Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ตราเพชร" บุกอาเซียน แก้เกมตลาดในประเทศหดตัว |
|
สัมภาษณ์
หลังเปิด "เออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" อย่างเป็นทางการเมื่อ 1 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายค่ายมองเห็นโอกาสสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เริ่มขยายตลาดไปเออีซีเพิ่มขึ้น ตามเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมถึง "บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร" ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคาไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา "ตราเพชร" ที่ไม่ยอมตกขบวนเออีซี พร้อมกับปรับพอร์ตรายได้ขายในประเทศและต่างประเทศใหม่
"ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "สาธิต สุดบรรทัด" เอ็มดีคนใหม่ค่ายตราเพชร ถึงแผนธุรกิจปีนี้และการเตรียมพร้อมเติมเกมรุกตลาดอาเซียน
- ทำไมบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
เพราะกำลังซื้อในประเทศหายไป มองว่าตลาดอาเซียนเป็นโอกาส ปีที่แล้วจีดีพีบ้านเราหดตัว เพื่อนบ้านยังมี แสดงว่ายังเดินหน้าต่อไปได้ เรามองไฮไลต์อยู่ที่เมียนมา เพราะมองภาพว่าเราผ่านขั้นตอนของการเลือกตั้งมาแล้ว และมีฐานตลาดอยู่แล้ว พ่อค้าคนเดิมก็รู้จักเราอยู่แล้ว การนำเข้าส่งออกก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งสอนกันใหม่ เพียงแต่ว่าต้องไปหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากเดิมขายแค่แผ่นบอร์ด ตอนนี้ขายไม้ฝา ไม้พื้น หลังคา วันนี้มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ได้ดูแค่ย่างกุ้งเท่านั้น ตลาดชายแดนที่ติดไทย ทั้งกาญจนบุรี แม่สอด เป็นทำเลที่ดี เพราะการขนส่งสินค้าจะทำได้สะดวกยิ่งขึ้น อยู่ที่ภาครัฐในการพัฒนาถนน ด่านต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน และกำลังซื้อคนเมียนมา 60 กว่าล้านคน มีพอ ๆ กับประเทศไทย
- ตลาดโดยรวมในประเทศปีนี้
สำหรับตลาดไทยยังไม่ดี ผมว่าเทียบช่วงนี้ของปีที่แล้วไม่ได้ อาจจะมีโอกาสติดลบ แต่ยังบอกไม่ได้เต็มที่เหมือนกัน แต่ว่าการเติบโตคงยังไม่เห็น ยังซึม ๆ ภาคที่อาจจะเป็นพระเอกบ้างก็ยังไม่ค่อยดี มองง่าย ๆ ร้านค้าก็อยากได้รับเงินสด เงินสดมาจากไหน ขายพืชผลส่วนหนึ่ง และอีกสารพัดเรื่อง ผมว่ากำลังซื้อหายไป ไม่มีคนมาซื้อ ปีที่แล้วมีงบฯออกมาต่อเติมจากที่ค้างท่อ แต่มองภาพว่าด้วยปัจจัยหลายเรื่อง แต่เราก็ต้องขยับ แล้วหยิบสินค้าอื่นเข้าไปแทรก คือเทิร์นอะราวนด์แบบเดิม ๆ ไม่ได้
- ผลประกอบการปีที่ผ่านมา
ใกล้เคียงกับยอดขายปี"57 อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 4,200-4,300 ล้านบาท หรือเติบโต 5% ส่วนหนึ่งคาดหวังมาจากยอดขายต่างประเทศ ส่วนในประเทศอย่างที่รู้กันไม่ดี ก็ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้นด้วย
- ภาพรวมตลาดต่างประเทศ
สำหรับปีที่ผ่านมา ตราเพชรทำยอดขายตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 16% ของยอดขายรวม เติบโตจากปี"57 ประมาณ 2% โดยยอดขาย 80% มาจากประเทศกัมพูชา 50% ลาว 20% และเมียนมา 10% ส่วนที่เหลืออยู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนและเอเชียบางประเทศ อีก 20% มีจีนและอินเดีย ในปี′61 ตั้งเป้ายอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 20%
เราเริ่มไปตีตลาดในกลุ่ม 3 ประเทศ กัมพูชา ลาว เมียนมา เกือบ 10 ปีแล้ว เพราะค่าขนส่งไม่สูงมากและใกล้ไทย อีกทั้งภูมิอากาศที่ใกล้เคียงกัน สามารถใช้หลังคา หรือวัสดุก่อสร้างร่วมกันได้ และวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ส่วนสื่อก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้รับสัญญาณจานดาวเทียมจากไทยได้หมด
- โอกาสหลังเปิดเออีซี
การเปิดเอเย่นต์ในเพื่อนบ้านจะคล้ายคลึงกับการทำตลาดต่างจังหวัดในบ้านเราในอดีต ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว การเติบโตของร้านค้าในเพื่อนบ้านจึงยังมีศักยภาพอีกมาก ส่วนการเปิดอาเซียนมีข้อดี ความเสรีทางการค้าผ่านทางด่านจะมีมากขึ้น ในวันนี้ที่เพื่อนบ้านเข้ามา อาจจะมาสนใจซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งรู้จักผลิตภัณฑ์ตราเพชรอยู่แล้ว และซื้อที่นี่จะเป็นต้นกำเนิด และทำให้ไทยได้โอกาสตรงนี้มากขึ้น
- การทำตลาดในอาเซียน
กลุ่มลูกค้าที่จะเข้าไปตีตลาดคือ กลุ่มสินค้าหลังคา ตามด้วยแผ่นบอร์ด ต่อไปจะนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ บางตัว ที่ยังไม่ได้นำเสนอขายในเพื่อนบ้าน ต้องการให้เกิดกับคนรุ่นใหม่ เพราะฉะนั้นจะฝังในฐานราก แม้ในอนาคตกัมพูชาเปิดโมเดิร์นเทรดวัสดุขึ้นมา โครงการใหญ่ ๆ เกิดขึ้นมา จะรองรับเรื่องพวกนี้ได้ ด้วยประสบการณ์ตราเพชรเมื่อ 16 ปีที่แล้ว เคยมีปัญหาเกิดขึ้น ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักจึงไม่กล้าซื้อ ถ้าไปเปิดตลาดก่อนหน้าดีเวลอปเปอร์ก็จะเกิด สิ่งที่ตราเพชรได้มาระยะยาว ๆ คือ ความน่าเชื่อถือ
- มีแผนจะเข้าไปลงทุนตั้งโรงงาน
ยังไม่มีแผน เพราะ 1.สาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่ซัพพอร์ต ทั้งเครื่องมือต่าง ๆ โดยเฉพาะไฟฟ้าเป็นปัจจัยใหญ่ยังไม่ครอบคลุม
และ2.ถ้าทำพวกหลังคา วัตถุดิบหลักคือปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ในประเทศเพื่อนบ้านเราแพงกว่าบ้านเรา แต่ก็อยู่ที่จังหวะเวลาด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ไป |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-02-2559
|
|
|
|
|