Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ยลโฉมสาขาต้นแบบ "ไทวัสดุ" สโตร์ที่ 41 @ รังสิต |
|
เพลิดเพลินกับการตะลุยเปิด 40 สาขาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุและของตกแต่งบ้านแบรนด์ "ไทวัสดุ" ภายใต้เครือข่ายธุรกิจตระกูลจิราธิวัฒน์ ก็ถึงเวลาต้องผ่อนคันเร่งเพื่อหันกลับมาดูโครงสร้างภายใน โดยเปิดตัวสาขาที่ 41 รังสิต ความสำคัญไม่เพียงแต่เป็นสาขาสุดท้ายของปีนี้ หากแต่ยังเป็น "สาขาต้นแบบ" อีกด้วย
5 ปีกระจาย 40 สาขาทั่วไทย
หนึ่งในสีสันแห่งการเปลี่ยนแปลงของไทวัสดุมาพร้อมกับการปรับผังผู้บริหาร ซึ่งมี "สุทธิสาร จิราธิวัฒน์" ผู้ก่อตั้งไทวัสดุเป็นเบอร์ 1 แต่บุคลิกโลว์โปรไฟล์ ล่าสุดโปรโมต "สอางทิพย์ อมรฉัตร" มือการตลาดเก๋าเกมจากเพาเวอร์บายมานั่งเก้าอี้ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด
"5 ปีที่แล้วบริษัทเปิดสาขาแบบตีป่าล้อมเมือง เพราะรู้ว่าเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ต้องเกิด เรามีสาขาอุดรฯ อุบลฯ แม่สอด เชียงราย หาดใหญ่ กาญจน์ จันทบุรี หนองบัวลำภู ต่อมาไล่เปิดหัวเมืองชั้นสอง ตีโอบพื้นที่วงใน เช่น ชลบุรี พัทยา สระบุรี มหาสารคาม ลพบุรี ร้อยเอ็ด..."
โรดแมปการลงทุนกระชับเข้าเขตมหานครกรุงเทพ สาขาแรกที่บางนา จากนั้นบุกทำเลถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) แจ้งวัฒนะ บางพลี นวมินทร์ จนกระทั่งล่าสุดคือสาขารังสิต
สาขาในเขตเมืองหลวงเพื่อตอบโจทย์การปรับสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีอยู่2 กลุ่มหลัก คือ ช่างรับเหมารายย่อยกับเจ้าของบ้าน เครือข่าย 40 สาขาในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ทำให้ไทวัสดุกุมอำนาจต่อรองในการจัดซื้อสินค้าและเรื่องแบรนด์ ผลพลอยได้อัตโนมัติยังรวมถึง "...ล้านแล้วจ้า" ตัวเลขบัตรสมาชิกไทวัสดุทะลุ 1 ล้านใบเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
รีโมเดลดึงเจ้าของบ้านช็อป
จุดโฟกัสกำลังแคบเข้ามา ฐานลูกค้าสมาชิกล้านใบ ทอนออกมาเป็นลูกค้าช่างถือบัตรเพียง 5% หรือ 5 หมื่นใบ แต่ทำยอดขาย 30% ขณะที่ลูกค้าเจ้าของบ้านหรือโฮมโอว์นเนอร์ฟาดยอดขายเข้าไปถึง 70% จากสัดส่วนบัตร 95% หรือ 9.5 แสนใบ
ดาต้าเบสแบบนี้มีน้ำหนักเพียงพอต่อการตัดสินใจรีดีไซน์สโตร์ไทวัสดุอีกรอบ เพื่อต้อนรับกลุ่มเจ้าของบ้านให้เข้ามาเลือกช็อปสินค้า โดยกลุ่มรายได้หลักจากลูกค้า ช่าง-รับเหมารายย่อยจำพวกเหล็ก ปูน ทรายวัสดุหนัก ๆ วัสดุหลัก ๆ ยังคงเป็นแบบโอเพ่นแอร์ เน้นบริการจัดของตามออร์เดอร์ขนขึ้นรถให้เสร็จสรรพภายในเวลาสั้นที่สุด (เพราะต้องรีบเข้าทำงานในไซต์ก่อสร้าง)
ขณะที่ลูกค้าโฮมโอว์นเนอร์ พฤติกรรมผู้บริโภคจะใช้เวลาเดินช็อปนานกว่า ยิ่งของมีให้เลือกหลากหลายยิ่งเดินเพลิน โจทย์ข้อนี้จึงต้องหันกลับมาดูเรื่องบรรยากาศในโชว์รูม จากเดิมเป็นบิ๊กบ็อกซ์โอเพ่นแอร์ ทำยังไงให้ใกล้เคียงกับการเดินห้างให้มากที่สุด
นำไปสู่การรีโมเดลขนานใหญ่ มีการเดินสาย C&D (Copy and Development) ดูต้นแบบจากที่อื่นทั้งในและนอกประเทศ เริ่มตั้งแต่เติมความเย็นเข้าไป จะเห็นพัดลมขนาดใบพัด 2 เมตรกว่าติดตั้งหลายจุด เติมไอเย็นด้วยระบบอีแวป (EVAP) ซึ่งเป็นระบบหมุนเวียนอากาศ จนกระทั่งพนักงานประจำจุดแคชเชียร์ยังออกปากว่าที่นี่เดินช็อปแล้วสบายตัว เหงื่อไม่ออก
เติมความเย็นเข้าไปแล้วทำให้มาคู่กับบรรยากาศไร้ฝุ่น ดูสะอาดสะอ้าน ที่เหลือก็เป็นการจัดวางเลย์เอาต์ให้ช็อปได้ง่าย โดยแบ่งเป็น 10 เซ็กชั่นหลัก อาทิ หมวดสินค้าเครื่องมือช่าง สีทาอาคาร ประตู กระเบื้องปูพื้นและผนัง อุปกรณ์จัดสวน เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
เพิ่มโซน Mock up Room
ความเป็นสาขาต้นแบบเท่าที่สัมผัสได้ต้องนับรวม 2 เรื่อง 1.เพิ่มแกลเลอรี่โซน หรือโซนห้องตัวอย่างที่เรียกว่า Mock up Room จากเดิมถ้าเป็นสินค้าประตูก็จะวางเรียงยี่ห้อ สาขารังสิตมีการทำห้องตัวอย่างถ้าติดตั้งบานประตูแบบไหนผลลัพธ์จะออกมายังไง เห็นบอกว่าคนที่ไม่ได้สร้างบ้านใหม่พอเห็นห้องตัวอย่างแล้วสร้างแรงบันดาลใจอยากเปลี่ยนประตูบานเก่าก็มี
2.โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเดิมไทวัสดุมีพื้นที่ให้กับแบรนด์เพาเวอร์บาย 13 สาขาด้วยกัน แต่พบว่ายอดขายไม่เป็นใจ ไม่ว่ามาจากเหตุผลตัวสินค้าหมวดภาพและเสียงราคาไม่ตรงกับลูกค้าเป้าหมายหรืออะไรก็ตามแต่ สาขาต้นแบบตัดสินใจยกเลิกแบรนด์เพาเวอร์บาย เพิ่มพื้นที่แต่เน้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นหลัก อาทิ เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว เตารีด ไมโครเวฟ ฯลฯ
"5 ปีมานี้เราทำการสำรวจความต้องการลูกค้าเยอะมาก ทำโฟกัสกรุ๊ป 5-6 ภาค ลูกค้าตอบเหมือนกันว่าบางทีซื้อแล้วนึกไม่ออกว่าจะทำยังไง (กับสินค้า) การมีห้องตัวอย่างจึงเป็นคีย์ที่ต้องการหาโซลูชั่นให้ลูกค้า..."
ทั้งนี้ สาขาต้นแบบลงทุนตัวเลขกลม ๆ 500 ล้านบาท บนที่ดิน 22 ไร่ เป้าหมายดึงดูดลูกค้าเจ้าของบ้านให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น วัดความสำเร็จกันที่ยอดขายเบาะ ๆ เดือนละ 60 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-10-2558
|
|
|
|
|