อสังหาฯตากอากาศในเขาใหญ่บูมแค่ไหน สังเกตได้จากป้ายโฆษณาที่เรียงรายข้างทาง บ้านหรือคอนโดมิเนียมมีทุกสไตล์ให้คุณเลือกสรร ตั้งแต่อาคารทรงโมเดิร์นร่วมสมัย บ้านสไตล์บาหลี ตึกสีส้ม-แดงสไตล์อิตาลี จนถึงบ้านแบบชนบทฝรั่งเศส เรียกว่าอยากจินตนาการให้ตัวเองไปอยู่ที่ใดบนโลกก็ลองมาเลือกได้ที่เขาใหญ่
โครงการ "บ้านทิวเขา"
เป็นอีกหนึ่งแห่งที่พยายามเนรมิตพื้นที่เมืองไทยเป็นสถานที่ในจินตนาการซึ่ง "คุณกู่-ธรรมรัชต์ นิรันดร"
เจ้าของโครงการ บอกว่าเป็นสไตล์บ้านแบบอเมริกันชนบทแถบๆนาปาวัลเลย์
แหล่งปลูกองุ่นผลิตไวน์ของแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
บนพื้นที่ 400 ไร่ของตระกูลนิรันดรแบ่งสรรมาประมาณ 100 ไร่เพื่อเปิดเฟสแรก
แบ่งเป็นพื้นที่พัฒนาคอนโดมิเนียม 5 อาคารประมาณ 7-8 ไร่
ที่เหลือเป็นพื้นที่แบ่งแปลงพัฒนาบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 300-500 ตร.ม. และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ
"ธรรมรัชต์"
กล่าวถึงจุดแข็งของโครงการคือทำเลตั้งอยู่ริมถ.ธนะรัชต์ กม.3 ซึ่งยังเป็นช่วงถนน 4 เลน
และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่ไม่ไกลนัก เช่น แมคโครฟู้ดเซอร์วิส 1.5 กม. เทสโก้โลตัส ปากช่อง 4
กม.ปั๊มน้ำมันปตท. 3 กม. นั่นคือยังอยู่ในย่านชุมชนเมืองแถมด้วยจุดดึงดูดสำคัญคือร้านอาหารริบส์แมนขนาด
1,000 ที่นั่งที่หน้าโครงการ ซึ่งพร้อมเสิร์ฟอาหารให้ที่ห้องชุดหรือบ้านพัก
เกริ่นมาแบบนี้แล้ว "มิสเตอร์โฮม"ขอเดินดูรอบๆ
โดยเฉพาะไฮไลต์คือคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้าง
ถัดจากประตูรั้วโครงการและร้านอาหารริบส์แมนเข้ามาจะเป็นถนนเมนหลักมีแนวต้นมะขามปลูกให้ร่มเงา
ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียมเรียงลึกเข้าไปเป็นคอนโดฯตกแต่งมีหน้าจั่วและเสาเหมือนบ้านอเมริกันยุค
1920-1940s มีบึงน้ำตกขนาดใหญ่และสนามหญ้าหน้าอาคาร
ส่วนสระว่ายน้ำส่วนกลางทรงฟรีฟอร์มซ่อนอยู่ด้านหลังอาคารA
สำหรับอาคาร Aและ B จำนวนรวม 151 ยูนิต
สร้างเสร็จและปิดการขายแล้วเริ่มทยอยโอนตั้งแต่เดือนม.ค.59 ส่วนที่กำลังสร้างคืออาคาร C จำนวน 35 ยูนิต
และอาคาร D จำนวน 55 ยูนิต
อาคาร C
ถือว่าเป็นตึกระดับไพรม์ตึกเดียวของโครงการเพราะออกแบบแปลนห้องเป็นยูนิตใหญ่ทั้งหมด เป็นแบบ 1-3
ห้องนอนและเพ้นท์เฮาส์ ขนาด73-200 ตร.ม. และขายแบบฟูลลี่เฟอร์นิชด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจจากชิค รีพับลิก
และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการเช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ 42 นิ้ว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน
ลูกค้าสามารถเลือกโทนสีตกแต่งได้6 แบบ และเป็นตึกเดียวที่มีพื้นที่ส่วนกลางบางอย่างแยกต่างหาก คือ
สระว่ายน้ำและฟิตเนสสามารถเทควิวถ.ธนะรัชต์และแนวเทือกเขาซ้ายขวา ราคาขายเฉลี่ย 1 แสนบาท/ตร.ม.
มียอดขายแล้ว50%
นอกจากนี้ อาคาร
C ยังจัดพื้นที่ชั้นล่างกว่า 1,000 ตร.ม.เป็นแกลลอรี่ศิลปะแสดงผลงานศิลป์ของสะสมส่วนตัวของ
"คุณกิ๊ก-เยาวณี นิรันดร"ที่ปรึกษาโครงการและพี่สาวของคุณกู่ ซึ่งจะจัดแสดงได้ครั้งละกว่า 100
ชิ้นมีผลงานสำคัญคือเครื่องปั้นดินเผาของ พาโบล ปิกาสโซ และภาพเขียนสีน้ำมันของอาจารย์ศิลปะชาวไทยเช่น
ศ.ชลูด นิ่มเสมอ อ.เฟื้อ หริพิทักษ์คาดว่าอนาคตจะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมได้
ส่วนอาคาร D เป็นอาคาร 7 ชั้น
อยู่ลึกเข้าไปด้านในโครงการ มีห้องแบบสตูดิโอและ 1-2 ห้องนอน ไซซ์ 32-96 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 7
หมื่นบาท/ตร.ม. เริ่ม 1.9 ล้านบาทแต่อาคารนี้จะขายแบบห้องเปล่า มีให้เฉพาะชุดครัวและสุขภัณฑ์
มียอดขายแล้ว 65%
มาดูสิ่งแวดล้อมโครงการบ้าง
เข้าไปด้านในโครงการเป็นทุ่งหญ้าจัดแปลงรอการพัฒนาบ้านเดี่ยวและมีสนามบาสเกตบอล สนามเทนนิส
และสวนผักออร์กานิก ตอนที่ไปเยี่ยมชมกำลังปลูกข้าวโพดมัลเบอร์รี่ ผักสลัด มันญี่ปุ่น และเมล่อน
ซึ่งให้ผู้อยู่อาศัยมาเก็บทานเองได้เลยส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 300 ไร่ที่ยังไม่ได้นำมาพัฒนา
เจ้าของปลูกสวนยางพาราไว้ ด้านวิวเทือกเขาโอบล้อมตั้งแต่ซ้ายถึงขวา
สอบถามเซลส์ได้ความว่าสภาพแวดล้อมสไตล์ชนบทดึงดูดผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นครอบครัววัยเพิ่งมีลูกเล็ก
ต้องการความสงบแต่ยังอยู่ใกล้เมืองพอจะเดินทางได้สะดวกโดย 80% เป็นคนกทม. และอีก 20%
เป็นชาวโคราชกับชาวอีสานที่เดินทางขึ้นล่องผ่านทางปากช่องบ่อยๆ
สำรวจแล้ว ใครชอบใช้เวลากับครอบครัว
ก่อไฟปิ้งบาร์บีคิวและชอบสไตล์อเมริกันวินเทจ ก็น่าจะเข้าทาง