Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
รื้อกฎเอาใจ "เศรษฐีเรือยอชต์" บูม "ไทย" ฮับมารีน่าอาเซียน |
|
เคาะแล้ววันงาน "มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า" งานใหญ่งานแรกของการเริ่มต้นปี 2559 ที่ "รัฐบาลประยุทธ์" คาดหวังจะใช้งานนี้ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก และกระตุ้นนักลงทุนให้มาใช้จ่ายและลงทุนในประเทศไทย เพื่อไปสู่เป้าหมายการเป็น "ฮับมารีน่าอาเซียน"
ปักหมุดอ่าวปอจัดงาน
โดยงานจะจัดขึ้นวันที่ 8-14 ก.พ. 2559 ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า จ.ภูเก็ต ภายในงานจัดนิทรรศการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจเรือสำราญและมารีน่า มีไฮไลต์เรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ที่นำมาโชว์ มีกระทรวงคมนาคมและท่องเที่ยวเป็นแม่งาน
งานนี้ตั้งเป้าจะมีเรือสำราญ (Yacht) เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 150 ลำ เรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) เข้าร่วมแสดงไม่ต่ำกว่า 10 ลำ และผู้เข้าร่วม 3,000 คนประกอบด้วย เจ้าของเรือ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับเรือสำราญ อู่ต่อเรือและซ่อมเรือ ชิ้นส่วน อะไหล่เรือและเครื่องยนต์เรือ นักลงทุนธุรกิจการเดินเรือ และนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ขณะเดียวกัน "รัฐบาล" จะใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลรูปแบบใหม่ และการเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการลงทุนในธุรกิจเรือสำราญและมารีน่า รวมถึงธุรกิจต่อเนื่องจากการมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาหมุนเวียนในประเทศ
ยกเว้นข้อกฎหมาย-ภาษี
"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คมนาคมจะดูแลรับผิดชอบในส่วนของการสร้างศักยภาพและโอกาสในด้านการลงทุน ซึ่งต้องไปดูในเรื่องข้อกฎหมายที่จะทำให้เรือสามารถอยู่ได้นานทั้งคนประจำเรือและมาตรการด้านภาษี เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ศุลกากรขาเข้า, รายได้ จะทำยังไงให้เกิดแรงจูงใจให้คนนำเรือสำราญเข้ามามากขึ้น
เบื้องต้นกรมเจ้าท่าได้อำนวยความสะดวกเรื่องกฎหมายให้ซูเปอร์ยอชต์ขนาด 30 เมตรขึ้นไปเข้ามาทำการค้าในประเทศไทยได้ ซึ่งต้องมีใบอนุญาต จากเดิมกฎหมายระบุว่า เรือที่จะทำการค้าในน่านน้ำไทยได้สงวนให้เรือไทยเท่านั้น
โดยข้อกำหนดการออกใบอนุญาตมี 3 ข้อคือ 1.ขนาดเรือ 30 เมตรขึ้นไป 2.มีตัวแทนอยู่ในประเทศไทย 3.ประกันภัย หากมีคุณสมบัติครบก็สามารถมายื่นเรื่องขอใบอนุญาตได้ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1 เดือน และใบอนุญาตนี้จะมีอายุใช้งานได้ 1 ปีนับจากวันได้รับใบอนุญาต ปัจจุบันมีผู้มายื่นขอใบอนุญาตแล้ว 3 ราย
ขณะที่ข้อจำกัดด้านกฎหมายเป็นอุปสรรคต่อการดึงนักลงทุน ล่าสุด "คมนาคม" อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด แยกเป็น "ส่วนของเรือ" จะยกเว้นภาษีศุลกากร ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อไม่ให้ผู้นำเข้าเรือยอชต์มีภาระด้านภาษี และให้จอดอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี จากเดิมไม่เกิน 6 เดือน และต้องรายงานภายใน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่เรือเข้า
ส่วน "คนประจำเรือ" จะขยายเวลาให้คนประจำเรืออยู่ได้ 6 เดือน เท่ากับที่เรือได้รับอนุญาตให้อยู่ 1 ปี จากเดิม 30 วัน
เปิดโผพื้นที่พัฒนามารีน่า
สำหรับพื้นที่ทางเลือกเหมาะสมจะพัฒนามารีน่าโซนแรกอยู่ "ฝั่งทะเลอันดามัน" พื้นที่ จ.ภูเก็ต 2 แห่ง ที่ท่าเรือเอเชียมารีน่าของ บจ.เอเชีย แลนด์ และบริเวณหมู่บ้านอ่าวกุ้งของ บจ.อ่าวกุ้งเบย์ มารีน่า และ จ.พังงา 2 แห่ง ที่ ต.ท้ายเหมืองของ บจ. อควา สตาร์ มารีน่า และบริเวณบ้านบางจัน
โซนที่ 2 "ฝั่งอ่าวไทยภาคใต้" จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) 2 แห่ง ได้แก่ 1.แหลมไม้แก่น บ้านบางรักษ์ ต.บ่อผุด เป็นที่ราชพัสดุมีเนื้อที่ 37 ไร่เศษ โดยมีปัจจัยด้านสาธารณูปโภคพร้อมที่จะพัฒนา ตั้งอยู่ใกล้จุดจอดเรือยอชต์ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความนิยมของเรือไทยและต่างประเทศ ลักษณะทางกายภาพโดยรอบเกาะพะงัน เกาะเต้าปูน เกาะส้ม เกาะราเทียน เป็นที่กำบังในช่วงมรสุมได้
2.บริเวณหมู่ 4 บ้านท้องโตนด ต.ตลิ่งงาม มีแหลมหินคมเป็นที่กำบังคลื่นลมตลอดทั้งปี มีระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมพัฒนาและมีพื้นที่หลังท่าเหมาะสมกับธุรกิจมารีน่าขนาด 15 ไร่ มีร่องน้ำกว้าง 5-10 เมตร และลึก 2-3 เมตร
และโซนที่ 3 "อ่าวไทยภาคตะวันออก" อยู่ที่ จ.ชลบุรี มี 1 แห่ง บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ อยู่ในความดูแลของฐานทัพเรือสัตหีบ มีพื้นที่หน้าหาดแหลมเทียนโล่งว่างใกล้กับท่าเทียบเรือ สามารถพัฒนาเป็นมารีน่าได้ และอยู่ที่ จ.ตราด 1 แห่ง บริเวณหมู่บ้านแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่
อยู่ที่รัฐบาลจะผ่อนคลายกฎระเบียบ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เอกชนไทย-เทศเข้ามาลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-12-2558
|
|
|
|
|