สุขใดเล่า ... จะเท่าการได้ใช้ชีวิตอยู่ริมทะเลสาบ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีพื้นที่ออกกำลังกายเอาใจวิถีเฮลท์ตี้ เอาล่ะ คราวก่อนเราไปสัมผัสสวรรค์บนชั้นลอยฟ้ามาแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็น "สวรรค์บนดิน" กันบ้าง "น้องหนวด" จะพาไปชมบ้านโครงการหรูจากค่าย "Property Perfect" กับแบรนด์ที่เปรียบเหมือนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนใหม่ "Perfect Masterpiece" ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้แตกต่าง ตอบโจทย์การพักผ่อนทุกไลฟ์สไตล์ในที่เดียว

จากทำเลสุขุมวิท 77 ที่ถือเป็นแหล่งจ้างงาน
สามารถเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก ทำให้ลูกบ้านกว่า 25-30% เป็นนักบิน แอร์โฮสเตส กราวด์
และพนักงานสายการบินนานาชาติ ที่มีกำลังจ่าย และกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางบ่อย



หลายคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิหรือมีคิวชีพจรลงเท้าต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆอาจบ่นว่าห่างไกลตัวเมืองไปช็อปปิ้งก็ลำบากแถมเดินทางยากแต่เดี๋ยวก่อน!เพราะบริเวณโครงการติดกับThe Paseo อเวนิวที่ครบวงจรทั้งร้านอาหาร ธนาคาร
ให้ชุมชนชาวเพอร์เฟ็กต์ช็อปปิ้งกันได้แบบหายห่วง อีกทั้งทำเลยังใกล้โรงพยาบาลสิรินธร
หรือถ้าอยากเข้าเมืองแต่ขี้เกียจขับรถ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับแอร์พอร์ตลิ้งค์ บ้านทับช้าง-ลาดกระบัง
สามารถต่อไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอสได้สะดวก



ชมคลิปสำรวจโครงการ



หลังเข้ามาในโครงการ สัมผัสแรกรู้สึกถึงความกว้าง จากพื้นที่ทั้งหมด 400
ไร่ มองซ้ายขวาเห็นพื้นที่สีเขียวจากสวนหย่อมเต็มไปหมด ใครที่โหยหาธรรมชาติบนป่าคอนกรีต
หลีกหนีจากตัวเมือง สงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน ที่นี่น่าจะตอบความต้องการได้ไม่ยาก



ก่อนจะเจอตัวบ้าน เราจะถูกต้อนรับด้วยทะเลสาปกว้างสุดลูกหูลูกตา ขนาด 20 ไร่
บรรยากาศร่มรื่นติดสระว่ายน้ำ ล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิด คอยทำตัวเป็นพนักงานต้อนรับด่านแรก
ที่ทำงานโดยไม่รับค่าตัว แต่สามารถสะกดคนที่มาชมโครงการได้อยู่หมัด
เพราะการนำจุดขายที่บ่งบอกถึงคุณภาพชีวิตที่ลูกบ้านจะได้รับ และชี้เป็นชี้ตายว่าคนจะซื้อหรือไม่ มาเป็น
First Impression แบบนี้ หากไม่หลงรักเลยก็ต้องถูกเก็บไว้พิจารณาแน่ๆ แถมยังโชว์คลับเฮาส์ครบวงจร
สนามกีฬา-พื้นที่ออกกำลังเอาท์ดอร์แบบนี้ ทำเอาน้องหนวดอยากเห็นตัวบ้านเร็วๆ
แล้ว

สำหรับภายในโครงการ บ้านจะแบ่งออกเป็นสองแบรนด์ คือ Perfect Place
ที่เป็นบ้านไซส์กลาง และ Perfect Masterpiece
เป็นไซส์ใหญ่ ทุกเฟสจัดวางเป็นสัดส่วน มีป้ายบอกทางชัดเจน
ความพิเศษของบ้านแต่ละหลังมีชื่อเป็นของตัวเอง ไม่ใช่การแบ่งชั้นวรรณะ
แต่เป็นรหัสบอกไซส์และขนาดของตัวบ้าน

แน่นอน จะไปสำรวจทั้งที
ต้องจัดหนักแบบเอ็กซ์คลูซีฟไปที่พี่บิ๊กอย่าง "Perfect
Masterpiece" กันไปเลย อ้อ! ลืมบอกไปอย่าง นอกจากส่วนกลางที่เป็นจุดขายแล้ว แบรนด์ "Property
Perfect" ยังใส่ใจโลกด้วยการชูจุดเด่นการเป็นบ้านประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้นวัตกรรม Active AIRflow
ที่ถูกนำมาติดตั้งในบ้านทุกหลัง จากการเป็นพันธมิตรกับ SCG ซึ่งจะช่วยให้ตัวบ้านถ่ายเทความร้อน
มีอุณหภูมิเย็นตลอดทั้งวัน ลดอุณหภูมิได้ 3-5 องศา สามารถควบคุมโรคภูมิแพ้อากาศได้
ส่วนความปลอดภัยหายห่วง มีป้อมยามกรองหลายชั้นประจำทุกเฟส พร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ


ทุกเฟสยกจากถนน 50 เซนติเมตร และยกตัวบ้านขึ้นมาอีก 25-30 เซนติเมตร ทำให้รวมๆ
แล้วสูงจากถนนเกือบเมตร เป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ทางโครงการทำขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม



มาถึงบริเวณหน้า "Perfect Masterpiece"
ภายนอกดูหรูหราสมชื่อแบรนด์มาสเตอร์พีซ สีน้ำตาลทองช่วยเพิ่มมูลค่าความแพง
ดูมีระดับจนไม่สามารถมีใครมาติได้ว่า "พี่ว่ามันแพงกว่านี้ได้อีก!"
อีกส่วนที่ประทับใจ ตรงพี่ๆ รปภ. ดูกระฉับกระเฉง น่าไว้ใจ พูดจาฉะฉานเป็นมิตรดี เข้ามาด้านใน แบรนด์
Masterpiece จะแบ่งบ้านออกเป็นสองแบบ "Regent" และ "Regal"



หลังที่เรามาสำรวจชื่อ "Regal"
บนพื้นที่ 450 ตร.ม. ราคาบ้านเปล่า 25 ล้านบาท แต่ถ้าชอบไอเดียการตกแต่ง รวมเฟอร์นิเจอร์ อยู่ที่ 30-40
ล้านบาท ภายนอกตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ผสมผสานความเรียบง่ายที่ลงตัว
รอบบ้านเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวจากสวนหย่อม ร่มรื่นเย็นสบาย จะดัดแปลงเป็นมุมพักผ่อนเอกเขนก
หรือจัดสวนก็ดูสบายตาไปอีกแบบ













เข้ามาภายในตัวบ้าน ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย จากดับเบิลวอลุ่ม
(พื้นที่จากพื้นถึงเพดาน) ที่สูงถึง 4.5 เมตร สูงกว่าที่ไหนที่เคยไปมา ตรงนี้ช่วยให้อากาศถ่ายเทดี
หันซ้ายเจอห้องรับแขกที่กว้าง โอ่อ่า จากความสูงของเพดาน 3 เมตร พื้นที่ใช้สอยเยอะ
สามารถมองเห็นวิวสวนหย่อมด้านนอกผ่านกระจก หรืออยากสัมผัสแบบ 4D แนะนำให้เปิดกระจกรับลม
เสพวิวสีเขียวแบบเต็มอารมณ์ เหมาะสำหรับพบปะ ใช้เวลากับคนในครอบครัว หรือจะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
ห้องรับแขกอยู่ติดกับครัวยุโรป สามารถทำอาหารว่างทานเล่นเบาๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ
โดยไม่ส่งกลิ่นรบกวนถึงห้องรับแขก เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองปัจจุบัน ที่มักจะนั่งพัก ดูหนัง
และหาอะไรทานเล่นไปด้วย









ส่วนใครที่ชอบบรรยากาศชิลๆ ตรงสวนหย่อม
สามารถเปิดกระจกจะฟิวส์ชั่นบรรยากาศให้พื้นที่เปิดกว้าง แล้วลุยปาร์ตี้เลยก็ได้
ส่วนครัวไทยที่รองรับการทำอาหารหนักๆ ส่งกลิ่นแรง จะแยกออกไปอยู่หลังบ้าน อยู่ใกล้กับห้องแม่บ้าน
ที่จัดเป็นสัดส่วน ไม่รบกวนทางเดินพื้นที่หลัก และห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว สำหรับแขก
ผู้สูงอายุ เพื่อเลี่ยงอันตรายจากการเดินขึ้นชั้นสอง


"Family Living Room"


"Family Living Room"

ถัดมาถึงชั้นสอง
ต้องมาสะดุดกับพื้นที่แปลกๆ ที่งอกออกมา จะว่าเป็นห้องก็ไม่ใช่ พื้นที่รับแขกก็ไม่เชิง
เพราะแขกอะไรจะมาต้อนรับกันชั้นสอง จะขึ้นมาได้ก็ต้องเป็นแขกที่พิเศษพอตัว ตรงส่วนนี้คือ "Family Living Room" พร้อมเป็นทั้งพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว
และเอาไว้รับแขกในเวลาเดียวกัน แต่เป็นอารมณ์ที่ผ่อนคลาย เป็นส่วนตัวมากขึ้น
และที่เก๋คือกำแพงเจาะตรงกลางออกเพื่อให้มองเห็นทะลุกันได้ หากตกแต่งด้วยเฟรมรูปภาพก็เก๋ไปอีกแบบ
สามารถปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กให้เพื่อนๆ มาถ่ายรูปเล่นกันได้แบบไม่ต้องเขิน
ถือเป็นการดีไซน์และเล่นกับพื้นที่ว่างได้เก๋เอามากๆ เป็นอีกแอเรียที่โดนใจ และหากได้เป็นเจ้าของ
จะต้องมานั่งเล่นตรงนี้บ่อยแน่ๆ (มโนสุดๆ)


"Living Area"
พื้นที่ระเบียงโล่งกว้างตากอากาศ




"Living Area"
พื้นที่ระเบียงโล่งกว้างตากอากาศ

อย่างที่บอกว่าแบรนด์ Masterpiece
เค้าเอาใจไลฟ์สไตล์การพักผ่อนกันแบบฮาร์ดเซลล์สุดๆ เราเลยยังไม่ชกท้องพาเข้าห้องนอน
แต่จะพาไปดูอีกมุมที่เป็นหมัดเด็ดของชั้นสองที่ขาปาร์ตี้พลาดไม่ได้ กับ "Living Area" กับพื้นที่ระเบียงโล่งกว้างตากอากาศ เห็นในรูปกลางวันแสกๆ
อาจไม่เห็นภาพ แต่ลองจินตนาการถึงตอนกลางคืนหน้าหนาว นั่งจิบเบียร์เคล้าอากาศเย็นๆ
มีเตาย่างเนื้อบาร์บีคิววางอยู่มุมใดมุมหนึ่ง แต่งสถานที่ตามธีมเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ส่วนตัวกับครอบครัว
หรือเพื่อนฝูง โอ้ย ฟินสุดๆ! แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่สายปาร์ตี้ จะจัดสวนต้นไม้ตามวิถีสโลว์ไลฟ์
หรือทุบต่อเป็นพื้นที่อีกห้องก็ทำได้ตามใจชอบ แถมได้พื้นที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว พื้นที่ตรงนี้โดนใจมาก














ส่วนห้องนอนขอเน้นไปที่ Master
Bedroom หรือห้องนอนใหญ่ จัดเต็มความสะดวกสบายด้วยพื้นที่ 80 ตร.ม. ยังคีปความโอ่อ่า
โล่งโปร่ง มีสเปซพื้นที่ใช้สอยเยอะ แล้วแต่ใครจะดีไซน์ มาพร้อม Walk in Closet แยกชายหญิง
ไม่ปนกันให้หงุดหงิด ห้องน้ำในตัวแยกส่วนแห้ง-เปียก มีอ่างจากุซชี่ให้นอนแช่
ส่วนห้องนอนสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อเทควิวได้ตามใจชอบ ไฮไลท์ของห้องนอนใหญ่ของ Perfect Masterpiece
อยู่ที่ระเบียงที่ฉีกกฎเกณฑ์ระเบียงทั่วไปที่คับแคบ ไร้ประโยชน์ ด้วยระเบียงรูปตัว L
ล้อมรอบตลอดแนวระเบียง เดินเล่นได้ประหนึ่งแคทวอล์ค สามารถเดินออกมาสูดอากาศยามเช้า ดูวิว
และมองเห็นพื้นที่สีเขียวภายในบ้านแบบชัดเจน เติมเต็มให้มีช่วงเวลาตอนเช้าที่ดีกว่าเดิม



บ้านไหนที่มีรถเยอะ น้อง Ragal จัดพื้นที่ให้ถึง 4 คันแบบสบายๆ
ไม่เบียดกันให้เสียวๆ เล่น

เปลี่ยนบรรยากาศมาที่บ้านรหัส Regent กันบ้าง







"Regent"
ยกระดับไซส์ใหญ่ขึ้นมาด้วยพื้นที่จัดเต็มถึง 530 ตร.ม. ราคา 33 ล้านบาท
สามารถเรียกคฤหาสน์หรูคอลเลคชั่นใหม่ได้เต็มปาก ภายนอกไม่ต่างจากน้องเล็ก "Regal" ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น
แต่แอบเรียบหรู รวมถึงภายในที่ยังคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความใหญ่อลังการทุกส่วน
พื้นที่ใช้สอยจัดเต็มแบบเหลือๆ ด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถในร่ม สำหรับบ้านในโครงการ Perfect
Masterpiece ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.ว.






ขอย้อนมาพูดถึงจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ระบบ Active AIRflow ประกอบด้วย
ช่องระบายอากาศติดผนัง ระบบระบายอากาศฝ้าเพดาน แผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
ระบบระบายความร้อนในโถงหลังคา ช่วยระบายความร้อนในบ้านและโถงหลังคา
โดยสามารถถ่ายเทอากาศในโถงหลังคาได้ไม่น้อยกว่า 10 รอบต่อชั่วโมง - เติมอากาศให้บ้านอยู่เสมอ
ทำให้บ้านมีการถ่ายอากาศดีขึ้น - ป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีกว่าบ้านปกติ 2-3 เท่า -
ช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ในการทำงานของเครื่องปรับอากาศกว่า 16-20% ทำให้บ้านไม่อบอ้าว
มีการระบายอากาศตลอดเวลา เรียกให้เก๋ๆ ก็บ้านคุณสามารถ "หายใจได้" ล้ำใช่มั้ยล่ะ
แถมยังทำให้คุณภาพอากาศในบ้านดีขึ้นด้วย













หลังชมตัวบ้านเสร็จแล้ว ขอพาตัวเองย้ายมาเสพบรรยากาศชิลๆ
ตรงส่วนกลางกันบ้าง โครงการเน้นคอนเซ็ปให้ลูกบ้านใช้สอยพื้นที่บริเวณรอบๆ ทะเลสาปให้คุ้มค่าที่สุด
ทั้งการออกกำลังกายในและนอกร่ม ตอนเย็นๆ เรามักจะเห็นผู้คนนิยมนำจักรยานออกมาปั่น
วิ่งตรงวงแหวนรอบทะเลสาป ด้วยมลภาวะทางอากาศที่น้อย และระบบจราจรภายในโครงการค่อนข้างเป็นระเบียบ
ทำให้สามารถใช้ชีวิตวิถีสโลว์ไลฟ์ได้แบบปลอดภัยไร้กังวล อยู่หมู่บ้านนี้รับรอง สตรอง!







ส่วนคุณหนูๆ ก็ไม่ต้องมองด้วยความอิจฉา
เพราะมีสนามเด็กเล่นเป็นส่วนตัวรองรับอยู่แล้ว ในส่วนกีฬาเอาท์ดอร์ ยังมีสนามบาสและเทนนิสให้บริการ
คลับเฮาส์มีห้องสตรีมมิ่ง ซาวน่า ฟิตเนส คอร์สแอโรบิค โยคะ ด้วยยิมที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ
อุปกรณ์ครบครัน ทันสมัย ได้มาตรฐาน ถึงขนาดทัพเดอะ สตาร์ เคยมาซ้อมเต้นกันที่นี่


มีทะเลสาปอยู่ใกล้บ้านทั้งที จะสโลว์ไลฟ์ให้นั่งมองอย่างเดียวก็ดูจะเสียของไปซะหน่อย
ทางโครงการจึงอาศัยพื้นที่ดังกล่าวจัดกิจกรรมเก๋ๆ ริมทะเลสาปตามเทศกาล เช่นในช่วงลอยกระทง
ที่เนรมิตทะเลสาปให้กลายเป็นอีเวนท์เล็กๆ แต่อบอุ่น มีการจองบูธออกร้านขายของจากลูกบ้าน
ตลอดถนนริมทะเลสาป สำหรับใครที่ไม่อยากออกไปเผชิญรถติด แย่งกันลอยกระทงตามสถานที่ต่างๆ
นี่คือทางเลือกที่เอ็กซ์คลูซีฟ และเป็นส่วนตัวทีเดียว
เพราะทางโครงการได้แปลงโฉมพื้นที่ดังกล่าวให้ลูกบ้านเอ็นจอยกับเทศกาลได้แบบไม่ต้องเหงา

เพราะจะว่าไปย่านสุวรรณภูมิน่าจะหาที่ลอยกระทงยากสักหน่อย
รวมถึงเทศกาลต่างๆ ที่จะทยอยจัดงานอีกเรื่อยๆ เติมเต็มคุณภาพชีวิตให้สตรอง
และสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก