|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ฮิต "บ้านพลังงานแสงอาทิตย์" "เสนา-ปริญสิริ-คิวเฮ้าส์" ลุยตลาด |
|
"โซลาร์รูฟท็อป" กลายเป็นเทรนด์ธุรกิจใหม่ของผู้ประกอบการบ้านจัดสรรปีนี้ หลัง 3 บริษัททั้งรายกลาง-รายใหญ่เปิดโปรเจ็กต์ถ้วนหน้า นำเสนอลูกบ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ประหยัดค่าใช้จ่าย
เริ่มที่ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์เปิดตัวเป็นเจ้าแรก ร่วมทุนกับ บจ.บี.กริม เพาเวอร์ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจพลังงาน ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน บมจ.ปริญสิริจับมือกับ บจ.มิตซูบิชิ อิเล็คทริค กันยงวัฒนา ผู้ผลิตและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จากญี่ปุ่น และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ผนึกกับ บมจ.เอสพีซีจีบิ๊กเนมธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์
เสนาฯปูพรมต่อยอดธุรกิจ
"ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" กรรมการผู้จัดการ บมจ.เสนาฯกล่าวว่า ขณะนี้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้บ้านเดี่ยวบางส่วนใน 2 โครงการ คือ เสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ราคา 6-10 ล้านบาท และเสนาวิลล์ รามอินทรา (คู้บอน) ราคา 4.1 ล้านบาท จะติดตั้งแผงโซลาร์กำลังผลิตไฟฟ้า 3.5 กิโลวัตต์ ให้กับลูกบ้านตั้งแต่ก่อสร้างโครงการ และลูกบ้านจะได้สิทธิ์รับช่วงสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐจากบริษัท ทำให้ลูกบ้านมีรายได้จากการขายไฟฟ้า 4,000 บาท/เดือน
ทั้งนี้ บ้านกว่า 40 ยูนิตที่เสนาฯติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้ถือว่าเต็มโควตาสัญญาขายไฟฟ้าจากหลังคาที่อยู่อาศัยให้กับรัฐ 200 กิโลวัตต์ ที่เสนาฯได้รับแล้ว ดังนั้น โครงการบ้านจัดสรรของบริษัทหลังจากนี้ จะเป็นการติดตั้งเพื่อให้ลูกค้านำพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใช้เองภายในบ้าน เหมือนกับโซลาร์รูฟท็อปที่จะติดตั้งบนยอดอาคารชุดเดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี เน้นนำมาใช้ทดแทนภายในอาคาร เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลาง
"งานนี้ไม่ได้หวังกำไร แต่ที่หวังได้จริงคือโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ร่วมทุนกับ บี.กริมฯที่เคาะตัวเลขชัด ๆ แล้วว่าลงทุนไปกว่า 3,000 ล้านบาท กำลังผลิต 46.5 เมกะวัตต์ และจะเริ่มขายไฟฟ้าให้กับรัฐได้สิ้นปีนี้ รวมถึงโซลาร์รูฟท็อปติดตั้งบนหลังคาโกดังให้เช่าของบริษัทใน ซ.สุขุมวิท 50 จำนวน 750 กิโลวัตต์ ที่เริ่มขายไฟฟ้าให้รัฐไปแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย. 58 คาดว่าถึงสิ้นปีจะรับรายได้ 3 พันล้านบาท"
ปริญสิริเปิดเช่าหลังคา
ขณะที่ค่ายปริญสิริได้แตกบริษัทใหม่รองรับธุรกิจนี้ คือ บริษัท ปริญ เอนเนอร์จี จำกัด มี "ปริญญา โกวิทจินดาชัย" นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเป็นหัวเรือใหญ่ระบุว่า การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปของบริษัทจะเป็นการปูพรมติดทั้งโครงการ โดยบริษัทอยู่ในฐานะผู้ขอเช่าหลังคาจากลูกบ้าน และจะได้กำไรจากการขายไฟฟ้าให้รัฐ ส่วนลูกบ้านจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าเช่าอัตราเท่ากับค่าส่วนกลาง ดังนั้น ลูกบ้านจะไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง ยกเว้นว่าปรับค่าส่วนกลางขึ้น ลูกบ้านก็จะต้องจ่ายเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมา การจ่ายค่าส่วนกลางนี้บริษัทจะจ่ายโดยตรงให้กับนิติบุคคล ทำให้หมดปัญหาการเก็บค่าส่วนกลางได้ไม่เพียงพอ
มีโครงการนำร่อง คือ ทาวน์โฮม "ซิกเนเจอร์ รามอินทรา" 152 ยูนิต ราคายูนิตละ 4-6 ล้านบาท กำลังผลิตไฟฟ้าทั้งโครงการ 900 กิโลวัตต์ เท่ากับที่ทำสัญญาเป็นผู้ขายไฟฟ้าไว้กับภาครัฐ และปริญสิริเป็นค่ายเดียวที่เลือกติดแผงโซลาร์รูฟกับโครงการทาวน์โฮม ขณะที่ค่ายอื่นเลือกติดให้กับบ้านเดี่ยว และบริษัทเป็นผู้ลงทุนโซลาร์รูฟเอง ไม่ได้คิดต้นทุนแฝงไว้กับค่าบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องกำลังซื้อของลูกบ้านที่จะลงทุนร่วมกัน
"ปริญญา" บอกว่า โครงการซิกเนเจอร์ รามอินทรา ไม่ได้นำโซลาร์รูฟมาเป็นจุดขาย ลูกค้าจะต้องชื่นชอบแบบบ้านและตัดสินใจซื้อก่อน ปริญสิริจึงจะชี้แจงการขอเช่าหลังคา ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีลูกบ้านปฏิเสธ สามารถขายได้แล้วกว่า 30 ยูนิต พร้อมดำเนินการขายไฟฟ้าภายในสิ้นปี 2558
QH ดึงลูกบ้านเก่าหมื่นหลังร่วม
ส่วนค่ายควอลิตี้เฮ้าส์ที่ไม่ยอมตกขบวน โดย "ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์เล่าว่า เป็นการแนะนำให้ลูกค้าลงทุนติดตั้งเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านเอง และตอบสนองลูกค้าที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลที่ศึกษาร่วมกับเอสพีซีจี คือ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใช้เงินลงทุน 2-6 แสนบาท มีกำลังผลิต 2-10 กิโลวัตต์ สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 2,000-6,000 บาท/เดือน คืนทุนภายใน 8-9 ปี และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเพราะจะลดคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้าของภาครัฐได้ 2,000-9,000 กก./ปี ด้านเอสพีซีจีจะเป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โดยมีพันธมิตรคือโฮมโปรทุกสาขาเป็นผู้บริการดูแลหลังการขาย
ขณะนี้กำลังจัดทำแผ่นพับและจะเริ่มแนะนำภายใน1เดือนในโครงการบ้านเดี่ยวทำเลราชพฤกษ์เพราะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพลงทุนน่าจะเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยว ราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป และนอกจากโครงการแนวราบของคิวเฮ้าส์ที่เปิดใหม่ปีละกว่า 1,500 หลัง คิวเฮ้าส์จะแนะนำการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับลูกค้าเก่าประมาณ 1 หมื่นหลัง รวมถึงการติดตั้งในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น หลังคาคลับเฮาส์ด้วย
คิวถัดไปเป็นค่ายไหน คงติดตามกันต่อไป เมื่อผู้เล่นในตลาดยังไม่มาก คาดว่าน่าจะเห็นรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกไม่มากก็น้อย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 02-09-2558
|
|
|
|
|
