Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
พิษน้ำท่วมเมืองท่องเที่ยวชายทะเล กำลังซื้อชอร์ตระยะสั้น-อสังหาภาคตะวันออกยังไหว |
|
หว่ามก๋อถล่มเมืองชายทะเล "พัทยา-หัวหิน-ระยอง" สมาคมอสังหาฯชลบุรีเผยเป็นวิกฤตน้ำท่วมในรอบ 30 ปี ประเมินกำลังซื้อชะงัก 1 สัปดาห์ "พฤกษา" รับเป็นบทเรียนซื้อแลนด์แบงก์พัฒนาโครงการในอนาคต "ศุภาลัย" ชี้วิกฤตเป็นโอกาส ลงทุนระบบฟลัดโพรเทกชั่นดักล่วงหน้า-ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น "แสนสิริ-คิวเฮ้าส์" ประสานเสียงยอดขายปกติ
จากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ ทำให้เกิดฝนตกหนักช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 58 และเกิดภาวะน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด โดยเฉพาะเมืองชายทะเล เช่น เมืองพัทยา อ.หัวหิน จ.ระยอง จนอาจส่งผลกระทบต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ตามรายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า มูลค่าโครงการอยู่ระหว่างเปิดขายปี"58 ในจ.ชลบุรีมีมูลค่า 401,303 ล้านบาท จ.ประจวบคีรีขันธ์ 46,872 ล้านบาท และจ.ระยอง 57,538 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามดีเวลลอปเปอร์ พบว่ายังมองบวก โดยมีผลกระทบแค่ระยะสั้น แต่อย่างน้อยทำให้ผู้ซื้อมีข้อมูลเลือกซื้อบ้านมากขึ้น เพราะเห็นตัวอย่างแล้วว่าทำเลไหนน้ำท่วม-ไม่ท่วม
กำลังซื้อชอร์ต 1 สัปดาห์
นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร เลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรณีน้ำท่วมเมืองพัทยาบางจุดสูงสุดถึง 2 เมตรนั้น ยอมรับว่าสถานการณ์เฉพาะหน้าทำให้กำลังซื้อชะงัก 1 สัปดาห์ ยอดขายทุกโครงการในช่วงดังกล่าวเป็นศูนย์ เกือบทุกโครงการในเมืองพัทยาถูกน้ำท่วม ส่วนจะมากน้อยและระยะเวลาท่วมต่างกันไป แต่ขณะนี้การขายในเมืองพัทยากลับมาเป็นปกติแล้ว
"ต้องเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ30ปีของเมืองพัทยาและจริง ๆ ท่วมไม่นาน เวลาที่น้ำขังมี 4-6 ชม.เท่านั้น เพียงแต่เกิดขึ้นหลายครั้งในรอบ 3 วัน ซึ่งไม่น่าจะทำให้ผู้ซื้อเปลี่ยนพฤติกรรมไปซื้อคอนโดฯแทนบ้านได้เหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่ท่วมนานหลายเดือน" นายจักรรัตน์กล่าวและว่า
บ้านบนเขาแนวโน้มขายดี
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลังจากนี้อาจเป็นการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้อรายใหม่ๆที่กำลังมองหาบ้านแนวโน้มน่าจะมองหาทำเลบนเขามากขึ้น เช่น เขาพระตำหนัก เขาตะโล เขาน้อย เพราะมีพื้นที่การท่วมเพียง 70% เทียบกับกลางเมืองพัทยาที่ท่วมหมด 100% แต่อาจจะไม่ถึงกับเปลี่ยนรูปแบบอยู่อาศัยจากแนวราบเป็นแนวสูง และพฤติกรรมผู้ซื้อมองหาบ้านใหม่ทดแทนบ้านเดิมที่น้ำท่วมมีความเป็นไปได้ ซึ่งจะเป็นแง่บวกทั้งการขายบ้านใหม่และตลาดบ้านเช่า
ส่วนเรื่องการปรับปรุงผังเมืองหรือทางระบายน้ำมองว่าควรเร่งดำเนินการเพราะเมืองพัทยามีการอยู่อาศัยหนาแน่นสูงมากแม้แต่พื้นที่ลุ่มก็มีการสร้างที่อยู่อาศัยทำให้การระบายน้ำทำได้ยากขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ไม่ควรกล่าวโทษเทศบาลหรือหน่วยราชการ เพราะเป็นเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด
พฤกษาฯเพิ่มปัจจัยใหม่ซื้อที่ดิน
นายปิยะ ประยงค์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า น้ำท่วมเมืองพัทยาครั้งนี้ไม่กระทบโครงการบ้านพฤกษา บุญสัมพันธ์-พัทยากลาง และมองว่าผลกระทบน้ำท่วมยังไม่ร้ายแรงเท่าปัญหาหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ถือว่ามีบทเรียนในการเลือกซื้อที่ดินพัฒนาโครงการในอนาคต
"ครั้งนี้เป็นบทเรียนในการจัดซื้อที่ดินเพิ่มปกติเรามีแผนที่ที่ทำคอนทัวร์ความสูงต่ำพื้นที่ไว้แต่ไม่ได้พิจารณาเป็นปัจจัยหลักตอนนี้ก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากน้ำไหลบ่าจากเขาลงมา ถ้าเป็นที่ดินใกล้เขาบริเวณจุดที่เป็นทางน้ำก็จะมีความเสี่ยงกว่าปกติ" นายปิยะกล่าว
ศุภาลัยมองบวกผู้ซื้อตัดสินใจเร็ว
นายบุญชัย ชัยอนันต์บวร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานโครงการภูมิภาค 2 บมจ.ศุภาลัยกล่าวว่า ศุภาลัยทั้ง 2 โครงการได้ลงทุนระบบป้องกันน้ำท่วม (Flood Protection) โดยถมที่ดินสูงกว่าถนน 60 ซม. ขณะที่ทำเลอยู่บริเวณสวนศรีเมืองซึ่งไม่ถูกน้ำท่วม บริเวณที่น้ำท่วมจะอยู่ใกล้แยกทับมา ศูนย์การค้าและโรงแรมสตาร์ ปรากฏว่าทำให้ลูกค้าที่ลังเลก่อนหน้านี้มีการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะเห็นข้อดีของทำเล กลายเป็นยอดขายดีขึ้น เทียบกับช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวลงเพราะเข้าสู่หน้าฝน
"ศุภาลัยให้ความสำคัญเรื่องทำเลน้ำท่วมมากอยู่แล้วการหาซื้อที่ดินถ้าไม่จำเป็นจะไม่เลือกพื้นที่รับน้ำโดยศึกษาย้อนกลับไปประมาณ10 ปี ถ้าต้องเลือกจริง ๆ ก็จะลงทุนฝังท่อระบายน้ำกว้าง 1.2 เมตรไว้"
สำหรับโครงการของศุภาลัยใน จ.ระยอง ได้แก่ คอนโดมิเนียม ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท ระยอง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มียอดขาย 50% และบ้านเดี่ยว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ ระยอง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มียอดขาย 70%
แสนสิริ-คิวเฮ้าส์ขายปกติ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริกล่าวว่า ยอดขายแสนสิริในพัทยาและหัวหินไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากน้ำท่วมขังเกิดขึ้นในถนนพัทยาสาย 2 และถนนสุขุมวิทบางส่วนเท่านั้น ประกอบกับตัวโครงการแสนสิริถมที่ดินสูงอย่างน้อย 1 เมตรจากถนนอยู่แล้วจึงไม่มีน้ำท่วมถึง เพียงแต่ฝนที่ตกหนักอาจทำให้น้ำล้นจากสระว่ายน้ำเข้าสวนบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติมีการเฝ้าติดตามและระบายน้ำทันที
"เหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะไม่ปกติ แต่ถือว่าไม่ได้รุนแรงมากเพราะน้ำท่วมขังจริง ๆ แค่ 2-3 ชม. ก็ไม่ต้องปรับผังเมืองอะไร เมืองพัทยาขยายตัวขึ้นมากจึงระบายน้ำได้ช้าลง ถ้าดูแลรักษาขุดลอกท่อให้ดีก็เพียงพอ"
สำหรับโครงการอยู่ระหว่างขายในเมืองพัทยา ได้แก่ 1)เดอะเบส พัทยากลาง ทำเล ถ.พัทยาสาย 2 มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท 2)บ้านปลายหาด ทำเลถ.พัทยา-นาเกลือ มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท มียอดขาย 60% ส่วนในหัวหิน ได้แก่ 1)ออทัมน์ หัวหิน มูลค่าโครงการ 760 ล้านบาท ยอดขาย 90% 2)บ้านอิ่มเอมหัวหิน มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ยอดขาย 90% และ 3)บ้านปลายฟ้า มูลค่าโครงการ 1,570 ล้านบาท ยอดขาย 60%
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์กล่าวว่ายอดขายในพัทยาและหัวหินยังปกติ เพราะ 80% ของผู้ซื้อเป็นคนท้องถิ่นที่อยู่ในเหตุการณ์และรับทราบการจัดการโดยตลอด จึงไม่กระทบความรู้สึกลูกค้า ซึ่งโครงการของบริษัท ได้แก่ เดอะ ทรัสต์ หัวหิน ซ. 5, คิว ซีไซด์ หัวหิน, เดอะ ทรัสต์ พัทยาเหนือ, เดอะ ทรัสต์ พัทยากลาง, เดอะ ทรัสต์ พัทยาใต้ ไม่มีน้ำท่วม แต่ข่าวที่ออกไปทำให้นักท่องเที่ยวและคนที่ไม่อยู่ในพื้นที่ตกใจ ทั้งที่น้ำท่วมเกิดขึ้นแค่บริเวณ ถ.สุขุมวิทและนาเกลือเท่านั้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-09-2558
|
|
|
|
|