Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
โจทย์หิน "รีเจ็กต์เรต" พุ่ง (2) "โกลด์-เนอวานา" อุ้มลูกค้าทาวน์เฮาส์ |
|
ยอดปฏิเสธสินเชื่อหรือ "รีเจ็กต์เรต-Reject Rate" ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อช้าลง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยสำรวจพบว่ายอดรีเจ็กต์เรตมีตั้งแต่ 5-35% "ประชาชาติธุรกิจ" เกาะติดความเคลื่อนไหวการปรับตัวของผู้ประกอบการเพื่อรับมือในช่วงครึ่งปีหลังนี้
โฟกัสที่ตลาดทาวน์เฮาส์"ภวรัญชน์ อุดมศิริ" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ กรุ๊ป ในเครือโกลเด้นแลนด์ ยอมรับว่า ปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านในตลาดทาวน์โฮมราคา 2-5 ล้านบาทมีถึง 30-35% มองว่าเกิดจากลูกค้ามีหนี้เดิมจำนวนมาก ทั้งจากบัตรเครดิตและหนี้รถคันแรก บางรายมีชื่อติดบัญชีดำเครดิตบูโรโดยไม่รู้ตัว หรือมีการเซ็นค้ำประกันไว้ให้บุคคลอื่น ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) ในอัตราสูง ลูกค้าจึงกู้ไม่ผ่าน
วิธีแก้ปัญหาของบริษัท มองว่าลูกค้าเหล่านี้มีความต้องการซื้ออยู่จริงหรือเรียลดีมานด์ ก็จะพยายามช่วยแก้ปัญหาให้คำแนะนำทางการเงิน ยืดระยะเวลาผ่อนดาวน์สูงสุด 6 เดือน รวมทั้งให้ลูกค้าเปลี่ยนยูนิตที่จองโซนด้านหน้าโครงการ ขยับไปเป็นโซนด้านในซึ่งการก่อสร้างช้ากว่า เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาเพิ่มเพื่อจัดการหนี้สินเดิมได้ก่อนถึงวันโอน
ทั้งนี้ สินค้าโครงการแนวราบไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ใช้เวลาก่อสร้างและโอนน้อยกว่าโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม จึงมีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหา เช่น ทาวน์โฮม สามารถสร้างเสร็จใน 4 เดือน ขณะที่ผลการพิจารณาอนุมัติให้กู้ของธนาคารมีอายุ 3 เดือน ดังนั้นหากลูกค้าจองซื้อแล้วเดินเรื่องขอกู้ต่อเนื่อง บริษัทจะทราบทันทีว่าลูกค้ากู้ผ่านหรือไม่ หากกู้ผ่านผลการอนุมัติสินเชื่อจะยังมีผลอยู่จนถึงวันโอน แต่ถ้าไม่ผ่านบริษัทสามารถเข้าช่วยแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
ต่างกับโครงการแนวสูงที่ใช้เวลาก่อสร้างจนกว่าจะโอน12-15 เดือน เปิดช่องให้ลูกค้ามีโอกาสก่อหนี้เพิ่มในช่วงผ่อนเงินดาวน์ นำไปสู่สภาพปัญหาที่ยังเห็นยอดพรีเซลหรือยอดจองซื้อ 100% แต่การโอนอาจสำเร็จเพียง 70% เป็นต้น
อีกราย "ศรศักดิ์ สมวัฒนา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด พันธมิตรร่วมทุนกับ บมจ.สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า สำหรับเนอวานาฯ กลุ่มสินค้าที่มีปัญหากู้ไม่ผ่านมากที่สุดคือทาวน์โฮมราคา 2.7 ล้านบาท มีสัดส่วนถูกปฏิเสธสินเชื่อ 10% ในขณะที่ภาพรวม ทั้งบริษัทมีปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านน้อยมาก เฉลี่ยเพียง 2% เพราะเนอวานาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้ ซึ่งราคาสูงกว่า 12 ล้านบาท/ยูนิต แม้ว่าลูกค้าระดับบนจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมเน้นใช้เงินสด ตอนหลังหันมากู้ซื้อบางส่วน แต่อัตราปฏิเสธสินเชื่อไม่สูงแต่อย่างใด
"เศรษฐกิจตกต่ำ ธนาคารเข้มงวดสินเชื่อไม่มีผลต่อตลาดบนในแง่อัตราปฏิเสธสินเชื่อ เพียงแต่ทำให้การตัดสินใจซื้อช้าลงเท่านั้น เช่น เดิมลูกค้าเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง 2 ครั้งก็ตัดสินใจซื้อ ปัจจุบันจะเพิ่มการวิสิตไซต์เป็น 3.5-4 ครั้ง สภาวะเช่นนี้มีผลต่อตลาดกลางคือบ้านเดี่ยวราคา 6-12 ล้านบาทมากที่สุด เพราะความเชื่อมั่นต่อรายได้ในอนาคตของลูกค้าสั่นคลอน"
มุมมองยังรวมถึงแนวโน้มสภาพตลาดค่อนข้างโอเวอร์ซัพพลายการขายจะยากกว่า ทำให้เนอวานายังไม่เปิดโครงการเจาะตลาดระดับกลางเพิ่มในระยะนี้ เพราะกำลังซื้อที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 04-08-2558
|
|
|
|
|