Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
มาตรการรัฐอ่อนแรงปี′59รับสร้างบ้านหดตัว10% |
|
"ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์" ชี้ธุรกิจรับสร้างบ้านปี′59 หดตัว 5-10% มาตรการรัฐส่งผลค่อนข้างน้อย เผยบ้านราคา 3-5 ล้านได้รับแรงเหวี่ยงภาวะเศรษฐกิจมากสุด แนะผู้ประกอบการช่วยตัวเอง
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2558 มีรายได้ประมาณ 382 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 10% ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้มากกว่า 400 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทมีลูกค้าอยู่ระหว่างการเจรจาประมาณ 2-3 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 400 ล้านบาท และมีจำนวน 8 หลังกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท อยู่ในต่างจังหวัด 3 หลัง ได้แก่ สุโขทัย สุพรรณบุรี และมุกดาหาร โดยที่สุโขทัยถือเป็นระดับราคาบ้านเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะมีมูลค่าสูงสุดที่บริษัทเคยสร้างมา คือมีมูลค่าการก่อสร้างและการตกแต่งมากกว่า 320 ล้านบาท
สำหรับมูลค่ารวมตลาดบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากข้อมูลการประมาณการของบริษัทเองอยู่ที่ 57,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทรับเหมาและผู้รับเหมาอิสระ 45,600 ล้านบาท คิดเป็น 80% บริษัทสร้างบ้านในสมาคม 7,400 ล้านบาท คิดเป็น 13% และบริษัทรับสร้างบ้านที่ไม่ได้อยู่กับสมาคม 4,000 ล้านบาท คิดเป็น 7% ทั้งนี้ มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ทำได้ 54,706 ล้านบาท หรือประมาณ 5%
ทั้งนี้ สัดส่วนระดับราคาบ้านของบริษัทในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจากมูลค่ารวม 7,400 ล้านบาท แบ่งเป็นระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท คิดเป็น 8% ราคา 3-5 ล้านบาท คิดเป็น 25% ราคา 5.1-10 ล้านบาท คิดเป็น 22% ราคา 10.1-20 ล้านบาท คิดเป็น 17% ราคา 20.1-50 ล้านบาท คิดเป็น 19% และราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็น 9% จากสัดส่วนดังกล่าว บริษัทอยู่ในกลุ่มมูลค่าบ้านราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 57% ของมูลค่าบ้านราคา 50 ล้านขึ้นไป
นายสุรัตน์ชัยกล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ คาดว่าจะหดตัวลงประมาณ 5-10% เนื่องจากภาพรวมทางเศรษฐกิจที่เพิ่งจะฟื้นตัว รวมถึงการแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ที่เป็นตัวแย่งตลาดในกลุ่มบ้านสร้างเอง แม้รัฐบาลจะใช้มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลประโยชน์จากมาตรการค่อนข้างช้า
ส่วนข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงการบริหารงานก่อสร้างที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยทำให้ต้นทุนการก่อสร้างถูกลง และต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการก่อสร้างให้มากที่สุด โดยมองว่าการสร้างบ้านมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย หมายความว่าเมื่อเศรษฐกิจในปี 2558 ไม่ดี จะส่งผลในปี 2559 ซึ่งกลุ่มบ้านราคา 3-5 ล้านบาท มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากที่สุด ตรงกันข้ามกับกลุ่มบ้านราคาแพงที่มีความอ่อนไหวค่อนข้างต่ำ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-02-2559
|
|
|
|
|