|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ติวเข้มโบรกเกอร์อสังหารับเออีซี หมดยุคจับเสือมือเปล่า |
|
วงการพัฒนาที่ดินที่มีความตื่นเต้นกับการนับถอยหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ดูเหมือนจะเป็นภาคบริการเป็นหลัก นำไปสู่หัวข้อจัดสัมมนาประจำปีสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ "จับตาการขายการตลาดอสังหาฯ ใครดาวรุ่ง ดาวร่วง ?" เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วิทยากรคุณภาพคับแก้วบนเวที สรุปสาระสำคัญดังนี้
ตลาด เช่า มาก่อน ซื้อ
"ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์" ดีเวลอปเปอร์หญิงเหล็กรุ่นเดอะ เรียกว่าไปเวทีไหนก็เจอ เปิดประเด็นว่า การเปลี่ยนแปลงจากเออีซีมองได้ 2 ระยะ โดยระยะสั้น ประเทศไทยจะมีโอกาสการลงทุนในฐานะที่ภูมิศาสตร์ตั้งอยู่กึ่งกลางเออีซี เมื่อนักลงทุนต่างชาติอยากเข้ามาลงทุนจำเป็นต้องศึกษาลู่ทางก่อน ดังนั้นผลกระทบระยะสั้นจึงเป็นตลาดเช่าโดยอัตโนมัติ
ส่วนระยะกลาง คะเนว่าอีก 2-3 ปี มีแนวโน้มที่ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯจะเติบโตอย่างมาก อย่างน้อยที่สุด คอนโดมิเนียมที่ชาวต่างชาติซื้อได้ 49% จะเป็นแรงผลักดันอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม โอกาสทางธุรกิจไม่ได้แข่งขันเฉพาะคนไทยด้วยกัน เนื่องจากจะเห็นกลุ่มทุนต่างชาติ ทั้งสิงคโปร์ จีน (ยังไม่รวมชาติอื่น ๆ) ที่เข้ามาทั้งลงทุนพัฒนาโครงการ และกินรวบไปถึงงานด้านการขายอสังหาฯด้วย
"วิศิษฐ์ คุณาทรกุล" อดีตนายกสมาคมฯ และ ซีอีโอกลุ่มเรียลตี้เวิลด์ กล่าวสอดคล้องกันว่า เออีซีจะเปิดตลาดอสังหาฯปล่อยเช่าให้คึกคักขึ้นมา ความต้องการที่พักให้เช่าไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่สำนักงานให้เช่า ล้วนแต่เป็นดีมานด์ของธุรกิจนายหน้าตัวแทนทั้งสิ้น
ปัญหาโบรกเกอร์ต่างชาติ
"สมศักดิ์ชุติศิลป์"นายกสมาคมคนใหม่หมาด ๆ ระบุว่า แนวโน้มเออีซีที่จะมีความต้องการเช่าอสังหาฯมากขึ้น เป็นทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โอกาสคือจะมีลูกค้ามากขึ้น ขณะที่ฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นนั้นจะถูกแข่งขันด้วยธุรกิจเอเย่นต์จากต่างชาติที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย
สิ่งน่าเป็นห่วงคือโบรกเกอร์ต่างชาติมีความได้เปรียบในเรื่อง"ภาษา-เครือข่าย"เป็น 2 เรื่องหลักที่ผู้ประกอบการคนไทยน่าจะยังขาดแคลน หรือไม่ได้เตรียมความพร้อมรองรับให้มากพอ
"ตอนนี้ถ้ามีนายหน้าหรือตัวแทนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยเขาสามารถประกอบเป็นอาชีพอิสระได้ทันทีหารายได้จากค่าคอมมิสชั่นหรือค่าธรรมเนียมในการซื้อขายและเช่าอสังหาฯในประเทศไทยโดยเสรี แถมมีความได้เปรียบกว่าเพราะมีเครือข่ายเป็นที่รู้จัก"
เร่งสร้างแบรนด์+เครือข่าย
ข้อเท็จจริงแม้ตลาดเช่าอสังหาฯจะมีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติประเด็นอยู่ที่คนไทยมักจะเลือกหาแหล่งเช่าด้วยตนเองขณะที่ลูกค้าต่างชาติมีพฤติกรรมใช้บริการเอเย่นต์เป็นหลัก ดังนั้นในเวลาอันสั้นการตัดสินใจเลือกจึงมักจะเทคะแนนให้กับเอเย่นต์ที่มีแบรนด์ข้ามชาติติดตัวมา เพราะเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้จะเห็นว่าในวงการโบรกเกอร์อสังหาฯเมืองไทยช่วงที่ผ่านมา มีการปรับตัวของผู้ที่มองเห็นโอกาสด้วยการสร้างแบรนด์ หรือสร้างพันธมิตรธุรกิจที่เป็นแบรนด์ต่างประเทศ เพื่อให้วิน-วินด้วยกันทั้งคู่
"พฤติกรรมเอเย่นต์คนไทยยังยึดติดกับการทำธุรกิจแบบตัวคนเดียวทำทุกอย่าง ไม่อยากยุ่งกับใครเพราะไม่อยากแบ่งค่าคอมมิสชั่นกับใคร แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ยุคนี้ต้องสร้างแบรนด์ สร้างเครือข่าย แบ่งค่าคอมมิสชั่นกัน จึงจะทำให้เติบโตไปด้วยกันได้" นายกสมาคมกล่าว
เข้าถึงลูกค้าทั้งภาษา-วัฒนธรรม
มีตัวอย่างที่น่าสนใจ 2 กรณีด้วยกัน คือ 1.เปิดเออีซีแล้ว "ภาษา" จะเป็นกำแพงขวางกั้น ประเด็นนี้ "วิศิษฐ์" ให้ข้อมูลว่า ตลาดแรงงานชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ชาติอาเซียน มีแนวโน้มจะมาแรงมาก เพราะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย ยกตัวอย่าง ค่าจ้างเท่ากันแต่สามารถฝึกพูดกับลูกเจ้านายได้ เป็นต้น
อีกตัวอย่างมาจาก "สมศักดิ์" ที่บอกว่า การให้บริการตลาดเช่าสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติมีความซับซ้อนมากขึ้น "วัฒนธรรม" ที่แตกต่างกลายเป็นตลาดเฉพาะ หรือนิชมาร์เก็ตไปในตัว
"จะเป็นนายหน้าบริการลูกค้าต่างชาติ นอกจากภาษาแล้ว ในด้านวัฒนธรรมก็ต้องเรียนรู้ เช่น คนญี่ปุ่น ถ้าจะเช่าบ้านแล้วห้องน้ำไม่มีอ่างก็ไม่มีทางจะขายเขาได้ หรือว่าบางตึกบางโครงการบอกเรามาเลยว่าไม่รับลูกค้าบางชาติ เพราะมีพฤติกรรมไปรบกวนลูกค้าชาติอื่น เพราะฉะนั้นถ้ามีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามา เอเย่นต์จะหาห้องเช่าจะหาจากที่ไหน..."
อนาคตที่จะเปิดเออีซี คำเตือนอย่างเป็นทางการคือเอเย่นต์ไทยจะทำธุรกิจแบบจับเสือมือเปล่าเหมือนในอดีตไม่ได้อีกต่อไปแล้ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-05-2558
|
|
|
|
|
