Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
โจทย์หิน "รีเจ็กต์เรต" พุ่ง (3) "สัมมากร-ออริจิ้น" ชี้ดาวน์ต่ำเสี่ยงสูง |
|
<p class="scatter">ทำเลบางใหญ่ รอรถไฟฟ้าสีม่วง คอนโดฯเปิดเยอะ รายใหญ่ลงทุนก็แยะ แข่งขันสูง เรียกเงินดาวน์ต่ำแค่ 5% กดดันตอนโอนเพราะวงเงินกู้สูงขึ้น</p> <p>
<font face="Tahoma," size="3">ยอดปฏิเสธสินเชื่อหรือ
<b>"รีเจ็กต์เรต-Reject Rate"</b> ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อช้าลง
ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมมากขึ้น "ประชาชาติธุรกิจ"
เกาะติดความเคลื่อนไหวการปรับตัวของผู้ประกอบการเพื่อรับมือในช่วงครึ่งปีหลังนี้
<br><br><b>ล่าสุดเป็นคิวของผู้ประกอบการที่พัฒนาคอนโดฯทำเลแนวรถไฟฟ้า 2 สาย
มีทั้งสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปทางแบริ่งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯตะวันออก และวกกลับมาดูสายสีม่วง
(บางซื่อ-บางใหญ่) ที่แม้จะมีข่าวว่าเลื่อนเปิดบริการออกไปอีก 6 เดือน
แต่ดูเหมือนยังเป็นทำเลที่อยู่ในใจผู้บริโภค
เพราะเป็นรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เปิดบริการเร็วที่สุด</b><br><b><br>"กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา"</b>
กรรมการผู้จัดการ <b>บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)</b> ซึ่งเมื่อปี 2556
เพิ่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัท แบรนด์ <b>"S9"</b> ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท
ทำเลบางใหญ่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ผ่านมาเกือบ 2 ปีความคืบหน้าการก่อสร้างแล้วเสร็จกำลังจะเริ่มโอน
กล่าวยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าต้อง <b>"ทำใจ"</b> สำหรับอัตราปฏิเสธสินเชื่อที่น่าจะสูงถึง 35%
ทำให้ยอดขายคอนโดฯ S9 ที่เป็นยอดพรีเซล 800 ล้านบาท
แนวโน้มน่าจะเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์หรือรับรู้รายได้จริงเพียง 500
ล้านบาท<br><br><i>"เราคาดการณ์ไว้ว่ารีเจ็กต์เรตจะสูงถึง 35% เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มอ่อนไหว
มีหนี้บัตรเครดิตและรถยนต์คันแรกอยู่มาก
และสถาบันการเงินเองก็เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเพราะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง"</i><br><br>ทั้งนี้ทั้งนั้นถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจเพราะสัมมากรเข้ามาแข่งขันคอนโดฯในตลาดที่ถือว่าเป็นเรดโอเชี่ยนมีการแข่งขันสูงเพราะทำเลบางใหญ่มีผู้เล่นระดับบิ๊กแบรนด์กระจุกตัวหลายราย
ที่สำคัญเลือกใช้กลยุทธ์สุดโหดด้วยการตั้งจำนวนเงินดาวน์ไว้เพียง 5%
กดดันให้สัมมากรต้องกดวงเงินดาวน์คอนโดฯ S9 ไว้ที่ 5% เหมือนกัน<br><br><b>"คุณตรี-กิตติพล"</b>
เปิดกลยุทธ์รับมือลูกค้ากู้ไม่ผ่านว่า
แพตเทิร์นยังเป็นการให้พรีแอปพรูฟกับธนาคารเพื่อบริษัทจะได้มีเวลาเตรียมการแก้ปัญหาหรือช่วยเหลือได้ทัน
เช่น แนะนำวิธีเพิ่มหลักฐานทางการเงิน หาผู้กู้ร่วม
ตลอดจนให้ลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์เพื่อกดยอดขอกู้เหลือน้อยลง โอกาสกู้ผ่านจะมีมากขึ้น <br><br>อย่างไรก็ตาม
พอร์ตใหญ่ของสัมมากรยังเป็นรายได้หลักจากโครงการแนวราบ
โดยอัตราปฏิเสธสินเชื่อโปรดักต์กลุ่มนี้มีแนวโน้มที่ดี เพราะลดลงจาก 25% เมื่อปลายปี 2557
ปัจจุบันเหลือเพียง 22-23% แต่ในฐานะนักบริหาร
<b>"กิตติพลมองว่าไม่น่าไว้วางใจ"<br></b><br><i>"ถือว่ายังวางใจไม่ได้
เพราะยังมองไม่เห็นว่าเป็นช่วงปรับลดลงระยะสั้น ๆ หรือเข้าสู่เทรนด์ขาลงแล้วแน่นอน"<br></i><br>อีกค่าย
<b>"พีระพงศ์ จรูญเอก"</b> ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร <b>บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
(มหาชน)</b> น้องใหม่มาแรงที่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 กล่าวอย่างพกความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า บริษัท<b>
"ไม่กังวล"</b> กับประเด็นลูกค้ากู้ไม่ผ่าน เพราะอัตราปฏิเสธสินเชื่อของออริจิ้นมีเพียง 5-10%
ต่ำกว่าตลาดที่มองว่ามีประมาณ 15% เนื่องจากมีการขายเก็งกำไรสูง
โดยจับจุดสังเกตจากโปรโมชั่นคู่แข่งขันที่เน้นดึงดูดนักลงทุน และอัตราเงินดาวน์กำหนดที่ 8-10%
แต่ออริจิ้นวางไว้สูง 12-15%
ทำให้มั่นใจว่าปัญหาลูกค้าเก็งกำไรมีน้อยลง<br><br><b>"ออริจิ้นไม่เน้นเร่งปิดการขาย แต่เน้นสกรีนลูกค้า
สำรวจฐานรายได้ลูกค้าว่ากำลังซื้อเข้าถึงได้จริงหรือไม่
ดังนั้นจังหวะการขายมักจะทำได้เยอะหรือมาแรงช่วงโครงการก่อสร้างใกล้เสร็จ
พฤติกรรมลูกค้าที่เห็นมักเยี่ยมชมโครงการอย่างน้อย 1.5 ครั้ง ครั้งละหลายชั่วโมง
จึงจะตัดสินใจซื้อ"<br></b><br>"พีระพงศ์" มองบวกด้วยว่า
<i>ปัจจัยบวกยังมาจากออริจิ้นมีโครงการส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯทำเลบางนา เกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคา 1-3
ล้านบาท เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เพิ่งเริ่มทำงานไม่เกิน 5 ปี เป็นพนักงานบริษัทมีรายได้ประจำ
มีพฤติกรรมเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์ <br></i><br><b>ทำให้มีปัญหาหนี้รถคันแรกน้อย
เครดิตลูกค้าจึงดีกว่าโดยทั่วไปในตลาด |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-08-2558
|
|
|
|
|