|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ตั้งไข่ "ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์" หมื่นล. ดึง "มอเตอร์เวย์-ทางด่วน" ช่วยชาติ-ลดเพดานหนี้ |
|
รัฐเร่งเครื่องกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน สคร.บุกคมนาคมคัดสรรโครงการลงทุน เล็งทางด่วนและมอเตอร์เวย์โปรเจ็กต์นำร่อง คาด 1 เดือนสรุป ระดมทุนก้อนแรก 1 หมื่นล้าน จากกองทุนวายุภักษ์
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2559 ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคมที่มีศักยภาพ สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้จัดตั้งกองทุน
เพื่อสนับสนุนการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศระยะยาว จัดหาแหล่งเงินทุนใหม่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ลดภาระการคลังของภาครัฐในการระดมทุนเพื่อลงทุนในภาครัฐ และเป็นช่องทางให้นักลงทุนและผู้มีเงินออมสามารถลงทุนในทรัพย์สินของภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการลงทุนผ่านตลาดทุน
"รายละเอียดของโครงการกองทุนยังไม่สรุปจะมีโครงการไหนเข้าร่วมได้บ้าง แต่ สคร.แนะว่าน่าจะเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการไปแล้ว เช่น ทางด่วนกับมอเตอร์เวย์ มอบหมายให้กรมทางหลวงและการทางพิเศษฯไปพิจารณารายละเอียด และกลับมาเสนอใน 1 เดือนนี้ คาดว่าภายในปีนี้จะเห็นโครงการนำร่องอย่างน้อย 1 โครงการ"
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทาง สคร.เสนอโครงการที่คาดว่าน่าจะเข้ากองทุนได้ มีมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 ซึ่งกรมจะต้องไปพิจารณารายละเอียดเรื่องข้อกฎหมายด้วยว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากมอเตอร์เวย์ 2 สายนี้ใช้เงินจากกองทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางมาดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม การที่ สคร.เสนอโครงการของกรมทางหลวง เนื่องจากโครงการมีการก่อสร้างเสร็จแล้วและมีรายได้ประจำ ปัจจุบันกรมจัดเก็บรายได้รวมทั้ง 2 สายอยู่ที่กว่า 5,000 ล้านบาท หากสามารถนำเข้ากองทุนได้จะเป็นโครงการรูปธรรม เพื่อเป็นการเชิญชวนนักลงทุนมาซื้อหน่วยลงทุนได้ แต่หากเป็นโครงการที่ยังไม่มีการก่อสร้าง จะทำให้การจูงใจนักลงทุนมีน้อย
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า รูปแบบของกองทุนตามที่ สคร.เสนอ เป็นกองทุนเกิดขึ้นภายใต้หลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นกองทุนปิดโดยไม่มีการกำหนดอายุโครงการ ที่สามารถสนับสนุนการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยมีมูลค่าการระดมทุนที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท อีกทั้งเป็นกองทุนที่มีความยืดหยุ่น โดยสามารถลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ (Greenfield) และโครงการที่มีอยู่เดิม (Brownfield) รวมทั้งหลักทรัพย์อื่น ๆ และเป็นกองทุนที่สามารถระดมทุนได้จากนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย โดยมีกลไกประกันผลตอบแทนที่เหมาะสม
ส่วนแหล่งเงินของกองทุน ในระยะแรก มาจากการระดมทุนจะเสนอขายนักลงทุนเป็นการเฉพาะเจาะจงแก่กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 และกระทรวงการคลัง สำหรับจัดตั้งกองทุนมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับระยะต่อไปจะเป็นเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบัน รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งนักลงทุนรายย่อยร่วมลงทุนด้วย ผ่านการจำหน่ายหน่วยลงทุน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน คือ กระทรวงการคลังและนักลงทุนภาครัฐ เช่น กองทุนวายุภักษ์ และรัฐวิสาหกิจ นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย โดยทาง สคร.จะเร่งดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ให้เสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกองทุนยังมีความเสี่ยง ทางรัฐบาลจะต้องการันตีผลตอบแทน เนื่องจากเป็นการนำรายได้อนาคตขายให้กับนักลงทุน ซึ่งรัฐบาลอาจจะต้องหางบประมาณเพื่อมาอุดหนุนส่วนต่าง เช่น เงินจากงบประมาณ เพื่อคืนให้กับผู้ถือหุ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-01-2559
|
|
|
|
|
