|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ทีเด็ด "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" บุกเบิกโซลาร์รูฟท็อปในหมู่บ้านจัดสรร |
|
สัมภาษณ์พิเศษ
งานเซ็นสัญญาขั้วพันธมิตรข้ามวงการ "บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์-บี.กริม พาวเวอร์" เมื่อ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการเปิดตัวร่วมลงทุนธุรกิจโซลาร์ฟาร์มด้วยกันแล้ว กล่าวได้ว่าถือเป็นครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีติดตั้ง "โซลาร์รูฟท็อป" หรือแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านในโครงการจัดสรร "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "อ.ยุ้ย-รศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" กรรมการบริหารค่ายเสนาฯ ถึงแรงบันดาลใจและเป้าหมายการพัฒนาโครงการในอนาคต
- แรงบันดาลใจ
มาจากน้ำท่วมใหญ่ปี"54 ที่เราต้องลงไปช่วยเหลือลูกบ้านในเครือเสนาฯ 40 กว่าวัน จุดประกายว่าเวลาเกิดภัยธรรมชาติอะไรใหญ่ ๆ ขึ้นมาทำให้ลำบากกันมาก ดังนั้นการที่เราจะทำเรื่องอนุรักษ์พลังงานมากที่สุดก็ต้องเริ่มจากหน่วยเล็ก ๆ ซึ่งก็คือบ้าน ยิ่งเราเป็นคนทำบ้านขายด้วย สามารถใส่ฟังก์ชั่นเข้าไปในการออกแบบได้ นี่คือแรงบันดาลใจ
มีการนำหมู่บ้านเสนาปาร์คแกรนด์ร่วมวิจัยกับ ม.เกษตรฯ ให้พัฒนาบ้านแนวรักษ์โลก เขาก็นำเสนอหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือเสนอให้ทำเรื่องพลังงานทดแทนหรือโซลาร์ด้วย แต่ตอนที่ริเริ่มยังเป็นเรื่องใหม่มากของกรุงเทพฯ มีการทำโฟกัสกรุ๊ปถ้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ลูกค้าจะซื้อหรือเปล่า
ปรากฏว่าถาม 15 คน...รู้จักโซลาร์น้อยมาก เวลาเราแนะนำไปก่อให้เกิดคำถามมากมาย คนไม่รู้จัก กังวลเพราะไม่เคยมีใครติดตั้งให้มาก่อน ถ้าคำถามเยอะขนาดนั้น ราคาก็แพงมาก ทำให้เรามองว่ายังไม่ถึงเวลา จึงเริ่มต้นจากทำบ้านสมาร์ท ทำหมู่บ้านให้เขียวก่อน (กรีนคอนเซ็ปต์) ต่อมารอแผงโซลาร์ราคาถูกลง ช่วง 3-4 ปีราคาลดเกือบ 20% ต่อปี ก็เห็นว่าราคาน่าจะใกล้ได้แล้ว
อีกส่วนคือปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐส่งเสริมพลังงานทดแทน มี 3 ระดับคือ โซลาร์ฟาร์ม ต้องขายรัฐได้ (มีโควตา) เราแอปพลายด้วยการจับมือกับเจ้าใหญ่, ระดับอุตสาหกรรม เราก็ทำแล้วมีการติดตั้งในแวร์เฮาส์ของบริษัท และระดับที่อยู่อาศัยหรือบ้าน ต้องบอกว่ารัฐส่งเสริมมากที่สุดเพราะให้ราคา (รับซื้อไฟ) ดีที่สุด
ยุ้ยมองเป็นโอกาส ถ้า (เจ้าของบ้าน) ติดตั้งเองก็ยุ่งไป จะเป็นห่วงว่าหลังคาจะเป็นยังไง ใบรับประกันหลังคา ใบรับประกันโซลาร์จะเชื่อมกันไหม มีหลายสิ่งที่คนธรรมดา ๆ ขี้เกียจคิด ต้องมีคนทำให้ และยังต้องดูเรื่องเซอร์วิส การเงิน มีการแก้ปัญหาให้ด้วย เราทำทั้งหมดอยู่แล้ว
- การขยายผลทางธุรกิจ
ภายในไตรมาส 3 จะเริ่มจากบ้านเดี่ยวของเสนาฯ 3 โครงการ ทำเลศาลายารามอินทรา ลำลูกกา ทำก่อน 70 หลัง ราคาบ้านอยู่ระหว่าง 3-5 ล้านบาท จริง ๆ ก็คือราคา 4 ล้านบวกลบ ถือเป็นลอตสมนาคุณพิเศษ ติดตั้งแบบนำร่องให้เลยโดยไม่คิดราคาเพิ่ม หลังจากนั้นก็จะดูผลตอบรับ ตั้งใจอยากทำไปเรื่อย ๆ เพราะถือเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับตัวบ้านโดยตรง
นอกจากโครงการใหม่ของเสนาฯแล้ว ยังสามารถทำธุรกิจรีเทลซึ่งเป็นตลาดใหญ่มาก เฉพาะบ้านเดี่ยวเราพัฒนาโครงการ 30 กว่าปีมียอดสะสมเป็นหมื่นหลัง เป็นลูกค้าเก่าที่เราสามารถเดินเข้าไปสอบถามความสมัครใจว่าสนใจจะติดตั้งหรือไม่
ส่วนโจทย์ต้นทุน การทำโซลาร์ฟาร์มจะทำให้เราเข้าถึงต้นทุนที่ถูกลง เพราะสั่งแผงโซลาร์ทีละ 8 หมื่น-1 แสนแผง ย่อมได้เปรียบ เราก็คิดว่าจากโครงสร้างราคาวันนี้เราน่าจะทำราคาได้ดีที่สุด
สำหรับเจ้าของบ้าน การลงทุนจะมากหรือน้อยขึ้นกับสเป็ค เช่น ต้องการรายได้ (ขายไฟ) เดือนละ 3 พันบาท ลงทุน 2-9 แสนบาท สัญญาขายไฟยาว 25 ปี จะมีรายได้หักส่วนที่ลงทุนกลับคืนมา 9.9 แสนบาท เรื่องการบำรุงรักษาเมืองไทยมีฝนตกบ่อย จะล้างสะอาดไปในตัว ส่วนด้านการเงินที่จะปล่อยกู้ให้กับผู้สนใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป นอกจากแบงก์กรุงไทยแล้ว ตอนนี้กำลังทยอยคุยกับแบงก์อื่น ๆ
- เป็นแต้มต่ออสังหาฯ
ต้องบอกว่าเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับตัวบ้านมากกว่า แต่ไม่ใช่คีย์ซักเซสที่จะทำให้บ้านขายได้หรือไม่ได้ เรารณรงค์ให้ลูกค้าดูสิ่งสำคัญกับตัวเองก่อน ในเรื่องทำเล ราคา ฟังก์ชั่น ความเชื่อถือผู้ประกอบการ โซลาร์รูฟท็อปจะเป็นส่วนเสริม ส่วนเรื่องต้นทุนจะบวกเพิ่มในราคาขายบ้านหรือไม่นั้น การทำงานคือเปลี่ยนฟังก์ชั่นบ้านมากกว่า บ้านบางรุ่นอยากให้ระบบรักษาความปลอดภัยโดดเด่น บางรุ่นอยากได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่หรือบางรุ่นที่จะนำเสนอโซลาร์รูฟท็อป ดังนั้น สามารถเล่นกับฟังก์ชั่นได้อยู่แล้ว จุดสำคัญคือราคาบ้านเท่าเดิม เพราะถึงยังไงเสนาฯไม่ยอมให้ราคาแพงขึ้น เพราะวงการอสังหาฯแข่งกันเรื่องราคาอยู่แล้ว
- ข้อแนะนำผู้บริโภค
คิดว่าเป็นธุรกิจที่ยากมากกับการที่ทุกคนจะวิน-วิน-วิน-วินขนาดนี้ ยอมรับว่าเราเป็นองค์กรธุรกิจต้องมีกำไรบ้าง แต่โลกก็วินด้วย รัฐก็วิน สำคัญสุดคือผู้บริโภคก็วิน นอกจากได้รักษาสิ่งแวดล้อมยังได้เงินด้วย ยังไม่เคยเห็นเวลาทำธุรกิจแล้วจะมีอะไรวินได้ขนาดนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-06-2558
|
|
|
|
|
