|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สีเหลือง โมนาร์ช โกลด์ ที่สุดของเทรนด์ปี 2016 |
|
ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะก้าวเข้ามาแทนที่ กระแสต่าง ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ตามเทรนด์และกาลเวลาที่หมุนผ่าน รวมไปถึงการตกแต่งบ้าน หรือการเลือกสีในการใช้ทาบ้าน ที่เจ้าของบ้านมีแผนจะรีโนเวตกันแทบจะทุกปี
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้สีสันแบบไหนดี ถึงจะไม่ตกยุค ล่าสุด "บริษัท อั๊คโซ่โนเบล" ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีชั้นนำระดับโลก ภายใต้แบรนด์สี "ดูลักซ์" ประกาศเทรนด์สีแห่งปี 2016
ผลออกมา "สีเหลือง โมนาร์ช โกลด์" (Monarch Gold) เป็นเทรนด์สีสุดยอดแห่งปี ภายใต้แนวคิดการมองทั้งสองด้าน หรือ Looking Both Ways
"สีเหลือง โมนาร์ช โกลด์" จะแสดงถึงแนวคิดผสมผสานสิ่งที่แตกต่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ความสว่างของสีดึงดูดความสนใจได้ดี สามารถสื่อถึงอดีตและสีในกลุ่มเอิร์ทโทน ขณะเดียวกันยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับโทนสีอื่น ๆ ได้อย่างกลมกลืน
ทั้งยังเปรียบได้กับสีของช่วงเวลาทอง หรือ Golden Hours หมายถึงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราจะได้เห็นแสงทองยามพระอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้า สีในเฉดนี้มักพบเห็นได้บนภาพเขียนเก่าแก่ของศิลปินระดับตำนานและศิลปินยุคใหม่ เป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้อย่างกลมกลืน
ส่วนแนวคิด "การมองทั้งสองด้าน" จะเป็นการแสดง การมองถึงความงดงามของวัฒนธรรม ประเพณีในยุคก่อน และความทันสมัยของนวัตกรรมในยุคสมัยปัจจุบัน จุดที่เราให้ความสำคัญกับแนวความคิดและมุมมองที่มีความแตกต่าง ให้ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการทั้งศิลปะ เทคโนโลยี ดีไซน์ แฟชั่น ดนตรี รวมถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของเทรนด์ล่าสุดสำหรับปีหน้าให้แก่วงการออกแบบ โดยทุกปี คัลเลอร์ฟิวเจอร์ส (ColourFuturesTM) ได้แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการขับเคลื่อนที่ได้รวบรวมทุกองค์ความรู้ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเลือกสรรสีแห่งปี 2016 นอกจากการประกาศสีแห่งปีแล้ว ยังได้นำเสนอแนวคิดการมองทั้งสองด้าน ใน 4 เทรนด์สีหลัก
เริ่มจาก "เฮอริเทจ แอนด์ ฟิวเจอร์" (Heritage & Future) หมายถึง การมองย้อนเข้าไปในอดีต ช่วยให้เราออกแบบอนาคตได้ เป็นเทรนด์ที่สะท้อนถึงพื้นฐานของตัวตน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีตถ่ายทอดความเป็นตัวตนและสร้างความมั่นใจในการก้าวไปข้างหน้า เทรนด์สีนี้ ประกอบด้วย พาเลตต์ สีแดง ที่สะท้อนถึงมรดกอันทรงคุณค่า ในขณะที่ความสดใสของสีให้ความรู้สึกถึงการก้าวไปสู่อนาคต
"เวิร์ด แอนด์ พิกเจอร์" (Words & Pictures) เป็นพลังที่ถูกค้นพบใหม่จากภาพกราฟิกและข้อความ ในยุคที่เต็มไปด้วยรูปภาพและทุกการเคลื่อนไหว ถูกบันทึกและแชร์ลงบนโลกโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เน้นแต่ปริมาณมากกว่าเรื่องคุณภาพ ทำให้รูปภาพถูกลดคุณค่าลง ตัวหนังสือจึงเป็นพลังที่ถูกค้นพบใหม่ เมื่อใช้ในบริบทที่เหมาะสม จึงมักพบเห็นการใช้ตัวหนังสือในวงการตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรมมากขึ้น พาเลตต์สีในเทรนด์นี้ ประกอบ ด้วยสีน้ำเงิน บลูอิงก์ และสีเทา แกรไฟต์ คล้ายกับโทนสีของสมาร์ทโฟนและฟิลเตอร์บนโซเชียลมีเดีย
"ดาร์ก แอนด์ ไลต์" (Dark & Light) หนึ่งในเทรนด์ที่สำคัญของปี 2559 คือการให้ความสำคัญกับความมืด การตั้งโปรเจ็กต์ เอิร์ท อาวร์ (Earth Hour) ที่รณรงค์ให้คนนับล้านทั่วโลกปิดไฟในวันเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงมลพิษทางแสงที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน
ในผลงานวิจัยชี้ว่า การพักผ่อนและเติมพลังอย่างเต็มอิ่มโดยที่ไม่ถูกรบกวนจากแสงสว่างนั้นมีความสำคัญมาก ความมืดนอกจากจะทำให้เราเห็นดาวบนท้องฟ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแล้ว ศิลปินชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 ยังแสดงให้เห็นถึงเทคนิคการนำเสนอความรุ่งโรจน์และแสงสว่างที่ดีที่สุด โดยใช้โทนสีเข้มร่วมในผลงาน หลายเฉดสีในพาเลตต์นี้สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน และยังสื่อถึงท้องฟ้าสีทองในช่วงเวลาฟ้าสางและพระอาทิตย์ตกดิน หรือที่เรียกว่าช่วงเวลาทอง
สุดท้าย "เดอะกริด แอนด์ เลตติ้งโก" (The Grid & Letting Go) เป็นการแสดงไลฟ์สไตล์ในแบบคนเมืองปรารถนาอิสรภาพภายใต้ขอบเขตโลกแห่งความทันสมัย ผู้คนต่างใช้ชีวิตนอกกรอบเพื่อค้นหาตัวเองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวและตัดขาดจากโลกภายนอกได้ ยังต้องการขอบเขตในการดำรงชีวิตแม้ว่าจะพยายามต่อต้านก็ตาม อิสรภาพนั้นจะมีความหมายก็ต่อเมื่ออยู่ในขอบเขต ดังนั้นพาเลตต์สีในเทรนด์นี้จึงออกมาดูสดใสและมีความสนุกสนาน แต่ยังคงพื้นหลังไว้ด้วยลายตารางสีขาวและดำ
ทั้งหมดเป็นเพียงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ส่วนการแต่งแต้มสีต่าง ๆ ภายในบ้านและห้องสุดที่รัก ย่อมขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล เทรนด์สีก็เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในการตัดสินใจเท่านั้นเอง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 16-12-2558
|
|
|
|
|
