| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 98 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 16-01-2559    อ่าน 1246
 คำนวณงบประมาณ ′ทาสีบ้าน′

คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้าน ๆ โดย เมตตา ทับทิม misstubtim@yahoo.com

ปีใหม่แล้วหลายคนอยากรู้งบประมาณทาสีบ้านแสนรัก วันนี้มีคำตอบค่ะ

ก่อนอื่นเรามาทำตัวให้ทันสมัยด้วยการรู้จักเทรนด์สีปี 2016 กันดีกว่า ในวงการสีทาอาคารเขามีองค์กรที่มีสมาชิกจากหลากหลายสาขาวิชาชีพเพื่อทำวิจัยและศึกษาแนวโน้มการใช้สีแต่ละปี จากนั้นก็ประกาศออกมาเป็นเทรนด์สีประจำปีนั้นๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทสีก็มีหลายยี่ห้อ เทรนด์สีปีนี้ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกันก็ได้

ยกตัวอย่างค่ายสีเบเยอร์ก็แล้วกัน คุยกับผู้บริหารคนรุ่นใหม่ชื่อ "คุณฮง" ได้ความรู้มาว่าปีก่อนหน้า เทรนด์สีคือ "สีเขียวนกเป็ดน้ำ" พอมาถึงปีนี้ก็ยังวนเวียนอยู่กับสีเขียว แต่เป็น "สีเขียวเทอร์ควอยซ์" แบบว่าสีเขียวอมฟ้านั่นเอง

บางยี่ห้ออย่างค่ายสีดูลักซ์ เขาจะบอกว่าเทรนด์สีปีนี้คือ "Ochre" เปิดดิกชันนารีดูแล้วแปลว่าเหลืองอมน้ำตาล แต่ดูตัวอย่างรูปที่ส่งมาประกอบข้อมูลหน้าตาเหมือนสีเหลืองทอง เป็นต้น

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าเทรนด์สีปีนี้ปีไหนจะเป็นอย่างไร เรื่องใกล้ตัวน่าจะเป็นการคำนวณเงินในกระเป๋าถ้าหากต้องการจะทาสีบ้านเก่าให้ดูใหม่ ซึ่งคนในวงการสีทาอาคารเขาเรียกว่า "ตลาดสีทาซ้ำ" วันนี้มีข้อมูลดีๆ จากสีเบเยอร์ แนะนำ 3 ขั้นตอน ดังนี้

เริ่มจากขั้นตอนแรก "ต้องรู้พื้นที่ทาสี" เสียก่อน วิธีการคำนวณแบ่งเป็นวัดพื้นที่ผนังภายนอกและภายใน สำหรับผนังภายนอก ให้วัดหรือคำนวณพื้นที่รอบตัวบ้านคร่าวๆ (ไม่หักพื้นที่ประตู-หน้าต่าง) ได้แก่ หน้ากว้าง x ความสูง รวมกับความลึก x ความสูง

กรณีเป็นบ้านเดี่ยวให้คิดพื้นที่โดยรอบตัวบ้านทั้ง 4 ด้าน แต่ถ้าเป็นบ้านแฝดหรือทาวน์เฮาส์ ผนังบ้านด้านที่ติดกันไม่ต้องนำมาคำนวณ (เพราะเป็นพื้นที่เพื่อนบ้านไงล่ะ)

จากนั้นกลับเข้ามาคำนวณพื้นที่ผนังภายในและฝ้าเพดาน วิธีการก็คือวัดความกว้าง x ยาว แล้วนำพื้นที่ทั้งหมดมารวมกัน

ขั้นตอนที่สอง "คำนวณปริมาณการใช้สี" เนื่องจากบ้านแต่ละหลังเล็ก-ใหญ่ไม่เท่ากัน ฉะนั้นขอยกเป็นตัวอย่างก็แล้วกันนะคะ กรณีตัวอย่างคำนวณพื้นที่ทาสีภายนอก เท่ากับ 300 ตารางเมตร พื้นที่ทาสีภายใน+ฝ้าเพดาน 450 ตารางเมตร

จากนั้นเราก็มาดูว่าสีที่เราซื้อมาสามารถทาสีได้กี่ตารางเมตร คำตอบมาตรฐานคือ สี 1 แกลลอนจะทาได้พื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร การคำนวณว่าจะถูกหรือแพงจึงขึ้นกับการ "ทาซ้ำ" เพราะการทาสีบ้านความยากอยู่ที่ต้องมีการทาซ้ำหลายรอบนั่นเอง

ทั้งนี้ การทาสีภายนอก (พื้นที่ 300 ตารางเมตร) ปกติจะทาสีรองพื้น 1 ครั้ง เท่ากับปริมาณการใช้สี 10 แกลลอน และการใช้สีทับหน้า (ก็คือทาสีจริงที่เราต้องการนั่นแหละ เช่น สีฟ้า ม่วง ชมพู เขียว ฯลฯ) รอบนี้ต้องทา 2 ครั้ง ปริมาณใช้สีเท่ากับ 20 แกลลอน

รู้การทาภายนอกแล้ว วกกลับมาดูการทาสีภายในบ้าน (พื้นที่ 450 ตารางเมตร) วิธีการคือทาสีรองพื้นทับสีเก่า 1 ครั้ง ปริมาณสีที่ต้องใช้ 15 แกลลอน และทาสีทับหน้าหรือสีจริงอีก 2 ครั้ง ปริมาณใช้สี 30 แกลลอน

เรากำลังจะเข้าสู่ไฮไลต์สำคัญ นั่นก็คือเรื่องงบประมาณหรือราคา บอกได้เลยแบบกำปั้นทุบดินว่าขึ้นกับยี่ห้อและเกรดสีเป็นหลัก ข้อมูลมาตรฐานสำหรับสีทาภายนอก ถ้าเป็นเกรดพรีเมียม เขาบอกว่าราคาสีจริงรวมสีรองพื้น งบประมาณตกตารางเมตรละ 60 บาท แต่ถ้าเป็นเกรดทั่วไป ราคาย่อมเยาเหลือตารางเมตรละ 40 บาท

ส่วนงบประมาณสำหรับสีทาภายใน ถ้าเป็นเกรดพรีเมียม ราคาสีจริงรวมสีรองพื้นตกตารางเมตรละ 55 บาท กับสีเกรดทั่วไป ตกตารางเมตรละ 35 บาท พูดง่ายๆ ว่าสีพรีเมียมแพงกว่าสีเกรดทั่วไปตารางเมตรละ 20 บาท

เอาล่ะ เรามาสู่ขั้นตอนที่สาม "การลงมือทาสี" ข้อแนะนำสำหรับเป็นคู่มือผู้บริโภคที่ต้องการทาสีด้วยตนเอง ไม่ได้จ้างช่างทาสีนะคะ เริ่มจาก 1.ขัดลอกสีเก่าออก ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและคราบสกปรก ทิ้ง (ผนังภายใน-ภายนอก-ฝ้าเพดาน) ไว้ให้แห้งสนิท

2.ทาสีรองพื้นปูน ปกติเพื่อสุขภาพอนามัย ผู้ผลิตสีเขาเก่งทำสีรองพื้นสูตรน้ำ ไร้กลิ่นฉุนปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัย ให้ทาก่อน 1 ครั้ง จากนั้นจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย 3.ทาสีทับหน้าหรือสีจริงอีก 2 ครั้ง

กรณีจ้างช่างทาสี อย่าขี้เหนียวนะคะเพราะค่าตัวช่างทาสีเขาแพงจริงๆ เนื่องจากเป็นงานฝีมือ และอย่างที่บอกว่าการทาสีฝาบ้านต้องทำซ้ำถึง 3 ครั้ง แต่ถ้าต้องการประหยัดงบ รวมทั้งถือว่าเป็นกิจกรรมออกกำลังกาย กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว การลุกขึ้นมาทาสีบ้านเก่าให้ดูใหม่ด้วยตนเองก็ถือว่าไม่เลว

ผลพลอยได้ถือเป็นแฟมิลี่ แอ๊กติ้ง ที่ทุกคนจะมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันค่ะ
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 16-01-2559 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.