| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 31 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 20-10-2558    อ่าน 1225
 อสังหาปรับกลยุทธ์เร่งสปีดก่อสร้าง ปิดการขายใน6เดือนรับแคมเปญรัฐ

ผู้ประกอบการขานรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ "โกลเด้นแลนด์-เอพี-แอล.พี.เอ็น.-เสนาฯ-กานดา" เร่งสปีดก่อสร้าง-ขายภายใน 6 เดือน ร่นเวลาส่งมอบไตรมาสแรก ปี 2559 รัฐบาลดึง 17 ดีเวลอปเปอร์ร่วมพัฒนาที่ดินราชพัสดุ ธนารักษ์ ทำโปรเจ็กต์บ้านคนจน "กสิกรฯ-กรุงไทย"เมินแข่ง ธอส.



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่าจากการสำรวจการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการรับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ยกเว้นค่าโอน 2% เหลือ 0.01% ยกเว้นค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% ในช่วง 6 เดือน สิ้นสุด 30 เม.ย. 2559 ปรากฏว่าเจ้าของโครงการส่วนใหญ่เบนเข็มเร่งลงทุนโครงการแนวราบมากขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ เพราะส่งมอบได้เร็วภายใน 3-4 เดือน ต่างจากคอนโดฯ ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานข้ามปี

โกลด์เบ่งทาวน์โฮม 1,500 ล้าน

นายภวรัญชน์ อุดมศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บจ.โกลเด้นแลนด์ เรสซิเดนซ์ ในเครือ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า ผู้บริหารนัดประชุมด่วนทีมงานไซต์ก่อสร้างทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ทบทวนแผนพัฒนาโครงการใหม่ ให้สามารถเร่งโอนบ้านให้ลูกค้าทันใน 6 เดือนทันรับอานิสงส์ยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวซึ่งแบ่งเป็นยอดขายรอโอน (แบ็กล็อก) สะสมตั้งแต่ต้นปี 3,000-4,000 ล้านบาท แผนเดิมจะก่อสร้างและส่งมอบไตรมาส 3/59 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเร่งงานก่อสร้างเร็วขึ้น

ขณะที่ยอดขายใหม่ในไตรมาส 4/58 น่าจะเร่งเปิดขายและก่อสร้าง เนื่องจากกำลังผลิตบ้านยังรองรับได้อีก 300-400 ยูนิต มูลค่า 1,500 ล้านบาท เฉลี่ยหลังละ 3.5 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม โดยใช้เวลาสร้างและส่งมอบ 3-4 เดือน

ช่วง 6 เดือนนี้ประเมินว่า มู้ดผู้บริโภคจะกลับมาคึกคัก ฉะนั้นจะต้องเพิ่มยอดขายแนวราบ จากแผนธุรกิจปี 2559 เดิมวางไว้ว่า ไตรมาส 2/59 จะเปิดพรีเซล 3 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาทจะเลื่อนเปิดตัวเร็วคือในไตรมาสแรกแทน จะก่อสร้างส่งมอบได้ 15% ของมูลค่าโครงการรวม

LPN เร่งส่งมอบ 3 โครงการ

นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บจ.พรสันติ ในเครือ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลอปเม้นท์ หรือ LPN กล่าวว่า บริษัทมอง 2 ส่วนคือสต๊อกสะสมกับโครงการเปิดพรีเซลใหม่ ยอดขายสะสมจะเป็นกลุ่มราคา 7-10 ล้านบาท มีแบรนด์บ้านลุมพินี สวนหลวง ร.9 บ้านเดี่ยว 10 ล้านบาทบวกลบ กับทาวน์โฮม ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ ราคา 7-8 ล้านบาท ยอดขายสะสมกว่า 300 ล้านบาทานลุมพินี สุขสวัสดิ์-พระราม 2 อีก 400-500 ล้านบาท เตรียมส่งมอบปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า

บริษัทเพิ่งเปิดพรีเซล 3 โครงการใหม่ แบรนด์บ้านลุมพินี 3 ทำเล ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 กลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ทำเลเพิ่มสิน-วัชรพล, แจ้งวัฒนะ (ซอยวัดกู้) และราชพฤกษ์-นครอินทร์ เป็นกลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะวางแผนกับฝ่ายก่อสร้างเร่งสร้างโอนภายในเดือน เม.ย. 2559 จากแผนปกติทยอยสร้างและส่งมอบสิ้นปีหน้ารวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท

AP เร่งผลิต-แถมแอร์

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า AP มีโครงการราคาต่ำ 3 ล้าน พร้อมอยู่ คือทาวน์เฮาส์พลีโน่ 13 โครงการ กับคอนโดฯแอสปาย 670 ยูนิต มูลค่ารวม 4,340 ล้านบาท จะรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯได้จะเพิ่มโปรโมชั่น เช่น ฟรีค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์น้ำ ไฟ ฯลฯ

แหล่งข่าวจาก บมจ.เอพีฯกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่มีกระแสข่าวรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทำให้โครงการพลีโน่มีความคึกคัก ลูกค้าเข้าเยี่ยมไซต์มากขึ้น ยอดจองซื้อเพิ่มจากเดือนละ 5-6 ยูนิตเป็น 15 ยูนิต ส่วนงานก่อสร้างได้ปรับแผนจากเดิมเฉลี่ยสร้างเดือนละ 7-8 ยูนิต เป็น12 ยูนิต

เสนาฯทำบ้านเดี่ยวไซซ์เล็ก

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ได้ทบทวนแผนพัฒนาโครงการเช่นกัน โดยจะเร่งสร้างบ้านแนวราบให้เสร็จใน 6 เดือน มีทั้งเปิดเฟสเพิ่มในโครงการเดิม โดยทำเป็นบ้านไซซ์เล็ก

ปัจจุบันเสนาฯเปิดขายอยู่ 23-24 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 80% เป็นกลุ่มราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท และมีแบ็กล็อก 3,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ได้ถึงปี 2560 แบ่งเป็นแบ็กล็อกที่จะรับรู้รายได้ไตรมาส 4/58 ประมาณ 1,000 ล้านบาท มียูนิตเหลือขาย 2,000 ล้านบาท ส่วนนี้มองว่าจะได้รับผลบวกจากมาตรการรัฐ

กานดาฯเร่งโอน 1.6 พันล้าน

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการปีนี้เหลือเวลาอีก 2 เดือนเศษ บริษัทต้องปรับประมาณการการขายจาก 1,750 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,900 ล้านบาทปรับประมาณการโอนกรรมสิทธิ์จาก 1,500 ล้านบาท เป็น 1,600 ล้านบาท เพิ่มจำนวนบ้านส่งมอบจาก 600 ยูนิต เป็น 670 ยูนิต

"การยกเว้นค่าโอนและจดจำนองมีเวลา 6 เดือน เราจึงต้องเร่งขายเฉพาะแปลงที่ส่งมอบได้ทันภายในสิ้นเดือน เม.ย. 59 ขณะเดียวกันในส่วนที่บริษัทได้ประโยชน์จากการลดค่าธรรมเนียมการโอนนั้น มูลค่าครึ่งหนึ่งจะนำมาจัดโปรโมชั่นหรือให้เป็นส่วนลดเงินสดกับลูกค้า" นายอิสระกล่าว

นายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า โครงการที่พักอาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ของออริจิ้นตรงกับมาตรการรัฐทั้งหมด แต่ต้องรอดูความชัดเจนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะมีเงื่อนไขอย่างไร เพราะเกรงว่าอาจไม่ได้ผ่อนปรนมากจากปกติดอกเบี้ย ธอส.ค่อนข้างสูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นอยู่แล้ว คาดว่ามีลูกค้าที่ใช้สินเชื่อตามมาตรการ 100 ล้านบาท

แบงก์ใหญ่เมินแข่ง ธอส.

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แคมเปญสินเชื่อบ้านผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) น่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มผู้อยากมีบ้านในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนกรุงไทยยังมุ่งให้สินเชื่อบ้านกับลูกค้าทุกกลุ่ม ขึ้นกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อแต่ละคนด้วย ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เพราะรายได้ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

"ยอดปฏิเสธสินเชื่อขณะนี้มี 20-30% ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อบ้านในกลุ่มลูกค้ารายย่อยเติบโต 7-8% มียอดสินเชื่อคงค้าง 3 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าโครงการอสังหาฯของผู้ประกอบการรายใหญ่"

นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้น่าจะมียอดสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่เป็นหลักหมื่นล้านบาทโดยกสิกรไทยยังดูภาระหนี้ต่อรายได้ของลูกค้าเป็นหลัก ส่วนแคมเปญ ธอส.เป็นคนละกลุ่มเป้าหมายของธนาคาร ซึ่งปล่อยสินเชื่อบ้านราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป

ขุนคลังผุดไอเดียสร้างบ้านคนจน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลอปเปอร์) รวมทั้งสิ้น 17 ราย มีแนวคิดเชิญเอกชนเข้ามาช่วยภาครัฐสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ครอบคลุมไปถึงทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ฯลฯ และผู้ที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยจะให้ผู้ประกอบการอสังหาฯรวมกลุ่มก่อสร้างบ้านราคาถูก ในรูปแบบธุรกิจที่เรียกว่า "กิจการเพื่อสังคม" หรือ "Social Enterprise" มีผู้ประกอบการอสังหาฯและสมาคมอสังหาฯถือหุ้นร่วมกันในกิจการนี้ และภาครัฐสนับสนุนที่ดิน โดยนำที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ หรือที่ดินการรถไฟฯ หรือที่ดินหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ มาใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้าง

"โครงการนี้เป็นการทำโดยไม่หวังผลกำไร เป็นการช่วยสังคม ซึ่งจะขอความร่วมมือภาคอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ หรือผู้ที่แข็งแกร่งเข้ามาร่วมในโครงการ เบื้องต้นคาดว่าราคาที่อยู่อาศัยที่จะทำออกมาขาย เฉลี่ย 5-6 แสนบาท/ยูนิต เพื่อให้ผู้ที่มีรายได้เฉลี่ยราว 10,000 บาทต่อเดือน สามารถเข้าถึงได้ และหากใช้ที่ดินราชพัสดุก็จะเป็นลักษณะการเช่าระยะยาว ซึ่งล่าสุดกรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าให้เพิ่มเป็น 99 ปี จากปัจจุบันได้เพียง 30 ปี" นายอภิศักดิ์กล่าว

นายอภิศักดิ์ยังระบุด้วยว่า ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ จึงจะมีความชัดเจนในรายละเอียด เรื่องกรอบระยะเวลา การใช้ที่ดิน ทำเล และรูปแบบที่อยู่อาศัย ส่วนแนวคิดที่จะให้แบงก์รัฐเข้ามามีส่วนร่วมจะเป็นในรูปแบบการสนับสนุนสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯที่เข้ามาร่วมโครงการ และสินเชื่อแก่ผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย

ขีดเส้นราคาไม่เกิน 5-6 แสนบาท

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาขายเฉลี่ย 5-6 แสนบาท/ยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมมากกว่าที่พักอาศัยแนวราบ เพราะต้นทุนก่อสร้างต่ำกว่า และสามารถสร้างที่พักอาศัยให้กับครอบครัวที่มีรายได้อย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือน ให้มีบ้านและสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 3,000-4,000 บาท อีกทั้งมาตรการนี้ยังเสมือนดึงงบซีเอสอาร์ของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯขนาดใหญ่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้านบาท มาใช้ในโครงการนี้ได้ด้วย

"เบื้องต้นก็คุยกันในรอบว่า ราคาขายเพดานคือราว 5-6 แสนบาท ซึ่งหากไม่กำหนด ผู้ประกอบการก็จะตีความกันเอง และทำราคาขายมากกว่านั้น ซึ่งถือว่าไม่ได้ช่วยผู้มีรายได้น้อยแล้ว" นายอธิปกล่าว

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯที่ภาครัฐทำมาช่วงนี้ถือว่าเห็นผลบวกแล้ว โดยเฉพาะการเร่งโอนที่น่าจะทำให้ยอดขายรวมของภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้เป็น 13% จากคาดการณ์เดิมมีเพียง 5% ในปีนี้ ขณะที่ยอดขายบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่คาดเติบโตเพียง 3.1 แสนล้านบาท ก็น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 2.9 แสนล้านบาท และปีหน้าคาดว่าภาคอสังหาฯจะเติบโตอีกราว 5-10%

"มาตรการดังกล่าวถือว่าสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 และไตรมาสแรกปีหน้า" นายประเสริฐกล่าว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่า ผลของมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯจะช่วยพยุงตลาดอสังหาฯที่ชะลอตัวจากภาวะกำลังซื้ออ่อนแรง ขณะที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยรอขายเพิ่มสูงขึ้น โดยผลสำรวจของ AREA พบว่า จำนวนที่อยู่อาศัยรอขายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา มีประมาณ 1.78 แสนหน่วย เพิ่มขึ้น 6.7% จากสิ้นปี 2557 ที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยรอขายประมาณ 1.67 แสนหน่วย นอกจากนี้ยังประเมินอีกว่า ไตรมาส 4 นี้จะเห็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นประมาณ 35,900 หน่วย เติบโตประมาณ 11.2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สถานการณ์จะดีขึ้นกว่าช่วง 9 เดือนแรกที่การโอนกรรมสิทธิ์น่าจะหดตัว 8%

ส่วนด้านผู้ซื้อที่มีรายได้น้อยก็สามารถขอสินเชื่อเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ จะทำให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ในช่วงโค้งท้ายปีนี้ ขยายตัวสูง 10.5% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นอสังหาฯเป็นการดึงความต้องการบริโภคล่วงหน้าของผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายและต้องติดตามผลของกลุ่มผู้ซื้อบ้านที่เป็นกลุ่มรายได้น้อยจะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น โดยประเมินภาพรวมของหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี เข้าสู่ 82.5% ต่อจีดีพี จากสิ้นไตรมาสอยู่ที่สัดส่วน 80.6% ทั้งนี้ หนี้ครัวเรือนที่มาจากสินเชื่ออสังหาฯมีสัดส่วน 30% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 20-10-2558 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.