Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ศุภาลัย"ปรับทิศรุกตลาดแนวราบ ทุ่ม2หมื่นล้านปักหมุด20โครงการ |
|
"ศุภาลัย" เปิดแผนลงทุนปี"59 ลุยเปิดใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ปักหมุด กทม.+ปริมณฑล ขยับพอร์ตสินค้าแนวราบเป็น 50% ทดแทนตลาดคอนโดฯ ซัพพลายเริ่มล้น ราคาที่ดินแพง เผยปีนี้โกยยอดขายบ้านเข้ากระเป๋าแล้ว 1 หมื่นล้าน ตุนเงินไม่น้อยกว่า 7 พันล้าน ซื้อที่ดินเพิ่ม
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมโครงการแนวราบทุกโครงการของบริษัทในปี 2558 คาดว่าจะทำยอดขายได้กว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 20% จากเดิมยอดขายอยู่ที่ 8,332 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนยอดขายของบริษัทประมาณ 42%
และในปีหน้าจะปรับสัดส่วนของโครงการแนวราบให้โตขึ้นอีก คาดว่าจะใกล้เคียง 50% สำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแนวราบเกิน 1,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายไตรเตชะกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในปีนี้ได้เปิดโครงการในแนวราบทั้งหมด 19 โครงการ จำนวนกว่า 4,700 ยูนิต มูลค่ารวม 18,160 ล้านบาท โดยลงทุนในกรุงเทพฯและปริมณฑล และต่างจังหวัดตามหัวเมืองหลักที่มีการพัฒนาโครงการอยู่แล้ว
ล่าสุดได้ขยายไปจ.นครราชสีมา อีกทั้งยังมีการเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ อาทิ ศุภาลัย พรีมา วิลล่า,ศุภาลัย ไพรด์และศุภาลัย พรีโม่ รองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ส่วนแผนในปี 2559 จะเปิดตัวโครงการแนวราบไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท
แบ่งสัดส่วนเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 65% และต่างจังหวัด 35% และตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาแนวราบทุกรูปแบบ ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยเน้นพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับกลางราคา 4-8 ล้านบาท เป็นหลัก ซึ่งในปีหน้าบริษัทตั้งงบประมาณซื้อที่ดินไว้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท
ขณะที่โครงการแนวราบทั้งหมดของบริษัทในปัจจุบัน รวม 51 โครงการ มูลค่า 56,583 ล้านบาท คงเหลือ 32,671 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 62% และต่างจังหวัด 38%
ซึ่งต่างจังหวัดจะอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี ขอนแก่น และอุดรธานี
นายไตรเตชะกล่าวต่อว่า ปัจจัยที่เลือกพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินของการก่อสร้างแนวราบปรับตัวขึ้นไม่สูงมากเท่ากับที่ดินในการก่อสร้างแนวสูง
อีกทั้งได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเพราะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ และการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนกระจายไปยังจังหวัดปริมณฑลมากขึ้น
นอกจากนี้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวลดลง และเหมาะสมกับราคายิ่งขึ้น ขณะที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางมีเงินเดือนประจำยังมีกำลังที่จะซื้อบ้านอยู่ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-12-2558
|
|
|
|
|