| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 231 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 09-06-2558    อ่าน 1400
 ดึงเศรษฐีเรือยอชต์ลงทุน เนรมิตไทย"มารีน่าอาเซียน"

ดึงต่างชาติลงทุน ปั้นไทยศูนย์กลาง "มารีน่า อาเซียน" ผุด 10 ท่าเรือใหม่ ต่อยอดนโยบาย "บิ๊กตู่" เมืองท่องเที่ยวปลอดภาษีเต็มรูปแบบ เชิญเศรษฐีทั่วโลกร่วมงานแสดงเรือยอชต์ที่ภูเก็ตธันวาฯนี้

หลังจากรัฐบาลประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่หนึ่งไปแล้ว ในระยะต่อไปจะพัฒนา "เขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยว" เต็มรูปแบบ ตั้งเป้าจะพัฒนา จ.ภูเก็ต เป็นเมืองปลอดภาษีอย่างเป็นระบบ เพราะมีความพร้อมทั้งด้านท่าเรือ และสนามบิน โดยรัฐบาลจะให้สิทธิพิเศษสูงสุดในการส่งเสริมการลงทุน และได้สิทธิในการลดภาษีนิติบุคคล 10% นอกจากนี้จะพัฒนาเมืองท่องเที่ยวที่มีท่าเรือ ให้เป็นจุดจอดเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ เป็น "เขตเศรษฐกิจมารีน่า" ด้วย

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) เร่งทำข้อมูลแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan โครงการจัดงานแสดงเรือยอชต์ (YACHT) ที่ จ.ภูเก็ต ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน เพื่อจัดแสดงตามแผนในเดือนธันวาคม 2558 โดยจะมีการติดต่อกลุ่มเรือยอชต์จากกลุ่มประเทศต่าง ๆ เช่น กลุ่มสแกนดิเนเวีย รัสเซีย เอเชีย และพื้นที่จะสามารถจอดเรือได้กี่ลำ จากนั้นประมาณกลางเดือนกรกฎาคมจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการ เพื่อจัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

"การจัดงานแสดงเรือยอชต์จะเพิ่มโอกาสอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของไทย เพราะเป็นการดึงคนจากทั่วโลกมาท่องเที่ยว รวมถึงเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมดูแลการรักษาเรือยอชต์ในไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะโดดเด่นขึ้น และต่อไปจะจัดทุกปี ขณะเดียวกันจะเริ่มฝึกอบรมบุคลากรในการดูแลเทคโนโลยี การบำรุงรักษาทางเรือ เพราะต่อไปเมื่อดึงเรือมาจอดในเมืองไทยแล้ว จะจอดอยู่ยาวเพื่อให้บริการและให้คนเช่า หรือใช้บริการในการท่องเที่ยวทางทะเล" รมว.คมนาคมกล่าว

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แผนการจัดงานแสดงเรือยอชต์ ในเบื้องต้นกำหนดจะจัดงานระหว่างวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ถึงวันที่ 31 มกราคม 2559 ที่ จ.ภูเก็ต ส่วนสถานที่จัดงานอยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่จากผู้ประกอบการมารีน่าในพื้นที่ ทั้ง 4 บริษัท มาช่วยดำเนินการร่วมด้วย

โดยกรมเจ้าท่าจะทำราย ละเอียดเรื่องด้านเทคนิค และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์ดึงนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และเจ้าของเรือยอชต์ มาร่วมงานคล้ายกับงานเอ็กซ์โป คาดว่าจะใช้งบฯจัดงานกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวทางน้ำ รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมการต่อเรือ ซ่อมเรือ ชิ้นส่วนและอะไหล่เรือ ธุรกิจการประกันภัย เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในงานจะจัดนิทรรศการแสดงความพร้อมของรัฐบาลในการศึกษาจุดเหมาะสมในการ พัฒนามารีน่าในประเทศไทย ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน หากมีการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุนและท่องเที่ยวของประเทศได้จากการจัดเก็บ ค่าจอดเรือและรายได้อื่น ๆ

"แต่ปัจจุบันมีปัญหาอุปสรรคด้านกฎหมาย ระยะเวลาพำนักในประเทศและระยะเวลาเก็บเรือในประเทศ การแจ้งเรือเข้า-ออก การจดทะเบียนเรือไทย การทำการค้าในน่านน้ำไทย ซึ่งจะต้องแก้ไขเพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาได้ จึงต้องนำเสนอ ครม.พิจารณาพร้อมกับการจัดงานเรือยอชต์ปลายปีนี้ด้วย"

นายจุฬากล่าว อีกว่า เป้าหมายคือจะดึงนักลงทุนต่างประเทศทำธุรกิจเรือยอชต์จากทั่วโลกมาลงทุน เช่น ยุโรป ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยอาจจะมาร่วมกับผู้ประกอบการไทยก็ได้ เนื่องจากรัฐบาลมองว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตและมีกำลังซื้อสูงในขณะนี้ และยังมีความต้องการอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีท่าเรือมารีน่า จำนวน 11 แห่ง ฝั่งทะเลอันดามัน 6 แห่ง อ่าวไทย 5 แห่ง กระจายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ ตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งยังไม่เพียงพอ

"ขณะนี้มีเรือยอชต์เข้ามาในไทยประมาณปีละ 1,600 ลำ ส่วนใหญ่จะจอดลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งท่าเรือ 11 แห่งที่เรามีไม่เพียงพอ จะต้องสร้างเพิ่ม จึงต้องอาศัยเน็ตเวิร์กจากต่างประเทศเข้ามา เพราะมีเงินลงทุนมาก สามารถนำเรือขนาดใหญ่ ๆ เข้ามาได้"

นายจุฬากล่าวว่า อีก 6 เดือนหรือประมาณตุลาคม 2558 จะมีความชัดเจนว่าเมืองไทยจะเลือกพัฒนามารีน่าที่จุดใดบ้าง โดยรูปแบบการลงทุนจะให้เอกชนมาลงทุนพัฒนาทั้งหมด ทั้งจัดหาพื้นที่และก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างแห่งละประมาณ 200 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดท่าเรือ เช่น เรือยอชต์ หรือซูเปอร์ยอชต์ โดยจะไม่รวมค่าที่ดินที่เอกชนต้องจัดหาเอง อาจจะเป็นการเช่าระยะยาวหรือซื้อ ซึ่งกรมเจ้าท่าจะช่วยดูเรื่องพื้นที่ชายฝั่งทะเลว่าบริเวณไหนที่ เหมาะสม รวมทั้งจะช่วยลงทุนระบบสาธารณูปโภค "การพัฒนาจะเป็นรูปแบบเขตเศรษฐกิจมารีน่า จะมีการส่งเสริมการลงทุนเหมือนเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เช่น ยกเว้นภาษีนำเข้า เพราะในโครงการจะมีอู่ซ่อมเรือด้วย ระบบวีซ่าเข้า-ออก เป็นต้น เนื่องจากมารีน่าจะไม่ใช้แค่พัฒนาท่าเรือ จะมีการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้วย เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ โรงแรม จุดท่องเที่ยว พื้นที่ค้าขาย"

นายจุฬา กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่เป้าหมายจะเป็นชายทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเบื้องต้นกำหนด ไว้ประมาณ 10 แห่ง เช่น สมุย กระบี่ พังงา เกาะพีพี เกาะกูด เกาะช้าง หัวหิน เป็นต้น โดยพื้นที่นำร่องที่น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่สุด คือที่เกาะสมุย หากได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ว่าจะมีเอกชนรายใดมาลงทุน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2559 เป็นต้นไป

ดร.กฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หากรัฐบาลลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษมารีน่า และท่าเรือยอชต์ขนาดใหญ่ใน จ.ภูเก็ต จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามันมาก ซึ่งในขณะนี้ จ.ภูเก็ตมีท่าเรือ 5 แห่ง สามารถสร้างรายได้สูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท/ปี คาดว่าหากมีเขตมารีน่าแห่งใหม่ จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาท่องเที่ยว ดันรายได้สูงขึ้นอีก 10 เท่า จากปัจจุบันภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.4 แสนล้าน/ปี
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 09-06-2558 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.