ่ เช่น ราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร 14% ระดับราคา 100,000-200,000 บาทต่อตารางเมตร ประมาณ 34% และระดับราคามากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร ประมาณ 52% บริษัทเชื่อมั่นว่า ตลาดระดับบนยังคงมีความต้องการและแข่งขันได้
3.เปิดตัวโครงการระดับไฮเอนด์ที่สอดคล้องกับการรุกตลาดเจาะลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่องปีนี้บริษัทมีแผนการเปิดตลาดเพิ่มในประเทศจีน ทั้งที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเสิ่นเจิ้น จากเดิมลูกค้าในภูมิภาคเอเชียอย่างฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน ให้การตอบรับดีมาก
4.จะทำตลาดในระดับ International เพื่อสร้างแบรนด์ยั่งยืน โดยโปรโมตโครงการระดับบนให้ลูกค้าต่างชาติและลูกค้าคนไทยซึมซับบอกต่อ นอกเหนือจากที่บริษัทเน้นจับกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างชาติมากขึ้น พร้อมทำ Collaboration กับแบรนด์ระดับโลก เพื่อยกระดับแบรนด์ "แสนสิริ" ให้เข้าสู่ระดับ International ยิ่งขึ้น
"แม้แบรนด์แสนสิริจะแข็งแกร่งมากในกลุ่มผู้บริโภคในประเทศ แต่ในระดับต่างประเทศ แสนสิริต้องสร้างความได้เปรียบด้วยการจับมือพันธมิตรระดับโลกที่เหมาะกับแบรนด์แสนสิริในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าต่างชาติ โดยตั้งเป้ายอดขายตลาดนี้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามียอดขาย 3,500 ล้านบาท
ที่สำคัญ แสนสิริเตรียมเปิดตัว Flagship Project ถนนวิทยุ โครงการพรีเมี่ยมที่สุดและมีราคาขายต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในทันที
ส่วนไตรมาสแรกได้เตรียมโอน 2 โครงการ มูลค่า 5,100 ล้านบาท คือ "ฮาสุ เฮาส์" จำนวน 310 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และเดอะ "เดส เซ็นทรัล-พัทยา" ตั้งอยู่บริเวณพัทยากลาง จำนวน 1,112 ยูนิต จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทยอยรับรู้รายได้ทันที
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดคอนโดฯพร้อมอยู่ แคมเปญ "เดอะ กู๊ดไลฟ์" สนับสนุนมาตรการการเงินการคลัง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ คีคอนโด อ่อนนุช-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 1.19 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท จะเปิดขายในวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-02-2559
|
|
|
|
|
