|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "โสสุโก้" รุกส่งออกกระเบื้อง สินค้าจีนตีตลาด-กำลังซื้อในประเทศซบ |
|
สัมภาษณ์
สภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว กำลังซื้อรากหญ้ายังไม่ฟื้น ทำให้ตลาดสินค้าตกแต่งบ้านอย่าง "กระเบื้อง" หดตัวตามไปด้วย "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "กิตติชัย ไกรก่อกิจ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด หนึ่งในยักษ์ใหญ่วงการผู้ผลิตกระเบื้องไทย ถึงภาพรวมตลาดปีนี้และปีหน้า
- ยอดขายปีนี้
ลดลงตามสัดส่วนของภาวะเศรษฐกิจ เฉลี่ยทั้งประเทศปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว 5-6% ถือว่าโอเค ไม่ได้เลวร้าย จากมูลค่าตลาดรวม 3.2 หมื่นล้านบาท เหลือ 3 หมื่นล้านบาท ตอนนี้กำลังการผลิตของเราอยู่ที่ประมาณ 75-80% ลดลงจากเดิม 90% ปริมาณสูงสุดที่รับได้เกือบ 50 ล้าน ตร.ม./ปี เดี๋ยวนี้ผลิตประมาณ 36-37 ล้าน ตร.ม./ปี หายไปประมาณ 20% ที่หายไปจึงไม่จำเป็นต้องขยาย
ส่วนผู้บริโภคที่หายไปจะเป็นตลาดล่าง ตลาดคนมีหนี้เยอะ ส่วนปีหน้ายังทรงจากปีนี้ ยังไม่นิ่ง ผู้บริโภคยังมีภาระในการผ่อนรถคันแรกอยู่ ถ้าปีหน้าหมดคงดีขึ้น แต่ที่หนีไม่ออกคือจีนเข้ามาแทรกเยอะ แย่งส่วนแบ่งตลาดไป 23% จีนเขาหลอนทั่วโลก โรงงานที่สเปน อิตาลี ปิดไปกว่า 70% จาก 1,000 โรง เหลือ 200 โรง
- จีนเข้ามาตีตลาดไทยมากไหม
ตีทั่วโลกอยู่แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดน่าจะอยู่ที่ 22-23% ถ้าเขาไม่มาเราก็ไม่ต้องส่งออกนอก สินค้าจีนเข้ามาจริงแต่ไม่มีสินค้า ตร.ม.ละ. 100 กว่าบาทเหมือนเรา เพราะค่าแรงช่างแพงกว่ากระเบื้อง รวมค่าติดตั้งประมาณ ตร.ม.ละ 400 บาท บวกค่ากระเบื้องเรา 180 บาท รวม 580 บาท ใช้ได้นานเป็น 10 ปี
- การแข่งขันในตลาด
เราไม่อยากไปแข่งกับใคร พยายามเพิ่มสัดส่วนการส่งออก ตอนนี้เพิ่มเป็น 25% จากปีที่แล้วประมาณ 21-22% ซึ่งตลาดอาเซียนจะเพิ่มขึ้นโดยตัวมันเอง เมียนมา กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย ซึ่งมาเลเซียเราก็ส่งอยู่ แต่มาเลเซียก็มีโรงงานเอง แต่เราก็ส่งในดีไซน์ที่เราขายได้ แล้วก็ประเทศศรีลังกา บรูไน ส่วนอินโดนีเซียเขามีกระเบื้องมากเหมือนกัน เหมือนเราเลยกระเบื้องล้นเขาก็ต้องส่งเข้ามา อินโดนีเซียเรายังไม่สามารถไปขายได้เพราะตลาดล้น และราคาต้นทุนเขาถูกกว่าเรา ทั้งนี้ ตั้งใจไว้ว่าถ้าปีหน้าเศรษฐกิจไทยทรง ๆ ไม่โต เราก็จะส่งออกเพิ่มเป็น 28-30%
- เปิดเออีซีแล้วจะเป็นยังไง
ทั่วโลกก็มา เดี๋ยวนี้แข่งระดับทั่วโลก ต่างคนต่างมา อเมริกาก็ยังหวังตลาดอาเซียน จีนก็หวัง เลยเกิดปัญหาแย่งอิทธิพล จีนกับสหรัฐ เขามองที่นี่อาเซียนตั้ง 600 ล้านคนแล้วอาจจะมีน้ำมันด้วย ที่มีปัญหาซีเรียมันเกิดจากปัญหาน้ำมัน ลึก ๆ เขาหวังประโยชน์ เมืองไทยเป็นเมืองเล็ก ไม่มีกำลังเทคโนโลยีด้านยุทโธปกรณ์ ส่วนตลาดในอาเซียนมีกำลังซื้อมากสุดที่เมียนมา เพราะคนมีถึง 60 ล้านคน ตลาดยังไม่อิ่มตัว เพราะเพิ่งเริ่มใช้กระเบื้อง ถ้าต่อหัวต่อคน ตอนนี้ยังแค่ประมาณ 0.6 ตร.ม./คน ยังไปได้อีกมาก
- ต้นทุนโลจิสติกส์
เราคำนึงเรื่องโลจิสติกส์ก่อนคนอื่น ใช้เวลาส่งทั่วประเทศ 36 ชั่วโมง เรามีเอาต์ซอร์ซที่เป็นซัพพลายทำงานได้เร็วมาก ไม่มีใครทำได้ ยกตัวอย่าง สั่งสินค้าตอนนี้ โหลดตอนเย็น พรุ่งนี้ไปถึงภูเก็ต เรามีคนส่งสินค้าที่ทำงานได้เร็วมาก และรักษามาตรฐานการขนส่งสินค้าภายใน 36 ชั่วโมงทั่วประเทศ อยู่ที่ 90% และเป็นรูปแบบ one price currency หรือราคาเดียวมาโดยตลอด คำนึงถึงคนต่างจังหวัดรายได้น้อยกว่าคนกรุงต้องซื้อของแพงกว่าทำไม เรายอมเรื่องโลจิสติกส์ฟรีไปถึงที่นั่น บริษัทเป็นคนจ่าย ฟรีเรื่องค่าขนส่ง ร้านใหญ่ในกรุงเทพฯ 150 บาท ไปร้านภูเก็ตก็ต้อง 150 บาท ค่าขนส่งต่างกันตั้ง 20 บาท
- สินค้าใหม่
ปีนี้ออกมา 500-600 ลาย กระเบื้องก็เหมือนเสือผ้าเป็นไปตามเทรนด์แฟชั่น ต้องมีการพัฒนาลายใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ทุกปี เพื่อหนีคู่แข่ง และการจะจูงใจลูกค้าจะต้องตกแต่งเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าได้เห็นของจริง
- หันมาผลิตกระเบื้องดิจิทัล
สามารถทำได้หลากหลายทั้งหิน ศิลาแลง หินกาบ หินแกรนิต หรือว่าทำเป็นซีเมนต์หยาบ เพราะใช้ดิจิทัลคิดแทน และดีไซน์ให้เป็นโมเสกได้ แต่การปูส่วนใหญ่ต้องการเป็นอิฐ จะใช้อิฐมอญก็ได้ จะเป็นภาพ 3 มิติ พิมพ์ลายแบบดิจิทัล ถือว่าเป็นงานศิลป์ด้วย ราคา ประมาณ 180 บาท/ตร.ม. ไม่รวมค่าปู ยังมีคุณสมบัติล้างง่าย ไม่สกปรก
ปัจจุบันมูลค่าตลาดในส่วนนี้น่าจะมาก เพราะว่าใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน ตอนนี้มีการตอบรับจากผู้ใช้ดีมากและขายดี |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 12-12-2558
|
|
|
|
|
