| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 55 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 22-07-2558    อ่าน 1231
 ฟันธงอสังหากินบุญเก่า ประเมิน15บริษัทยอดโต2ปีซ้อน-ครึ่งปีหลังแข่งเดือดตุนพรีเซล

โหรอสังหาฯ "เอเซีย พลัส" ฟันธง เศรษฐกิจตกต่ำไม่ระคายบิ๊กแบรนด์ 15 บริษัทพัฒนาที่ดิน เจาะแผนธุรกิจเป้ากำไรมีแนวโน้มโต 2 ปีติดต่อกัน "2558-2559" เหตุจากกินบุญเก่าทำยอดพรีเซลระเบิดเถิดเทิงในอดีต ครึ่งปีหลังวัดดวงแข่งขันตุนยอดขายใหม่ ชี้กลุ่มกำลังซื้อกลาง-ล่างน่าห่วงสุด เพราะเจอสารพัดปัจจัยกดดันทั้งหนี้ครัวเรือน-บัตรเครดิต-รถคันแรก

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ครึ่งปีแรก 2558 สถานการณ์บริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 15 ราย พบว่า การเปิดตัวโครงการใหม่ยังทำไม่เต็มที่ เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจภาพรวมที่ชะลอตัว แนวโน้มการทำรายได้จะไปอยู่ช่วงครึ่งปีหลัง จากแผนธุรกิจปีนี้ที่จะมีการเปิดตัวใหม่มูลค่ารวมประมาณ 3.5 แสนล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วมีการเปิดตัวใหม่ 2.5 แสนล้านบาท

รายละเอียด 15 บริษัทมหาชน ได้แก่ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์), แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN, เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์, มั่นคงเคหะการ,อนันดา ดีเวลลอปเมนท์, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, ปริญสิริ, พฤกษา เรียลเอสเตท, ควอลิตี้เฮ้าส์, ไรมอนแลนด์, เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC, เสนา ดีเวลลอปเม้นท์, แสนสิริ และศุภาลัย

ตลาดกลาง-บนราบรื่น

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/58 จะมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 15 ส.ค.นี้ ในขณะที่ตัวเลขไตรมาส 1/58 ยอดพรีเซล 15 ราย รวมกัน 56,295 ล้านบาท โดยค่ายพฤกษาฯครองส่วนแบ่ง 22% รองลงมาคือ อนันดาฯ 17% แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 10% ควอลิตี้เฮ้าส์ 9% เอพี (ไทยแลนด์) 8% แสนสิริ ศุภาลัย LPN มีส่วนแบ่งรายละ 6% เท่ากัน ที่เหลืออีก 9 รายรวมกัน 16%

ในด้านแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอน) ณ สิ้นไตรมาส 1/58 มีตัวเลขรวมกัน 245,162 ล้านบาท พบว่า บริษัทที่มีสัดส่วนแบ็กล็อกสูงสุดคือ พฤกษาฯ 16% รองลงมาคือ ศุภาลัย 15% อนันดาฯและแสนสิริ เท่ากันรายละ 14% LPN กับแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เท่ากันรายละ 8% เอพี (ไทยแลนด์) 5% ควอลิตี้เฮ้าส์ 4% ที่เหลือ 9 รายรวมกัน16% โดยสังเกตว่าปีนี้ บ.อนันดาฯมีผลงานมาแรง แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ทั้งในส่วนแบ็กล็อกและยอดพรีเซล

"แนวโน้มครึ่งปีหลัง ยอดพรีเซลจะดีกว่าครึ่งปีแรก เซ็กเมนต์ที่ไปได้ดีคือตลาดกลาง-บน เซ็กเมนต์ที่น่าเป็นห่วงคือตลาดกลาง-ล่าง สินค้าบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตลาดกลาง-ล่างเป็นกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตลาดกลาง-บนราคา 5 ล้านขึ้นไป คอนโดมิเนียมแบ่งตามราคาขายต่อ ตร.ม. ตลาดล่างคือต่ำกว่า ตร.ม.ละ 1 แสนบาท ตลาดบน 2 แสนบาทขึ้นไป และตลาดกลาง ๆ ตร.ม.ละ 1-1.5 แสนบาท"



ครึ่งปีหลังห่วงกลุ่มกลาง-ล่าง

นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า ยอดแบ็กล็อก 2 แสนกว่าล้าน แบ่งเป็นคอนโดฯ 93% บ้านแนวราบ 7% เมื่อโฟกัสยอดแบ็กล็อกคอนโดฯที่จะทยอยโอนรายไตรมาสในปีนี้ พบว่า ไตรมาส 1/58 มีจำนวน 8,791 ล้านบาท ไตรมาส 2/58 จำนวน 31,232 ล้านบาท ไตรมาส 3/58 จำนวน 18,153 ล้านบาท และไตรมาส 4/58 จำนวน 32,326 ล้านบาท จะเห็นว่าไตรมาส 2 กับ 4 มียอดรอโอนสูงสุด แต่เนื่องจากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 มีบางส่วนที่แล้วเสร็จปลายไตรมาส ทำให้ยอดโอนถูกขยับออกไปเป็นตัวเลขโอนของครึ่งปีหลังแทน

ในด้านปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลังมองว่า อยู่ที่กำลังซื้อจะฟื้นตัวได้แค่ไหน เนื่องจากเศรษฐกิจภาพรวมฟื้นช้ากว่าที่คาดการณ์ ซัพพลายบ้านและคอนโดฯเปิดตัวใหม่จะเข้ามาเติมตลาดปริมาณมาก เนื่องจากบางส่วนถูกชะลอการเปิดตัวในครึ่งปีแรก ในขณะที่กลุ่มกำลังซื้อน่าเป็นห่วงคือ ตลาดกลาง-ล่างอาจจะมีปัญหา เนื่องจากมีแรงกดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้บัตรเครดิต หนี้รถคันแรก รวมถึงปัญหามียอดปฏิเสธสินเชื่อในปริมาณสูง 20-30% ในปัจจุบัน

"รีเจ็กต์เรตมองว่าไม่ได้สูงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี"57 ทางดีเวลอปเปอร์มีการบริหารจัดการภายใน เช่น ทำพรีแอปพรูฟก่อนจองก่อนโอน ตัวโปรดักต์ก็ทำเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายหรือสร้างเกือบเสร็จ ทำให้มีเวลารับโอนสั้น ๆ ไม่ทันได้ไปก่อหนี้ใหม่ ก็ช่วยลดรีเจ็กต์เรตไปได้ แต่เป็นการลดจากบริษัทช่วยตัวเอง ไม่ได้ลดลงจากตลาดรวม เพราะต้นทางอยู่ที่สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ ถ้าจะแก้ปัญหานี้ต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น"

คาดฟันกำไรยาวปี′58-59

สำหรับแนวโน้มปีนี้ทั้งปีนายเทิดศักดิ์ประเมินว่าผลประกอบการธุรกิจอสังหาฯยังมีปัจจัยบวกจากแบ็กล็อกที่ทำยอดขายไว้เมื่อ2 ปีที่แล้ว ทำให้ปีนี้คาดว่าทั้ง 15 รายสามารถทำกำไรรวมกัน 36,608 ล้านบาท เทียบกับปี′57 ที่มีกำไรรวมกัน 34,725 ล้านบาท แบ็กล็อกยังหนุนส่งถึงความสามารถทำกำไรปี 2559 ที่คาดว่าจะมีตัวเลขรวมกัน 38,448 ล้านบาท

ในฝั่งกรอสมาร์จิ้นปีนี้กับปีหน้าคาดว่าใกล้กัน อยู่ที่ 33-34% กำไรสุทธิหรือเน็ตมาร์จิ้นอยู่ที่ 14% โดยประมาณ ความแข็งแกร่งด้านการเงินก็สูงเพราะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 1 เท่า

อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจที่ต้องจับตาคือการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยปีนี้ 15 บริษัทประกาศแผนลงทุนโครงการแนวราบรวมกัน 175,693 ล้านบาท คอนโดฯ 177,736 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวแนวราบ 150,416 ล้านบาท คอนโดฯ106,120 ล้านบาท จุดที่น่าจับตาคือครึ่งปีหลัง2558 ซัพพลายที่จะหลั่งไหลออกมา ต้องมีลุ้นกันว่ายอดพรีเซลจะเดินได้ดีหรือไม่ เพราะจะเป็นตัวบ่งบอกอนาคต หรือเป็นแบ็กล็อกรอโอนในปี 2560

"ผลประกอบการอสังหาฯไม่ได้สวนกระแสเศรษฐกิจภาพรวม แต่เป็นเพราะธรรมชาติธุรกิจเมื่อขายแล้วสินค้าดีเลย์ในการส่งมอบเพราะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อน แบ็กล็อกจึงเป็นตัวทำกำไรให้โต แต่สถานการณ์ครึ่งปีหลังนี้ถามว่ายอดขายใหม่หรือยอดพรีเซลจะทำให้โตต่อเนื่องได้ไหม ผมมองว่ายอดจองใหม่ยังน่าเป็นห่วง ผู้ประกอบการรายใหญ่คงต้องช่วยกันประเมิน ลงทุนต้องดูจังหวะเวลาและเศรษฐกิจด้วย อย่ามั่นใจจนแข่งขันกันแบบไม่สนใจใคร เพราะสุดท้ายคงไม่มีใครชนะทุกคน" นายเทิดศักดิ์กล่าว
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-07-2558 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.