|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ยกแรกสำรวจบ้านทรุด100หลัง สคบ.ไกล่เกลี่ยบริษัท-ผู้บริโภค |
|
วสท.ยกทีมลงพื้นที่สำรวจปัญหาบ้านทรุด "บ้านกลางกรุง" แนะผู้ประกอบการทิ้งระยะดินเซตตัวก่อนก่อสร้าง "สคบ." รับไกล่เกลี่ย-ยังไม่มีการฟ้องร้อง เอพีแจงดูแลตลอด-บ้านมีมาตรฐาน
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบประเมินเบื้องต้นโครงการบ้านกลางกรุง เดอะ รอยัลเวียนนา รัชวิภา ของ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เมื่อ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่เป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท ทั้งหมด 330 หลัง มีบ้านที่ได้รับความเสียหายกว่า 130 หลัง
ลักษณะปัญหาพื้นบ้านทรุดตัว โดยเฉพาะพื้นปูนที่เป็นลานจอดรถหน้าบ้านและพื้นหลังบ้านที่ทรุดแยกออกจากตัวบ้าน บางแห่งพบทรุดตัวลึกกว่า 1 เมตร ถือว่ามากเกินปกติ สำหรับโครงสร้างส่วนที่พักอาศัยยังมีความปลอดภัย เสาเข็มยังสามารถรองรับตัวอาคารได้ จึงขอให้เป็นอุทาหรณ์ในการสร้างหมู่บ้านว่าหากผู้ประกอบการมีแลนด์แบงก์ในมือ ควรจะถมดินและบีบอัดระยะหนึ่งก่อนจึงเริ่มก่อสร้าง เพราะหากมีฐานรากแข็งแรงจะสร้างบ้านเร็วแค่ไหนก็ไม่มีผลกระทบ
ประชาชนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อบ้าน ขอให้สำรวจรอบบริเวณโครงการว่าเป็นที่นาหรือบึงน้ำหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นก็มีความเสี่ยงของโครงการเพิ่มขึ้น และดูการรับประกันโครงการของบริษัทด้วยว่ามีระยะกี่ปี
ส่วนการแก้ไขการทรุดเอียง จะต้องใช้เครื่องมือกล้องวัดระดับการทรุดเก็บข้อมูล 3-6 เดือน เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่นี้มีอัตราการทรุดตัวระดับปกติหรือยัง และใช้เครื่องมือขุดเจาะว่าชั้นดินเป็นดินประเภทไหนจึงจะสามารถแก้ไขถาวรได้ มิฉะนั้นแม้จะลงทุนตอกเสาเข็มบริเวณลานจอดรถ ลานจอดรถก็จะแยกตัวออกจากถนนหน้าบ้านที่ทรุดลงอีก และขอให้งดการถมดินก่อนเพราะน้ำหนักของดินที่ถมอาจกดทับให้ที่ดินทรุดตัวเร็วขึ้น
นายนิรุตต์ ศรีไกรวิน หัวหน้าฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สคบ.ลงพื้นที่ตรวจสอบ 2-3 ครั้งแล้ว ขั้นตอนจากนี้จะนำข้อมูลทุกฝ่ายมาสรุปร่วมกันและเป็นคนกลางตกลงไกล่เกลี่ย เนื่องจากเห็นว่าไม่ต้องการให้ไปถึงขั้นตอนฟ้องร้องเพราะใช้เวลานานกว่าลูกบ้านจะได้รับประโยชน์
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวกับ"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เอพีดูแลโครงการบ้านกลางกรุง เดอะรอยัลเวียนนามาโดยตลอด ขณะนี้รอให้ สคบ.เป็นหน่วยงานกลางเข้ามาประสานเพื่อสรุปผลว่าควรมีการแก้ไขทางวิศวกรรมอย่างไร เพราะลูกค้าบางส่วนอาจไม่มั่นใจเอพีแต่ยืนยันว่าบริษัทสร้างบ้านให้ได้มาตรฐานอยู่แล้ว
ข้อมูลจากเอพีรายงานว่า โครงการบ้านกลางกรุง เดอะรอยัลเวียนนา มีการโอนหลังแรกเมื่อปี 2549 เมื่อส่งวิศวกรเอพีเข้าตรวจสอบ พบการทรุดตัวที่เกิน 10 ซม. จำนวน 41 หลัง ซึ่งเอพีให้ลูกบ้านเลือกระหว่างเอพีจัดซ่อมให้หรือจัดจ้างช่างซ่อมเองก็ได้ โดยเอพีจะออกค่าใช้จ่ายให้ 70% ลูกบ้านออกค่าใช้จ่ายเอง 30% ซึ่งมีลูกบ้านยอมรับเงื่อนไขและซ่อมบ้านแล้ว 33 ราย
"ยอมรับว่ามีผลกระทบเยอะมากกับแบรนด์เรา เราก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่ มีการพูดคุยติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา บ้านไหนตกลงกันได้เราก็ซ่อมให้เลย แต่ก็มีคนที่เขายังไม่มั่นใจ เขาอยากได้ความแน่นอนจากคนกลางและตัดสินใจรออยู่"นายวิทการกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-07-2558
|
|
|
|
|
